In The Heart Of The Sea (2015) หัวใจเพชฌฆาตวาฬมหาสมุทร

ดูหนัง In The Heart Of The Sea (2015) หัวใจเพชฌฆาตวาฬมหาสมุทร

รีวิว

MOVIE WORLD

In the heart of the sea 2015 หารับชมได้ทาง Netflix หนังจะถูกถอดในวันที่ 29 เม.ย นี้แล้ววว

เป็นอย่างที่รู้กันว่าโลกเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบ 3ใน4 ของโลก แปลว่ามีอีกหลายอย่างในทะเลที่มนุษย์เรายังไม่เคยพบเคยเจอกัน และนี้คือ 1 ในเรื่องราวที่เป็นตำนานของทะเลสุดยิ่งใหญ่ จากหนังสือเรื่อง In the Heart of the Sea: The Tragedy of the Whaleship Essex ของ “นาธาเนียล ฟิลบริค” ที่เขียนมาจากเรื่องกับเรื่องราวโศกนาฏกรรมของเรือล่าปลาวาฬ ที่ถูก”โมบี้ดิค”ปลาวาฬเจ้ามหาสมุทรโจมตีจนเรืออัปปาง

เรื่องย่อ หนังดำเนินเรื่องผ่านคำบอกเล่าของ โธมัส ถึงอดีตเมื่อเขาอายุ 14 ของเขา (ได้ ทอม ฮอลแลนด์ สไปเดอร์แมนคนล่าสุดมารับท) ที่เล่าราวใน ปี 1820 ของเรือ “เอสเซกส์ (Essex)” ของเหล่านักล่าปลาวาฬทั้ง 21 คน ในยุคนั้นยังไม่รู้จักน้ำมันดิบ พลังงานจากไขมันปลาวาฬจึงเป็นสิ่งมีค่ามาก ภารกิจของเรือ เอสเส็กซ์ คือล่าปลาวาฬเอาไขมันกลับมาให้ได้ 2,000 บาร์เรล (1 บาร์เรล = 159 ลิตร) และเมื่อออกเดินเรื่องไปแต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาเข้าไปในน่านน้ำที่ไม่เคยมีใครไป และได้พบกับปลาวาฬยักษ์โมบี้ ดิ๊ก

ความรู้สึกหลังดูจบ วาฬยักษ์ไม่ได้โผล่มาบนจอมากอย่างที่คาด แต่บอกเลยครับว่าโผล่มาแต่ละครั้งโคตรตื่นเต้นระทึก ลุ้นทุกครั้ง ทำได้โคตรสมจริงและน่ากลัว น่าเกรงขาม และการนำเสนอเรื่องราวลูกเรือทุกคนที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเอาชีวิตรอดจากวาฬโมบี้ดิ๊ก แสดงถึงความเป็นมนุษย์ได้ดีมากๆส่วนที่ไม่พูดได้เลยคือ พี่ธอร์ของเรานั้นเอง เปลี่ยนจากถือค้อนมาจับฉมวกแทงปลาแทน เท่ไม่แพ้ถือค้อนเลยครับ 555 อีกอย่างเราได้พบเห็นบ่อยๆของดาราฮอลีวูด คือการลดน้ำหนัก พี่ธอร์เราต้องลดน้ำหนัก ด้วยการกินอาหารวันละ 500 แคลอรี่ จนรีดน้ำหนักลงได้ 15 กิโลกรัม เป็นอะไรที่สุดมากเพื่อความสมจริงของหนัง

Wasant Tong Suthanyaphruet

[Movie Review] – In the Heart of the Sea (2015)

