Jurassic World Dominion (2022) จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร

Jurassic World Dominion (2022) จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร

รีวิวหนัง

Moviereview – หนังดีต้องบอกต่อ

หนังภาคต่อที่พอดูได้ และเน้นแต่แฟนเซอร์วิส บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า

📣 เรื่องย่อ Jurassic World Dominion จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร
ภาคนี้ถือเป็นภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ จูราสสิคเวิลด์ โดยในภาคนี้เรื่องราว 4 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ในภาคก่อน ที่ไดโนเสาร์ได้หลุดออกมาจากเกาะ และได้มาอยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์ เปิดเรื่องมาจะให้เราได้เห็นปัญหาของการอยู่ร่วมกัน เพราะไดโนเสาร์บางสายพันธ์นั้นดุร้าย และโจมตีมนุษย์ ทำให้มีมนุษย์ถูกไดโนเสาร์สังหารอยู่บ่อยครั้ง ในด้านของ โอเว่น (คริส แพรตต์), แคลร์ (ไบรซ์ ดัลลัส) และ ไมซี่ ล็อกวู้ด (อิซาเบลลา เซอร์มอน)

เด็กสาวจากภาคที่แล้ว ซึ่งเธอถูกสร้างขึ้นมาจากวิทยาศาสตร์ เธอถูกหมายหัวและมีคนอยากจับเธอไปทดลอง ทำให้พวกเขาทั้ง 3 คน ต้องหนีไปอาศัยกันอยู่ในป่าที่ห่างไกล จนมาวันหนึ่ง ไมซี่ ได้ถูกกลุ่มคนปริศนาจับตัวไป ทำให้ โอเว่น และแคลร์ ที่รักไมซี่เหมือนลูกสาวแท้ๆ ต้องออกเดินทางไปยังศูนย์วิจัยไดโนเสาร์ เพื่อไปช่วยไมซี่กลับมา สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไร พวกเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Jurassic World Dominion จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

ดูหนังให้หมดทั้งโลก

ปิดไตรภาคแฟรนไชส์ที่ pointless ที่สุดของฮอลลีวู้ดไปอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยการทำงานเผาทุกอย่างทุกประเด็น ขายความ nostalgia ซ้ำซากและทริบิวต์ (ลอก) ต้นฉบับของปี 1993 ที่ไม่ได้ทำให้ประทับใจอะไรอีกต่อไป กองทัพนักแสดงที่ขนมาทั้งเก่าและใหม่พังไม่เป็นท่าด้วยบทหนังที่น่าเบื่อและไม่มีอะไรเลย แถมยังพยายามจะวางตัวเองให้เป็นหนังสปายแบบ Mission Impossible ที่ลดเกรดลงมาซักสิบเท่าตัวได้
.
หลังจากที่ “เมซี่” (Isabella Sermon) เลือกที่จะปล่อยไดโนเสาร์ออกมาเพ่นพ่านบนโลกร่วมกับมนุษย์ เธอก็ถูกลักพาตัวเพราะเป็นเป้าหมายหลักในการวิจัย DNA ร้อนไปถึง “โอเว่น” (Chris Pratt) และ “แคลร์” (Bryce Dallas Howard) ต้องไปตามตัวเธอกลับมาโดยได้รับความช่วยเหลือจาก “เคย์ล่า” (DeWanda Wise) นักบินขนของเถื่อน ในขณะที่อีกเส้นเรื่องหนึ่งคือ “ดร.เอลลี่” (Laura Dern) สังเกตเห็นความผิดปกติถึงฝูงตั๊กแตนยักษ์ที่กินพืชพันธ์ของเกษตกรจนเกลี้ยงเว้นแต่เมล็ดพันธ์ของบริษัทไบโอซิม เธอจึงไปขอร้องให้ “ดร.อลัน” (Sam Neill) ไปค้นหาความจริงในบริษัทที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหารไปทั่วโลก
.
สิ่งที่ทำให้ Jurassic Park ภาคแรกประสบความสำเร็จขึ้นแท่นหนึ่งในหนังคลาสสิคตลอดกาลไม่ใช่แค่เป็นการปรากฏตัวของไดโนเสาร์ที่น่าตื่นเต้นอลังการเท่านั้น แต่เพราะการกำกับซีนระทึกขวัญทุกซีนของสปีลเบิร์กต่างหากที่ช่วยโอบอุ้มหนังทั้งเรื่องเอาไว้แม้โดยรวมไดโนเสาร์จะออกมาจริง ๆ ไม่ได้นานมากก็ตาม แต่การออกแบบคาแรกเตอร์ที่น่าจดจำ ซีนระทึกขวัญที่ใครดูก็ต้อลตื่นเต้นแม้จะผ่านมานานเกือบ 30 ปี ทั้งซีนปีนรั้วไฟฟ้า หนีทีเร็กซ์ครั้งแรก เด็ก ๆ หนีตายจากแรปเตอร์ในห้องครัว ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรที่ Jurassic World

