ดูหนังออนไลน์ เต็มเรื่อง หนังใหม่อัพเดททุกวัน ฟรี HD ชัด

ดูหนังออนไลน์ moviehd24 หนังใหม่HD ดูหนังเต็มเรื่อง2024 ซีรี่ย์ออนไลน์ ดูซีรี่ย์ฟรี

google search

Fast And Furious 8 (2017) เร็ว…แรงทะลุนรก 8

ปีที่ฉาย : 2017
เสียง : พากย์ไทย
Episode : -
imdb 6.7
ความคมชัด : HD
Fast And Furious 8 (2017) เร็ว…แรงทะลุนรก 8

ดูหนังออนไลน์ Fast And Furious 8 (2017) เร็ว…แรงทะลุนรก 8

เรื่องย่อ : Fast And Furious 8 (2017) เร็ว…แรงทะลุนรก 8 ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD

Fast And Furious 8 (2017) เร็ว…แรงทะลุนรก 8

รีวิว

Movie FF: Friend and Fun

Movie FF: Review (รีวิวหนังใหม่ชนโรง)

“The Fate Of The Furious”

(เร็ว .. แรงทะลุนรก 😎

(2017) – Score: 8/10 | Recommend

– ไม่สปอยล์เนื้อหาสำคัญ –

ในที่สุดวาระนี้ก็มาถึง 555 ความเป็นหนังแข่งรถโจรกรรม ไล่ล่าปลอมตัวเป็นตำรวจเล็กๆ มันลากยาว ยาวซะจนมาถึงภาค 8 แล้ว (ได้ยังไง? 555) แต่ก็นั่นแหละ! เราอาจจะไม่ต้องหาเหตุผลว่ามันมาได้ยังไง เพราะไหนๆ มันก็มาแล้ว อีกทั้งก็คงไม่ต้องสาธยายอะไรกันให้มากความกันอีก เพราะมันเลยจุดที่หาความ ‘เมคเซนส์’ ได้ ในหนังแฟรนชายส์ชุดนี้มานานแล้ว (ถ้าจำไม่ผิด ภาค 1-3 ยังคงมีตรรกง-ตรรกะอยู่ พอภาค 4 ไปเท่านั้นล่ะ #เอิ่มมม) หลังจากนี้ไปเอาแค่ ‘มึงต้องมันส์!’ อย่างเดียวค่ะ!

“The Fate Of The Furious” (Fast And Furious 😎 เล่าถึงการแปรพักตร์แปรพวกของหัวหน้าครอบครัวรถซิ่ง ‘ดอม’ ที่เหมือนเห็นชะนี (หน้าใหม่) ดีว่าเมียของตัว กว่าพี่กว่าน้องของตัว ที่รู้จักกันมาเกือบ 20 ปี ทำไมเขาถึงต้องเห็นชะนีใหม่นี่ดีกว่า? หรือมันมีอะไรแอบแฝงอยู่เบื้องหลังการแปรพักตร์ครั้งนี้? ต้องไปดู!

หากจะว่ากันตามตรง พล็อตการ ‘แปรพักตร์’ จากมิตรไปเป็นศัตรูอะไรนี่มันก็ไม่ได้ใหม่นักอะไรมากมายกับวงการหนังแอคชั่นที่เราเคยดูผ่านหูผ่านตากันมา แต่พอเมื่อมันมาอยู่ในหนัง “Fast” นี่สิ! มันเลยดูน่าสนใจทันที ยิ่งคนที่แปรพักตร์ด้วยเป็นตัวละครที่เรา ‘รัก’ และ ‘คุ้นเคย’ กับเขามาตั้งแต่อ้อนแต่ออก (ภาคแรก) อย่าง ‘โดมินิค โทเร็ตโต'(ดอม) มันเลยดูน่าสนใจขึ้นมาอีกระดับทันที แถมก็พลอยคิดไปด้วยว่ามันมี ‘เงื่อนงำ’ อะไรรึป่าววะ? ตอนจบแม่งจะกลับมาไหม? ครอบครัวมึงล่ะจะยังไง? โอ้ยยย!!! สารพัดสารเพไปหมดหลายสิ่งอย่าง 555 (แต่ส่วนตัวระหว่างดูเดาไม่ค่อยผิดคาดสักเท่าไร ค่อนข้างตรงกับที่คาดไว้อยู่พอสมควร)