คะแนน B –
.
.
แม้ว่าภายนอกบทภาพยนตร์จะมีประเด็นน่าสนใจ จนเก็บเกี่ยวแทบจะไม่หวาดไม่ไหว เช่น วิพากษ์อุตสาหกรรมการล่าปลาวาฬ ในยุคต้นศตวรรษที่ 19, ระบบศักดินาและชนชั้น อันเป็นตัวแปรในการถุกเลือกเป็นผุ้นำ มากกว่าทักษะความสามารถส่วนบุคคล, ความร้ายกาจของมนุษย์ที่วางตนเองอยู่เหนือธรรมชาติ พยามครอบครองทุกสรรพสิ่งเพื่อผลประโยชน์, การต่อสู้กับความขัดแย้งในศีลธรรมจรรยาในจิตใจเพื่อเอาชีวิตรอด และ บลาบลา.. สิ่งเหล่านี้ระหว่างรับชมคือสามารถจับต้องได้ จนรุ้สึกว่าหนังให้อะไรมากกว่าความบันเทิง แต่ปัญหาคือมันกลับขาดความลุ่มลึก ความหนักแน่น และการต่อยอดไปสู่การเป็นอะไรที่มากกว่าแค่บันเทิงคุณภาพ เพราะด้วยองค์ประกอบทุกส่วนมันเอื้อให้เป็นหนังสายประกวดด้วยซ้ำ
.
ทว่ารุปแบบในการนำเสนอของ In the Heart of the Sea เราจะพบเสต็ปในการเล่าเรื่องธรรมดามากจนน่าตกใจ เพราะหากลองเทียบเคียงกับ Cast Away (2000) หรือ Life of Pi (2012) จะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจน ทั้งในส่วนของความคิดสร้างสรรค์และชั้นเชิงการกำกับ ทั้งที่ทรงหนังลักษณะนี้มักพาตัวเองไปถึงการเข้าชิงรางวัลไม่ยากเย็น.. งานนี้กลับเน้นพึ่งพางานเทคนิคพิเศษด้านภาพ และทักษะการเร้าอารมณ์ของผุ้กำกับ Ron Howard เป็นหลักซะมากกว่า ซึ่งก็ทำได้ดีในจุดนั้นอย่างไม่มีข้อตำหนิ แม้บทหนังพยามผลักดันประเด็นดราม่าที่มี

แต่ก็เทียบไม่ได้กับหนังธีมเดียวกันเรื่องอื่นๆ อันที่จริงแล้วมันยังอ่อนหัดกว่า Apollo 13, A Beautiful Mind, Frost/Nixon หรือ Rush ผลงานเก่าของ Ron Howard เสียด้วยซ้ำไป.. ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า In the Heart of the Sea มีการถ่ายทำที่ยากลำบากแสนสาหัส อาจจะยิ่งกว่างานที่ผ่านมาด้วย เพราะแน่นอนว่าไม่ได้ใช้แค่สตูดิโอ ที่เนรมิตรเป็นแท็งค์น้ำขนาดยักษ์แล้วมีฉากหลังเป็นบลูสกรีนเพื่อสร้าง CGI แต่ยังต้องไปถึงสถานที่จริงคือ Canary Islands ประเทศสเปน แม้ใช้ระยะเวลาเพียงสองสัปดาห์ และเป็นการแล่นเรือวนซ้ำๆที่เดิม 6 ชม./วัน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเสมอในการถ่ายทำบนเรือและทะเลของจริง
.
ถ้าจะให้เครดิท(แรงๆ)แก่ใครสักคนคงต้องเป็น Anthony Dod Mantle ผุ้กำกับภาพมือดีของวงการ ที่คิดค้นกลวิธีถ่ายทำด้วยการซ่อนกล้องตัวเล็กตามจุดต่างๆ จนได้ฟุตเตจแจ่มๆให้เลือกใส่ในหนังมากมาย แม้กระทั่งนักแสดงน่าจะยังไม่รุ้เลยว่ากล้องอยู่ตำแหน่งใดบ้าง มันจึงช่วยเสริมการแสดงและสถานการณ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น กระทั่งหลายฉากเราหลงลืมความเถรตรง

และทื่อมะลื่อของบทหนังไปได้เยอะเลยทีเดียว.. ด้านผุ้แสดงทั้งหลายก็มอบความทุ่มเททั้งกายใจ ฝึกทักษะเพื่อความสมจริงในการเป็นลูกเรือ Essex รวมถึงการที่ต้องทานเพียง 500 – 700 แคลอรี่/วัน นานถึงแรมเดือน (จากปกติ 2000 – 3000 แคลอรี่/วัน) เพื่อให้ร่างกายผ่ายผอมเสมือนคนเรือแตกสามเดือน ซึ่งน่าเสียดายที่บทหนังไม่สนองกับความตั้งใจมากพอ ไคล์แม็กซ์ช่วงท้ายขาดความกดดัน และสลดหดหู่แบบที่ควรทรงพลังไปแทน
.
สรุปโดยรวม In the Heart of the Sea หากคิดในแง่ของการเป็นหนังที่ได้วัตถุดิบที่ดีทั้ง งบสร้าง ผุ้กำกับ ทีมงาน และนักแสดง มันก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างเสียของอยู่เหมือนกัน น่าเห็นใจสุดคงหนีไม่พ้น Chris Hemsworth และนักแสดงอื่นๆที่มุ่งมั่นให้กับงานนี้ จะว่าไปก็สอดคล้องกับบทสรุปของตัวละคร Owen Chase ที่เริ่มต้นจากความทะเยอทะยาน เพื่อไปให้ถึงการเป็นที่ยอมรับทางสังคม

