Joker (2019) โจ๊กเกอร์

Joker (2019) โจ๊กเกอร์

รีวิวหนัง

Kanin The Movie

สิ่งที่น่าสนใจใน Joker (2019) ประเด็นหนึ่งคือการพูดถึง “ความเจ็บป่วย” ในหลายๆมิติ เราได้พบตั้งแต่เริ่มว่า อาเธอร์ เฟล็ค มีปัญหาทางจิตและโรคชนิดหนึ่งที่ทำให้เขามีปัญหาในการหัวเราะ (และทุกๆครั้งที่เขาหัวเราะมักไม่ได้เกิดขึ้นเพราะรู้สึกตลก หากแต่เป็นสิ่งที่อยู่ตรงกันข้าม) ซึ่งไม่ได้ถูกรักษาหรือความพยายามจะเยียวยาแต่อย่างใด แม้ว่า อาเธอร์ จะมีหมอจิตวิทยาคอยดูอาการอยู่เสมอ แต่ทุกๆครั้งที่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล ถูกถามซ้ำๆกับเรื่องเดิมๆ และหวังให้ยาสักตัวรักษาอาการผิดปกติของเขาก็ดูเป็นการเยียวยาที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่าไหร่นัก หนำซ้ำ การถูกตัดงบจากรัฐบาลก็ทำให้สิทธิในการรักษาของเขาสิ้นสุดลงอีกด้วย
.
อาเธอร์ เฟล็ค ไม่ได้ถูกรักษาอยางถูกวิธี แต่สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือการถูกสังคมบีบให้เขาแสดงตัวตนเป็น “คนปกติ” อยู่ ยิ่งนับวันที่เขาถูกรังแกจากผู้คนในสังคม ถูกลดทอนโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดี ถูกเมินเฉยจนรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีตัวตนจริงๆ การเสาะแสวงหาโอกาสที่จะถูก “แสงไฟ” ฉายส่องลงมายังชีวิตอันดูไร้ค่าและความหมายของเขาจึงเริ่มต้นขึ้น แม้ว่าเรื่องราวส่วนใหญ่ของ อาเธอร์ จะไม่ใช่ภารกิจหรือการวางแผนไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน หลายๆครั้งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว

(หนึ่งในนั้นคือการกลายเป็นสัญลักษณ์ให้กับกลุ่มประท้วง ความคับแค้นที่อดกลั้นไม่ได้ของ อาเธอร์ สอดคล้องกับการต่อสู้ทางชนชั้นของผู้คนในตอนนั้นพอดี) แต่เราก็ได้เห็นว่าความรู้สึกลึกๆของเขา ความพยายามที่จะเป็นคนตลก (หาใช่ตัวตลก) ได้มีโอกาสแสดงหรือถ่ายทอดบางสิ่งเพื่อก่อร่างสร้างตัวตนขึ้นมา ปรากฎอยู่ในภาพความคิดของเขาอยู่เสมอ ซึ่งท้ายที่สุดเราก็ได้พบว่า อาเธอร์ เฟล็ค สำเร็จในสิ่งที่ต้องการเมื่อตัวตนเขาได้หลอมรวมเข้ากับสังคมเอาเน่าเฟะกลายเป็น โจ๊กเกอร์ ที่ครั้งหนึ่งคนหัวเราะใส่ แต่ ณ วันนี้เลือกที่จะไม่ขำกับชีวิตเขาอีกต่อไป
.
สิ่งที่น่ากลัวและชวนขบคิดไม่น้อยคือการที่   ถูกเล่าผ่านตัวละคร อาเธอร์ เฟล็ค ทั้งเรื่อง นั่นหมายถึง ความคิด ปัญหา หรือกระทั่งการคลี่คลายปมต่างๆนานาเราเห็นผ่านมุมมองของเขาแต่เพียงผู้เดียว การปะทะกันระหว่างความเจ็บป่วยของเขา กับสังคมเลยเป็นสิ่งที่ท้าทายมากๆว่ามาตรวัดความเจ็บป่วยมันอยู่ตรงไหนกัน ในโลกที่ทุกสิ่งกำลังฉิบหายถูกบอกเล่าและเรียนรู้ผ่านคนที่ฉิบหายไม่ต่างกัน มันจึงออกมาเป็นภาพยนตร์ที่มีความสุดขีดใน “มุมมอง” การเล่าอยู่พอสมควร โดยเฉพาะการที่มันเป็นหนัง Character Study ที่จดจ่ออยู่กับชีวิตการตัดสินใจของตัวละครเดิมตั้งแต่ต้นจนจบ (ซึ่งไม่ว่าใครจะรู้สึกว่ามันโน้มน้าวให้คิดตามหรือไม่ มันกลายเป็นเครื่องมือในการวัดความคิดเชิงจิตวิทยาของคนดูไปแล้ว สยองดี)

Watchman

หนึ่งในตัวละครวายร้ายที่โด่งดังที่สุดของค่าย DC นามว่า   ถูกนำมาใช้ในภาพยนตร์หลายครั้งหลายครา โดยที่ทั้งหมดเป็นการนำเสนอ   ในแบบที่มีประวัติคลุมเครือตามในคอมมิคและเน้นการบอกผู้ชมว่า ” ทำอะไร?” มากกว่าที่จะบอกว่า “เขาคือใคร?”
และนี่คือ ฉบับ Joaquin Phoenix ครับ นี่คือหนังเรื่องแรกตั้งแต่การปรากฏตัวครั้งแรกบนแผ่นฟิล์มของ   ที่เลือกที่จะทำสิ่งที่แตกต่าง เลือกที่จะดดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของจิตใจเพื่อสำรวจ motive ของวายร้ายสุด iconic รายนี้ และก็ตีแผ่มันออกมาได้ดีอย่างเหลือเชื่อซะด้วย