และอย่างที่เกริ่นไปตอนต้น ตรรกง-ตรรกะของหนังชุดนี้ทุกๆ คนคงเลิกสนใจ เขวี้ยงทิ้งทุกสิ่งอย่างไปเหมือนเจ๊แอดกันหมดแล้ว ตั้งแต่ภาค 4 นี่คือกูขอมันส์อย่างเดียวพอ! ยิ่งมันส์เท่าไรยิ่งดี! ซึ่งใน “The Fate Of The Furious” นี้ เจ๊แอดก็การันตีได้อย่างหนักแน่น เสียงแข็งเลยค่ะ ว่าเป็นภาคที่แม่งมันส์จริง! มันแบบบ้าแบบบอ! มันส์หลุดโลกไปแล้ว! มันส์ Here Here! มันส์เวอร์มันส์วัง! มันส์แบบมันส์ชิบหายวายวอด! มันส์จนไม่รู้จะมันส์ยังไง ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมามันส์แล้วค่ะ! 55555 (มีใครให้มากกว่านี้มั้ยคะ? มันส์แบบไหนเมนท์บอกได้ค่ะ 555)

อีที่เจ๊บอกมันส์มากกก!!! มันส์ทั้งหลายแหล่หลายอย่างเนี่ย ก็ต้องบอกอีกว่ามันไม่จำเป็นต้องถึงซีน ‘Climax’ ของเรื่องหรอกนะ อีซีนเรือดำน้ำกลางทะเลน้ำแข็งนั่นน่ะ! เพราะภาคนี้แม่งมันส์ทุกฉากจริงๆ มันส์ตั้งกะเปิดเรื่องยันจบเรื่อง ไม่มีให้ได้พักเป็นวรรคเป็นเวรอะไรเลย มันส์แบบนั่งไม่ติดเบาะ ตาลุกวาว อ้าปากค้าง เบอร์นี้จริงๆ (จะหาว่าเจ๊เวอร์ก็ยอม)

ยิ่ง Best Scene ของภาคนี้ที่ส่วนตัวรู้สึกชอบมากจริงๆ คือซีนก่อจราจลในช่วงก่อนรองซีนสุดท้าย เฮ้ย! แม่งแบบหนังเล่นใหญ่ได้อะไรเบอร์นี้วะ?! (มันอาจจะใหญ่น้อยกว่าซีนเรือดำน้ำ แต่รู้สึกว่าซีนนี้สนุกมาก) รถยนต์ทุกคันบนถนนถูกคุมได้ด้วยรีโมท ก่อจราจลกันได้ง่ายๆ อะไรเบอร์นี้ อภิมหาความเรียงราย ความอื้อซ่า ฟูฟ่าของรถในซีนนี้นับว่าอลังการบานตะไทแบบไม่เคยเห็นมาก่อน ความพังพินาศที่หนังแม่งบ้าไปแล้ววว!!! (คำชม) เอารถมาพังเล่นๆ อย่างกะรถของเล่นเด็ก Sale 3 คัน 100 5 คัน 120 อะไรแบบนั้นเลย มันเป็นความวินาศสันตะโรแบบ Here! Here! จนอิเจ๊นี่ต้องอ้าปากค้าง ช็อคสะพรึงและกรี๊สสสให้ฉากนี้เพราะชอบมากกก!!!

สิ่งที่ชอบอีก คือการที่หนังภาคนี้ได้เลือกให้ตัวร้ายเป็นเพศ ‘ชะนี’ บ้าง และพอยิ่งได้นัง ‘ชาร์ลีส เธียรอน’ (รับบทเป็น ‘ไซเฟอร์’) มาเป็นตัวร้ายที่องค์แม่ได้ประทับร่างให้ร้ายกาจอยู่ตลอดเวลา-ตลอดทั้งเรื่องแล้วเนี่ย มันเป็นอะไรที่ทำให้เราชอบ (แต่หมั่นไส้ เกลียด) นางได้ตลอดเรื่องเลยทีเดียว