ในยุคหลังจะเปลี่ยนจากหนังระทึกขวัญมาเป็นแอคชั่นตรง ๆ ตั้งแต่ภาคแรกที่เน้นความวินาศสันตะโรของฉากเทอราโนดอนโจมตีผู้คน หรือภาคสองที่วกกลับมาเป็นหนังแนว Home Invasion และภาคนี้ที่กลายร่างเป็น Fast + Mission Impossible แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ล้มเหลวด้วยการกำกับที่ไร้ซึ่งความน่าตื่นเต้น ไม่มีความระทึกใจใด ๆ และจะไม่แปลกใจที่จะมีใครหลายคนหยิบโทรศัพท์ขึ่นมาเล่นในฉากมนุษย์คุยกันเพราะมันน่าเบื่อมากจริง ๆ แม้กระทั่งฉากที่ไดโนเสาร์โผล่ออกมาก็ยังไม่ได้ช่วยให้ตัวหนังน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นเลย
.
สิ่งหนึ่งที่อุตสาหกรรมหนังฮอลลีวู้ดพยายามแล้วพยายามอีกที่จะทำคือการทริบิวต์ให้ฉากต้นฉบับ และขายความ nostalgia ที่ผู้ใหญ่หลายคนเมท่อได้เห็นภาพนักแสดงที่ตัวเองเคยดูในสมัยเด็กกลับมาโลดแล่นบนจอใหญ่อีกครั้งคงมีความสุขกัน เรื่องที่ประสบความสำเร็จมากคือ Top Gun Marverick ที่นอกจากจะทริบิวต์ให้ภาคแรกอย่างสวยงามยังต่อยอดความสนุกไปมากกว่านั้นด้วยซียขับเครื่องบินที่ลุ้นจนก้นแทบไม่ติดเก้าอี้ ในขณะที่ Jurassic World (และอะไรอีกหลาย ๆ เรื่อง) ก้าวถอยหลังลงคลองด้วยการทำทุกอย่างซ้ำซาก จำเจ บรรดาเหล่านักแสดงรุ่นเก่าทั้งแซม

นีล ลอร่า เดิร์น หรือเจฟ โกลด์บลัมต่างได้บทตัวละครที่ไร้สาระและแทบไม่มีความจำเป็นใด ๆ ต้องนำพวกเขาเหล่านี้กลับมาเพราะทำลายภาพจำคลาสสิคลงไปหมด ในขณะที่ภาคสองเปิดประเด็นใหม่ด้วยประโยคที่ว่า They deserved to live ภาคนี้นอกจาก 10 นาทีแรกที่เหมือนจะพูดประเด็นนี่ก็วกกลับมาเล่าเรื่องความโลภของมนุษย์ เหล่านายทุนสามานย์ที่ผูกขาดความเจริญโดยไม่สนว่าจะเกิดหายนะอะไรขึ้นในอนาคต ตัดสลับไปกับพาร์ทขับรถหนีการไล่ล่าของไดโนเสาร์ที่ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ และแผนโจรกรรมสุดกิ๊กก๊อกของเหล่าตัวละครรุ่นใหญ่

ก่อนจะจบลงด้วยการเปิด Voice over กรอกหูคนดูจนแทบจะกุมขมับ เหมือนพยายามจะหาทางลงให้ดีที่สุดแล้วแต่ execute ของหนังมันแย่จนงงว่ากล้าปล่อยอะไรแบบนี้ออกมาให้คนดูดูได้อย่างไร อะไรคือการที่หนังบอกให้เรา(มนุษย์ สัตว์โลก ไดโนเสาร์) ต้องพึ่งพากันในเมื่อหนังก็ยังขายไดโนเสาร์เป็นสัตว์ประหลาดที่พร้อมจะไล่ฟาดมนุษย์ทุกครั้งที่เห็น ยังไม่นับฉาก climax ที่เหล่าตัวเบิ้มทั้งสามมาสู้กันแบบจืดสนิท และพาร์ทตั๊กแตนที่คลี่คลายลงแบบงง ๆ

ผู้กำกับ

โคลิน เทรวอร์โรว์

บริษัท ค่ายหนัง

แอมบลินเอนเทอร์เทนเมนต์

นักแสดง

คริส แพร็ตต์
ไบร์ซ ดัลลาส ฮาวเวิร์ด
ลอรา เดิร์น
แซม นีล
เจฟฟ์ โกลด์บลุม
มามูดู อาธี
สก็อตต์ เฮซ
ดิเชน ลัชมัน
แดเนียลลา ปิเนดา
อิซเบลลา เซอร์มอน
จัสติซ สมิท
โอมาร์ ไซ
เดวานดา ไวส์
บีดี หว่อง

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ดูหนัง Jurassic World Dominion (2022) จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร เตรียมพบกับบทสรุปอันยิ่งใหญ่แห่งยุคจูราสสิค ทุกท่านจะได้พบกับการรวมตัวกันครั้งแรกของคน 2 รุ่น คริส แพรตต์ และไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด ร่วมงานกับ ลอร่า เดิร์น ผู้ชนะรางวัลออสการ์, เจฟฟ์ โกลด์บลูม และแซม นีล ใน Jurassic World Dominion จูราสสิค เวิลด์: ทวงคืนอาณาจักร การผจญภัยครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่  ดูหนังออนไลน์   น่าตื่นเต้น เข้ากับยุคสมัย เป็นการผจญภัยที่ครอบคลุมทั่วโลก

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Jurassic Park 3 (2001) จูราสสิค พาร์ค 3

The Lost World Jurassic Park (1997) เดอะ ลอส เวิลล์ ใครว่ามันสูญพันธุ์

Jurassic Park 1 (1993) จูราสสิค ปาร์ค 1 กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์

Jurassic World (2015) จูราสสิค เวิลด์

Jurassic World 2 (2018) จูราสสิค เวิลด์ อาณาจักรล่มสลาย