และค้ำจุนช่วยเหลือครอบครัวคือเมียและลุกที่กำลังจะลืมตา (ตรงข้ามกับ George Pollard ตัวละครของ Benjamin Walker ที่ต่อสู้เพื่อรักษาสถานะชนชั้นสูงของตนเอง) แต่ท้ายสุดกลับเผชิญอุปสรรคจากการตัดสินใจผิดพลาดและความละโมบ จนพ่ายแพ้ยับเยินแก่การลงโทษของธรรมชาติ ซึ่งก็ไม่ต่างกับการที่ Chris Hemsworth ฝากความหวังไว้กับผุ้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่แล้วก็กลายเป็นแค่บันเทิงคุณภาพ ไม่สามารถพาตนเองบินสูงในฐานะผุ้ท้าชิงนักแสดงนำชายอีกครั้ง แถมยังจะถอยหลังลงกว่าบทบาทนักแข่งรถ James Hunt ในหนังขวัญใจคนดูและนักวิจารณ์อย่าง Rush ไปซะอีก?!!!
Shorten with AI

WATCH FROM​ HOME​

In the Heart of the Sea (หัวใจเพชฌฆาตวาฬมหาสมุทร)

ภาพยนตร์อเมริกา​ ปี 2015

ไม่มี​พากย์​ไทย/มีคำบรรยายไทย

เวลา 2 ชั่วโมง 1 นาที

รับชมได้ที่​ #Netflix​ #NetflixTH

​แนวแอ็คชั่น​/ผจญภัย/สัตว์ทะเล/การเอาตัวรอด/เป็นเรื่องราวที่สร้างจากเรื่องจริง ของเรือล่าวาฬ เอสเซกส์(Essex) พร้อมลูกเรือ 21 ชีวิต ที่ออกเดินทางจากนิวอิงแลนด์ในปี ค.ส.1820 ซึ่งเป็นยุคทองแห่งการล่าวาฬ โชคร้ายที่เรือถูกโจมตีโดยวาฬหัวทุยสีขาวขนาด 85 ฟุต (sperm whale) พวกเขาจึงต้องผจญภัยกับสถานการณ์อันเลวร้ายกลางทะเล

(ความคิดเห็นส่วนตัว..)

งานภาพอลังกาลวาฬยักษ์! เป็นอีกเรื่องที่เราพลาดไม่ได้มีโอกาส​ไปดูในโรงภาพยนตร์ คือภาพมันอลังการมากใครที่ทันดูบนจอ IMAX คงสะใจกับภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นอย่างมาก​ เสียดายสุดๆ​ โอเคพลาดไปแล้วช่างมัน มาแก้ตัวในจอ LED จอยักษ์​กับที่บ้านก็ได้ครับ​ สีแน่นเสียงกระหึ่มสะใจเหมือนกัน

ดูจบแล้วก็รู้สึกได้ว่าโคตรคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปมาก หนังครบรสมาก ทั้งผจญภัย แอ็คชั่น ดราม่า นักแสดงบิ๊กเนมทั้งนั้นส่งอารมณ์และแสดงได้อย่างดีเยี่ยม แนะนำสุดๆ ควรจะต้องเปิดดูบนจอใหญ่ๆเท่านั้นนะครับ โคตรอลังการความตื่นเต้น! ฉากเรือฝ่าพายุ ฉากเรือไล่ล่าวาฬ และเหตุการณ์​การเอาชีวิตรอดที่แสนจะโหดร้าย ทั้งหมดนนี้มันทำเวลา 2 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็วในรูปแบบของความสนุกตื่นเต้นและซึ้งใจ

“คุณไม่ใช่กัปตัน.. แต่คุณเกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้.. ส่วนผมแค่เกิดมามีโอกาส”

บอกก่อนว่าใครหวังที่จะมาดูแค่วาฬล้วนๆแอ็คชั่นไล่ล่าของวาฬล้วนๆ คงผิดหวังนะครับ​ วาฬออกมาน้อยครับ​ แต่คุณภาพครับ​ ทุกครั้งที่วาฬออกมานั้นเขามาอย่างอลังการ​และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกับเรื่องราวทั้งสิ้น​ มาน้อยแต่มานะ​ ส่วนตัวผู้เขียนว่ามาไม่ได้น้อยไปหรอกกำลังพอแต่ถ้าเยอะกว่านี้ก็จะดีมาก