ไม่รู้มั่นหน้ามาจากไหน มั่นใจตลอดเวย์ตั้งแต่ซีนแรกเจอกับดอมก็ชี้นิ้วสั่งๆๆๆ สั่งนั่นสั่งนี่ พูดเยอะพูดแยะ ประหนึ่งเราก็เกิดความ ‘ลำไย’ มันนะ แต่แม่งเป็นตัวละครที่ถูกสร้างมาเพื่อ ‘กะเทย’ อย่างเราๆ มาก จริตจก้านนี่แบบ ณ เวลานี้คุณเมิงคือตัวแม่แห่งโลกภาพยนตร์ไปเลยค่ะ แม่แบบไม่แม่ธรรมดานะคะ แม่ทุกสถาบันค่ะ #เอดอกกก 555 (นี่คือคำชม ใจนึงก็ชอบนาง ใจนึงก็เกลียดนาง แต่ตอนดูคืออยากจะตบๆ นางไปสักฉาดสองฉาด คือเมิงจะร้ายอะไรเบอร์นี้ ขนาดนี้ คันไม้คันมือตลอดทั้งเรื่อง 555) จุดนี้เองเลยต้องบอกว่า ‘ชาลีส เธียรอน’ ในหนังเรื่องนี้นับเป็นตัวชูโรง ชูรส เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังภาคนี้สนุกมากขึ้นจริงๆ

อีกทั้งภาคนี้ ความเซอร์ไพรซ์ต่างๆ ก็มีมาให้เราได้ประหลาดใจอยู่หลายๆ ช็อต การกลับมาของตัวละครหลายๆ ตัวที่เราชอบ (ทั้งที่เห็นใน Trailer และไม่เห็น) หลายสิ่ง-หลายคนค่อนข้างสร้างความเซอร์ไพรซ์ให้แก่คนดูอยู่พอสมควร เสมือนการ Re-Union ย่อมๆ เล็กๆ ของครอบครัวนักซิ่งนี้เอง

พร้อมพ่วงมาด้วยตัวละครหลักตัวใหม่อย่าง ‘มิสเตอร์โนบอดี้น้อย’ (สก็อต อีสต์วู๊ด) ผัวรองๆ ของเจ๊แอดเข้ามาด้วย 555 บอกเลยว่าหล่อกรุบ แถมออกหลายซีนด้วย (แต่ไม่อยากคิดถึงขั้นว่านำมาแทนตัวละคร ‘ไบรอัน’ หรอก เพราะเทียบกันไม่ได้จริงๆ เอาเป็นว่ามาช่วยเสริมทัพความมันส์ละกัน)

อีกคนที่คันปากอยากพูด จะไม่พูดก็กะไรอยู่ คือหนุ่มหน้ามนโล้นซ่าส์สุดแซ่บ! ‘เจสัน สเตแธม’ นี่เอง บอกเลยว่าภาคนี้ฮีแกมาว่ะ! มาแบบค่อนข้างเด่นเลยทีเดียว แถมมีบางซีนลุยบู๊เดี่ยวจนอิเจ๊นี่นึกว่าดูหนังเดี่ยวของฮีแกอยู่ ซีนบู๊แกมันส์และน่ารักเอาเสียมากๆ (จะน่ารักยังไงไปดูกันเอง)

และถึงแม้ว่าในภาคนี้จะไม่เห็นตัวละคร ‘ไบรอัน'(พอล วอล์คเกอร์) ทางหน้าจอแล้วก็ตาม แต่หนังก็ยังไม่ลืม ที่จะสอดใส่ ‘บางสิ่ง’ ให้เราได้หวลคิดถึงตัวละครตัวนี้ (นักแสดงคนนี้) ตั้งแต่ยังไม่ถึง 5 นาทีแรกเลยทีเดียว (ถ้าสังเกตดีๆ นะ) และก็ได้สอดแทรกมาเรื่อยๆ ตลอดเรื่องอีกด้วย #เกิดความคิดถึง #ดูไปคิดถึงไป