บางทีนี่อาจใช่ทางของ DC แล้วก็เป็นได้ครับ การนำวัตถุดิบคุณภาพดีอยู่แล้ว มาตีความใหม่ ผ่านวิสัยทัศน์ใหม่ 2019 เป็นหนังที่มีโทนค่อนข้างหดหู่ ตึงเครียด กดดัน ดูไปคิ้วขมวดไป มันเป็นหนังชีวประวัติที่   สมควรได้รับ ด้วยอิสระในการสรรค์สร้างที่ทางค่ายมอบให้เหมือนครั้งที่ Nolan เคยได้ ทำให้ผู้กำกับ Todd Phillips ทำงานโดยปราศจากกรอบ และผลักตัวหนังให้ไปได้ไกลกว่าหนังสร้างจากคอมมิคเรื่องอื่นๆ (ส่วนใหญ่)

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นการตีแผ่ background ของตัวละคร  ผ่านเรื่องราวที่เต็มไปด้วยประเด็นสังคมเสื่อมทราม ด้านมืดของโลกใบนี้ โลกที่อำนาจและความมั่งคั่งอันกระจุก ในขณะที่ความจน ความอยุติธรรม และความไม่เท่าเทียมมีให้เห็นอย่างกระจายโดยทั่ว ไม่ต่างอะไรไปจากโลกแห่งความจริงของเรา
ในมุมมองของ Arthur Fleck ผู้ตกเป็นเหยื่อสังคม เขาต้องการความรัก ความเมตตา และความเข้าใจ

แต่สิ่งที่โลกตอบกลับมาคือ “ถ้ารู้ตัวว่าบ้าหนือไม่เหมือนคนอื่น ก็ทำตัวให้เป็นปกติซะสิ” โดยที่ไม่แยแสหรือเห็นอกเห็นใจเลยว่าอะไรทำให้คนๆนึงทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ เป็นในสิ่งที่ไม่อยากเป็น ในบ้างครั้งมันก็โหดร้ายครับที่โลกไม่คิดประนีประนอมกับคนที่ต้องการการประนีประนอมเอาซะเลย
จริงอยู่ที่โลกของเรามีความสวยงาม แต่หนังเรื่องนี้ต้องการที่จะจำลองโลกสุดมืดมนให้เราเป็นพยาน ด้วยการใช้นคร Gotham อันเป็นที่รู้จักดีว่าเต็มไปด้วยความโสมมเสื่อมโทรมมาใช้ depict ประเด็นที่กล่าวมา

ผู้กำกับ

ท็อดด์ ฟิลลิปส์

บริษัท ค่ายหนัง

วอร์เนอร์ บราเธอร์ส พิคเจอร์ส

นักแสดง

วาคีน ฟีนิกซ์
โรเบิร์ต เดอ นีโร
ซาซี่ บีทซ์
ฟรานเซส คอนรอย

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ดูหนัง Joker (2019) โจ๊กเกอร์   เรื่องราวของ อาเธอร์ เฟล็ค (แสดงโดย วาคีน ฟีนิกซ์) ชายที่ต้องใช้ชีวิตในสังคมที่มีความแตกแยกในก็อตแธม ชีวิตต้องฟันฝ่าอุปสรรคในแต่ละวัน อาเธอร์ เป็นตัวตลกรับจ้างรายวันและอยากเป็นนักแสดงตลกสแตนอัพในช่วงค่ำคืนแต่กลับต้องพบกับเรื่องตลกที่เกิดขึ้นกับตัวเอง อาเธอร์ ใช้ชีวิตท่ามกลางความเมินเฉยและความโหดร้ายทารุณของผู้คน และเขายังทุ่มเทเวลาไปกับการดูแลแม่ที่ไม่ค่อยแข็งแรง ตลอดชีวิตเขามองหาความรักจากผู้เป็นพ่อที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน

ก่อนจะพบว่าอยู่บนโลกแห่งความจริงที่แสนจะโศกเศร้า เขาไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาที่มีผู้คนอยู่รายล้อม  ดูหนังออนไลน์   ซึ่งเห็นได้จากเสียงหัวเราะที่ควบคุมไม่ได้และดูไม่เหมาะสม ขาพยายามควบคุมเท่าไหร่มันก็ยิ่งแสดงออกมามากขึ้น จนทำให้เขาแสดงความเยาะเย้ยและความรุนแรงออกมา ก่อนพบเจอความอบอุ่นนั้นในตัวของ โทมัส เวย์น นักธุรกิจจิตใจดี และ เมอร์รีย์ แฟรงคลิน พิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดัง แต่แล้วกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ทำให้ความจริงบางอย่างปรากฏขึ้นเขาจึงเลือกตัดสินใจตอบโต้อย่างรุนแรงในหลายเหตุการณ์ และทำให้เกิดความบ้าคลั่ง รวมไปถึงเรื่องร้ายๆจึงตามมา

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Wages of Fear (2024)

Man On Fire (2004) คนจริงเผาแค้น

Last Three Days (2020)

Showtime (2002) โชว์ไทม์ ตำรวจจอทีวี

Wolves (2014) สงครามพันธุ์ขย้ำ