ภาระกิจอันใหญ่หลวงกับการออกล่าวาฬเพื่อเอาไขมันกลับมาให้ได้ในจำนวน 2,000 บาร์เรล (1 บาร์เรล = 159 ลิตร) ไขมันวาฬคือเชื้อเพลิงชั้นดีในยุคนั้น หากจะเปรียบเทียบมันก็คือน้ำมันดิบในยุคปัจจุบันของเรา​ ซึ่งในปี 1920 นั้น การขุดเจาะน้ำมันดิบยังคงไม่มีและยังไม่ถูกค้นพบ

ฉากใต้ท้องทะเลและวาฬออกแบบได้อย่างอลังการและบ้าคลั่งมาก ยิ่งฉากที่สู้แบบเอาเป็นเอาตายของวาฬตัวยักษ์ที่เข้าจู่โจมเรือมันตื่นเต้นและลุ้นเป็นอย่างมาก งาน CG วาฬและทะเลเนียนตาจนน่าตกใจ มันยิ่งส่งผลให้ทะเลดูน่ากลัวขึ้นไปอีกมากโข อีกทั้งงานเมคอัพที่โคตรเนียนตาของเหล่าลูกเรือที่หิวโซผอมแห้งแรงน้อย และ พ่อเทพเจ้าธอร์ “คริส เฮล์มเวิร์ธ” พี่แกเล่นลดน้ำหนักจริงๆ ด้วยการกินอาหารวันละ 500 แคลอรี่ จนน้ำหนักลงไปถึง 15 กิโลกรัม! ปั๊ดโธ่ งานลงทุนทุ่มสุดตัวก็มา

ยอมรับเลยว่าแรกๆเราก็เมามันส์กับการไล่ล่าวาฬรู้สึกตื่นเต้นมากมาย หลังกับโคตรรู้สึกใจหายกับวาฬที่ถูกล่า เพราะในขณะที่พุ่งฉมวกไปที่หลังวาฬตัวใหญ่นั้น ก็มักจะเห็นวาฬตัวเล็กซึ่งเป็นตัวลูกว่ายเคียงข้างแม่มันเสมอ แม่ก็อยากปกป้องลูก ลูกก็อยากอยู่ข้างแม่ นี่คือแว๊บนึงในความคิดที่อยู่ๆมันก็แว๊บเข้ามาในหัวของเรา และเมื่อคุณดูไปจนใกล้จบ เมื่อถึงตรงนั้นคุณคงเข้าใจความหมายของการอยู่ร่วมกันอย่างลึกซึ้งในซีนส่งท้ายกลางท้องทะเล ระหว่างคนล่ากับวาฬ

มีอยู่ซีนหนึ่งที่เราชอบ มันคือการแบ่งปันอาหารโดยการแบ่งขนมปังออกเป็นชิ้นเล็กๆเท่าจำนวนคนบนเรือ​ ใส่ไว้ในถาดแล้วส่งไปเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายถาดพร้อมขนมปังชิ้นสุดท้ายก็ถูกส่งกลับมาที่ต้นทางโดยมีเหลือไว้หนึ่งชิ้น ตรงนี้คงเป็นการป้องกันการหยิบเกิน มันก็คงเป็นกฏระเบียบหรือกุศโลบายเล็กๆในยามคับขันที่ต้องมีไว้บ้าง

“นี่ไม่ใช่แค่เรื่องราวของคนกลุ่มนี้และการเดินทางของพวกเขาเท่านั่น” ผู้อำนวยการสร้างวิลล์ วอร์ดกล่าว.. แต่ยังเป็นเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อว่าด้วยการอยู่รอดและสิ่งที่คนคนหนึ่งยอมทำเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองและผู้อื่นเอาไว้ ตอนที่อ่านบทและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวในหนัง สิ่งที่ทำให้ผมตกตะลึงคือคนเหล่านี้ทำสิ่งนี้เพื่อหาเลี้ยงชีพ พวกเขาล่องเรืออกไปสู่ทะเลเปิดโดยใช้เรือขนาด 80 ถึง 100 ฟุตโดยแต่ละครั้งใช้เวลาหลายปี และเมื่อพวกเขาเห็นปลาวาฬ พวกเขาก็จะตามล่าสัตว์ร่างยักษ์นั่นด้วยเรือพายลำเล็กๆ มันเหลือเชื่อจริงๆ ครับ”