โดยรวมแล้ว “The Fate Of The Furious” นับเป็นภาคที่จะเริ่มเปิดไตรภาคใหม่ (8, 9, 10) ได้อภิมหามโหฬารบานตะไท เล่นใหญ่ จัดหนักได้โคตรดีทีเดียว คือยิ่งสร้างยิ่งอลังการ ยิ่งแกรนด์อ่ะ แถมเส้นเรื่อง ตรรกง-ตรรกะ (ที่เราจะไม่ค่อยมองกันแล้ว) ก็ยังถือว่ามีเหตุมีผล ปูเรื่องไปภาคต่อๆ ไปได้อยู่ (ถึงแม้จะดูแถๆ ไปบ้าง 555) แถมทั้งตอนจบมันก็ยังทิ้งท้ายว่ามีภาคต่อแน่นอน นับเป็นภาคที่ทุกคน หรือแฟนบอย-แฟนเกิร์ลของแฟรนชายส์หนังชุดนี้ ‘ต้องดู’ อ่ะ ไปดูความบ้าที่โคตรบ้า! บ้าหลุดโลกไปแล้ววว!!! หลุดโลกแต่โคตรมันส์อ่ะ! 555

ปล. 1 หนังยาว 2 ชั่วโมง 16 นาที (136 นาที) ก่อนชมควรดื่มน้ำปัสสาวะให้เรียบร้อยนะคะ

ปล. 2 หนังจบก็ลุกกลับบ้านได้เลยค่ะ หนังไม่มี End-Credit ใดๆ (อีเจ๊นี่นั่งรอจนจอดำขึ้นอีกแล้วค่ะ 555 กลัวมาก กลัวมี End-Credit แต่หนังไม่ขึ้นซับบอก)

Score: 8/10 | Recommend

หนังเรื่องนี้ กรู จะดู

กูว่าภาค 9 ภาค 10 คงต้องไปไล่ล่ากันบนดาวอังคารแล้วล่ะ แม่งเวอร์ชิบหาย 8/10

รีวิว Fast And Furious 8 (2017) เร็ว…แรงทะลุนรก 8

หนังแม่งโคตรเวอร์ และมันส์มากก สมใจคอแอ็คชั่นจริงๆไปเสพเอาแต่แอ็คชั่นล้วนๆเนื้อเรื่องกูไม่สน

#เรื่องย่อ (จะข้ามก็ได้นะครับ)

ดอมและเล็ตตี้อยู่ในช่วงฮันนีมูน ส่วนไบรอันและมีอาก็ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตครอบครัวของตัวเอง ส่วนคนอื่น ๆ ก็พ้นจากข้อกล่าวหา กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ แต่เมื่อมีสตรีลึกลับ (เจ้าของรางวัลออสการ์ ชาร์ลิซ เธอรอน) เข้ามาล่อลวงดอมสู่โลกอาชญากรรรม โดยที่เขาไม่มีทางเลือกและกลายเป็นคนทรยศครอบครัว พวกเขาต้องเผชิญกับการทดสอบอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน จากคิวบา มาถึงนิวยอร์ก และสู่พื้นราบน้ำแข็งบนทะเลบาเรนทส์ พวกเขาต้องซิ่งสลับไปมาข้ามโลก เพื่อหยุดยั้งผู้นิยมลัทธิอนาธิปไตยที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในโลก และนำดอมผู้ทำให้พวกเขารวมเป็นครอบครัวกลับมา

จะพูดยังไงดีล่ะ แม่งทั้งเรื่องแอ็คชั่นแม่งจัดเต็มมาก ทั้งรถขี่เองได้ เรือดำน้ำ มึงจะเวอร์ไปไหน

ฉากแอ็คชั่นเยอะกว่าภาคก่อนๆเยอะ แต่ยังไม่สนุกไม่ลุ้นสู้ภาคก่อน มีไม่ตื่นเต้นและน่าเบื่อบ้าง และมันเยอะเกินไป ภาคก่อนสนุกกว่าตั้งเยอะ แต่เอาจริงๆแล้วก็ยังมันอยู่ดีนั้นแหละ ส่วนเนื้อเรื่องภาคนี้มันเล่าแบบงงๆ

ไม่บอกเหตุบอกผลของตัวละคร ว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ อย่างนั้น ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย กูว่ากูตั้งใจดูแล้วนะแต่ก็ยังไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจอยู่ดี ส่วนเรื่องตัวละครก็มีตัวละครจากภาคเก่าๆมาเยอะ จนเราเกือบลืมไปแล้วว่ามันคือใคร ส่วนเรื่องบทก็ทำได้ดี ถึงแม้ว่าตัวละครจะเยอะ กระจายบทกันได้ไม่มีใครเด่นมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ส่วนฉากสนทนาก็มีน่าเบื่อบ้าง ไม่น่าติดตามเหมือนภาคก่อนๆ แต่ก็ยังมีความเฮฮาของ ไอ้ดำๆอ่ะ(จำชื่อไม่ได้) มาทำให้หนังไม่น่าเบื่อจนเกินไป เออส่วนพวกฉากแอ็คชั่นเราคงได้เห็นมาหมดแล้วแหละในตัวอย่าง ไม่มีอะไรนอกเหนือจากในตัวอย่างเลย แต่สนุกกว่าในตัวอย่างเยอะ ฉากแอ็คชั่นก็มันส์สมใจคอแอ็คชั่น บ้าระห่ำ และเวอร์มาก อยากรู้ว่าภาคต่อไปมันจะเล่นอะไร

คงจะไปขี่ยานอวกาศไล่ล่ากันล่ะมั้ง มาถึงขนาดนี้แล้วไม่ต้องสนใจอะไรหรอก เวอร์ซะขนาดนี้ 555 ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
ขออีกอย่างนึง ภาคนี้ถ้าเอาจริงๆแล้วนะ ไม่มีอะไรดีไปกว่าฉากแอ็คชั่น ทั้งเนื้อเรื่องเอย ตัวละครเอย มันไม่มีอะไรน่าสนใจ น่าจดจำเหมือนแต่ก่อน มันไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย มันขาดความเป็น Fast and Furious ไปยังไงไม่รู ผมก็ไม่ได้เป็นแฟนตัวยงของภาพยนต์เรื่องนี้ แต่ผมแค่รู้สึกเหมือนมันแตกต่าง อาจจะเป็นเพราะไม่มี พอล วอลเกอร์ แล้วรึว่าอย่างอื่น อาจจะเป็นเพราะเปลี่ยนผู้กำกับใหม่ แต่ยังไงผมก็ยังชอบ และติดตามเหมือนเก่านั้นแหละ (ขอโทษที่เขียนไม่ค่อยรู้เรื่อง 555 )

#สรุป. คือ สนุก มันส์ เวอร์ หนังมันบ้าไปแล้ว

มันเกินจากคำว่าหนังแข่งรถไปแล้ว หนังดี

สำหรับคนที่จะไปเสพเอาฉากแอ็คชั่นล้วนๆ

คอแอ็คชั่นห้ามพลาด

#หนังเรื่องนี้กรูให้ 8/10

#คะแนนIMDb 7.4/10

รีวิวกระทู้ pantip ekka_eak

Fast And Furious 8 (2017) เร็ว…แรงทะลุนรก 8

[CR] [#Review] Fast and Furious 8 เร็ว..แรงทะลุนรก 8 – หนังมันส์ระเบิดนะ แต่ทำไมผมรู้สึกว่ามันเริ่มไม่ใช่ Fast อีกแล้ว

เดินทางมาถึงภาค 8 แล้วครับ กับ Fast and Furious ซึ่งภาคนี้อย่างที่รู้ๆ กันว่า จะไม่มีบทของ Brian O’Coner อีกต่อไป แต่หนังก็ยังคงต้องเดินต่อ แล้วก็มีข่าวว่าจะทำเป็นไตรภาคด้วยซ้ำ ตั้งแต่ภาค 5 เป็นต้นมา หนังเปลี่ยนแนวเส้นเรื่องด้วยการสร้างโครงเรื่องขึ้นมาใหม่ จากหนังแข่งรถตามสืบสวนไปเรื่อยๆ กลายมาเป็น action ระห่ำโลกระเบิดตูมตามล้นจอไปหมด