รอน ฮาวเวิร์ด ผู้กำกับได้กล่าวว่า “เรื่องจริงของเรือ Essexนั้นน่ามหัศจรรย์ เป็นเรื่องราวที่เต็มเปี่ยม รุ่มรวย และมีความเป็นภาพยนตร์อยู่ในตัวเอง รวมทั้งมีจุดหันเหและจุดพลิกผันมากมายตลอดทาง แม้ว่าหนังเรื่องนี้เล่าเรื่องในอดีต แต่ก็ได้กล่าวถึงแนวคิดเรื่องความสัมพันธ์ การอยู่รอด ความเป็นมนุษย์ และธรรมชาติที่ยังคงเข้าถึงได้และกระตุ้นความคิด รวมทั้งเชื่อมโยงกับความเข้าใจที่เรามีต่อสิ่งที่เราเป็นในฐานะมนุษย์”

พอลลา ไวน์สไตน์กล่าวว่าขนาดอันใหญ่โตของปลาวาฬตัวนี้ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้มันแตกต่าง “สำหรับฉันแล้วมันเป็นเสียงจากธรรมชาติที่บอกว่า “พอได้แล้ว!” มันเป็นผู้ปกป้องที่กำลังบอกนักล่าปลาวาฬด้วยวิธีเดียวที่มันทำได้ว่าให้หยุดการรุกรานน่านน้ำและฆ่าครอบครัวของมันได้แล้ว ด้วยยุคสมัยที่เราอยู่ นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก ฉันคิดว่าผู้ชมก็คงอยากให้เชส พอลลาร์ด และคนอื่นๆรอดชีวิตและได้กลับบ้าน แต่ในขณะเดียวกันผู้ชมก็จะคอยเชียร์ปลาวาฬด้วย เป็นความรู้สึกที่ผสมปนเปกันซึ่งทำให้เรื่องราวชวนติดตามยิ่งขึ้นกว่าเดิม”

In the Heart of the Sea คือผลงานภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือเรื่อง In the Heart of the Sea: The Tragedy of the Whaleship Essex ของ “นาธาเนียล ฟิลบริก” และ เมื่อหันไปดูชื่อของผู้กำกับก็พบว่าเขาคือ Ron Howard ผู้ที่เคยสร้าง Far and Away (1992), Apollo 13 (1995), Ransom (1996), A Beautiful Mind (2001), The Missing (2003), Cinderella Man (2005), The Da Vinci Code (2006), Frost/Nixon (2008), Angels & Demons (2009) และ Rush (2013) นั่นจึงเป็นความคิดที่ง่ายมากๆว่าเฮ้ย! ต้องดูให้ได้นะ..

กัปตันเรือ คือ​ ตำแหน่งสูงสุดในเรือ มีความรับผิดชอบสูงสุดทุกด้านภายในเรือ ทั้งในเรื่องความปลอดภัยและความสำเร็จของงานโดยรวม

ต้นเรือ คือ ทำหน้าที่เป็นรองผู้บังคับการเรือ หรือรองกัปตันเรือ รับผิดชอบการบริหารจัดการภายในเรือ, การฝึกความพร้อมของเรือ, ความปลอดภัย, และความเป็นอยู่ของคนประจำเรือ ในเรือพลเรือนและเรือรบต่างชาติต้นเรือจะรับผิดชอบการป้องกันความเสียหายภายในเรือด้วย

นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเองล้วนๆ​ เพราะความชอบหรือไม่ชอบนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล​ รสนิยมในการรับชมย่อมแตกต่างกัน​ บางท่านอาจจะชอบหรือไม่ชอบ​ ก็ลองตัดสินใจด้วยตัวท่านเองนะครับ

“ขอให้มีความสุขในการรับชมนะครับ”
.
#หัวใจเพชฌฆาตวาฬมหาสมุทร

#InTheHeartOfTheSea

#WatchFromHome

ผู้กำกับ

• Ron Howard

บริษัท ค่ายหนัง

• Village Roadshow Pictures
• Roth Films
• Imagine Entertainment
• RatPac-Dune Entertainment
• COTT Productions
• Enelmar Productions A.I.E.
• Spring Creek Pictures
• Kia Jam

นักแสดง

• Chris Hemsworth
• Benjamin Walker
• Cillian Murphy
• Tom Holland
• Ben Whishaw
• Brendan Gleeson

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ดูหนังออนไลน์ เล่าถึงเรือล่าวาฬในนิวอิงแลนด์จมโดยวาฬยักษ์ในปี 1820 ประสบการณ์ที่ต่อมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับนวนิยายอันยิ่งใหญ่เรื่อง Moby-Dick

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Open Water 1 (2003) ระทึกคลั่ง ทะเลเลือด

Deep Blue Sea 3 (2020) ทะเลลึกสีน้ำเงิน 3

Shutter Island (2010) เกาะนรกซ่อนทมิฬ

The Vanishing (2018) สามสาบสูญ

Fantasy Island (2020) เกาะสวรรค์ เกมนรก