เรื่องราวเกิดขึ้นในขณะที่ ดอม และ เล็ตตี้ อยู่ในช่วงฮันนีมูน มีสตรีลึกลับ ไซเฟอร์ เข้ามาล่อลวงดอมสู่โลกอาชญากรรม โดยที่เขาไม่มีทางเลือกและกลายเป็นคนทรยศครอบครัว พวกเขาต้องเผชิญกับการทดสอบอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน จากคิวบา มาถึงนิวยอร์ก และสู่พื้นราบน้ำแข็งบนทะเลบาเรนทส์ พวกเขาต้องซิ่งสลับไปมาข้ามโลก เพื่อหยุดยั้งผู้นิยมลัทธิอนาธิปไตยที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในโลก และนำดอมผู้ทำให้พวกเขารวมเป็นครอบครัวกลับมา

ในภาค 1-4 หนังยังเน้นความเป็น action แข่งรถสืบสวน ที่เน้นตรงการแข่งรถเป็นโครงเรื่องหลักๆ และมีรถเจ๋งๆ เป็นองค์ประกอบหลักของหนัง แต่อย่างที่บอกว่าตั้งแต่ภาค 5 เป็นต้นมา หนังเริ่มเปลี่ยนโครงเรื่องเป็น action เต็มตัวที่ใช้รถเจ๋งๆ เป็นเพียงองค์ประกอบของหนังมากกว่าจะเป็นสิ่งหลักที่หนังพูดถึงเหมือนในภาคแรกๆ มันเลยทำให้จากหนัง action แข่งรถที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวที่ทำได้อย่างสุดยอด กลายเป็นหนัง action ที่ยังคงความมันส์อยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนของเนื้อเรื่องกลับไม่ได้มีเอกลักษณ์สักเท่าไหร่

ถ้าพูดถึงการจากไปของ Paul Walker ทำให้ในภาคนี้ บทเด่นแทบจะทั้งหมดตกไปอยู่ที่ Vin Diesel กับบทของ Dominic Toretto ซึ่งกลายเป็นตัวเดินเรื่องหลักไปเลย การกระจายบทไปสู่ตัวละครอื่นๆ จึงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ Jason Statham และ Dwayne Johnson ก็บทบาทไม่ได้ถูกกระจายให้ความสำคัญเท่าที่ควร และตัวละครบางตัวที่ควรจะมีความสำคัญก็ถูกลืมเลือนไปเฉยๆ แต่สิ่งดีก็คือ ตัวละครเก่าๆ กลับมาหลายคนเหมือนกัน

เนื้อหาบางจุดของหนังดูตัดตอนเร็วจนเกินไปนิด จนดูแล้วเหมือนหนังจะรีบตัดบทสรุปให้หนังไม่ยืดเยื้อเกินไป แต่ก็เข้าใจได้ เพราะในช่วงแรกของหนัง หนังเกริ่นเรื่องแบบไม่ได้มี impact อะไรสักเท่าไหร่ แถมในตอนที่ ดอม ต้องหักหลังครอบครัว ก็ไม่ได้สร้างสิ่ง surprise สร้างความอึ้งอะไรให้กับคนดู ซึงมันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่ก็เหมือนกับไม่ได้น่าื่นเต้นอะไร

ว่ากันด้วยจุดแข็ง เรื่องของฉาก action ระเบิดเมืองนี่แหละ น่าจะเป็นจุดที่แข็งที่สุดของเรื่อง และมันก็คือสิ่งที่ทำให้หนังมีความมันส์ระดับสุดขั้วมากๆ หนังจัดเต็มในเรื่องของโปรดัคชั่นเจ๋งโคตรออกมาตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีฉากไหนที่ไม่มันส์ หนังอัดมาเต็มเหนี่ยวทั้ง เรือดำน้ำ ระเบิดปรมาณู รถถัง ซึ่งมันมาไกลเกินกว่าแก๊งซิ่งแข่งรถแล้วสอบสวนไปเรื่อยๆ กลายมาเป็นทีมงานคุณภาพที่ต่อกรกับองค์กรลับระดับโลกได้ขนาดนี้ ถือว่ามาไกลจนล้นและแทบจะกลืนกินความเป็น Fast and Furious ไปแล้ว

โดยรวมส่วนตัวผมรู้สึกว่า หนังมันส์ในระดับต้นๆ เลยนะ แต่เอกลักษณ์ความเป็น Fast มันถูกกลบไป ความเป็นจริงไม่ต้องคิดถึง หนังเวอร์ไปจนแทบจะไมมีความเป็นไปได้อีกแล้ว ซึ่งหนังไม่ได้เป็นหนังดีอะไรนัก แต่หนังมันส์จริงๆ ก็ต้องไปดูกันว่าคิดยังไง

รีวิวกระทู้ pantip เซียวเล้ง

Fast And Furious 8 (2017) เร็ว…แรงทะลุนรก 8

[CR] [Review] Fast & Furious 8 – เรามาไกล… แต่ไม่เคยลืมว่ามาจากไหน

มองย้อนกลับไป ค่อนข้างน่าเหลือเชื่อเหมือนกันที่หนังแข่งรถธรรมดาเรื่องหนึ่ง จะเดินทางมาได้ไกลถึงขนาดนี้ และในทุกๆ ครั้ง ที่หนังทำให้เราคิดว่า คงหมดมุขแล้วละ คงไปต่อไม่ไหวอีกแล้วละ แต่พอภาคถัดมา หนังก็สรรหาแนวทางใหม่ๆ มาให้ตัวเองได้ตลอด ที่สำคัญคือถึงแม้หนังจะไปไกลจากจุดเริ่มต้นขนาดไหน แต่ก็ไม่เคยลืมว่าตัวเองเคยผ่านอะไรมา ก่อเกิดเป็นความผูกพันระหว่างตัวหนังกับคนดู จนไม่รู้สึกว่ามันออกทะเลไปไกล

“Fast & Furious 8” หรือ “The Fate of the Furious” หรือ “Fast 8” หรือ “F8” (จะเยอะไปไหน) เป็นภาคที่ 8 ในแฟรนไชรส์นี้ ซึ่งมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นั่นคือภาคนี้จะไม่มีการปรากฎตัวของ “Brian O’Conner” หนึ่งในตัวละครสำคัญแฟรนไชรส์นี้ อันเนื่องจากการเสียชีวิตของ “Paul Walker” อย่างไรก็ตาม ในหนังจะยังมีการกล่าวถึง Brian อยู่ และอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงก็คือผู้กำกับคนใหม่ “F. Gary Gary” เจ้าของผลงานคำวิจารณ์ดีอย่าง “Straight Outta Compton” และ “The Italian Job”

การจากไปของ Brian O’Conner สร้างความเปลี่ยนแปลงกับ Fast 8 พอควร แต่มองในแง่ดีก็เป็นโอกาสให้หนังเดินทางใหม่ๆ ได้ เพราะที่ผ่านมา Brian เป็นเหมือนตัวละครที่ทำให้เรื่องดูซอฟท์ลง และดึงดูดกลุ่มคนดูสาวๆ ทั้งด้วยหน้าตาอันหล่อเหลาและชีวิตครอบครัวของตัวละครนี้ พอ Brian ไม่อยู่แล้ว และตัวละครที่เหลือก็เต็มไปด้วยมัดกล้ามเสียเป็นส่วนใหญ่ เลยเปิดโอกาสให้หนังสามารถเดินหน้าไปในเส้นทางแอ็คชั่นบ้าพลัง ได้อย่างเต็มที่

ถ้าภาค 1 2 3 คือหนังแข่งรถ ภาค 4 5 6 7 เป็นหนังอาชญกรรมที่ผสานเอารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ภาค 8 จะเรียกได้ว่าเป็นหนังสงครามก็คงไม่ผิดนัก รถในภาคนี้มีสถานะกลายเป็นอาวุธชิ้นหนึ่งในการทำสงคราม ฉากแอ็คชั่น การสู้รบ ทวีความใหญ่โต แบบไม่สนใจกฎฟิสิกส์หรือความเป็นไปได้ยิ่งกว่าภาคไหนๆ มูลเหตุของเรื่องก็ขยายตัวจากอาชญากรรมเล็กๆ ในเมืองๆ หนึ่ง กลายเป็นภารกิจพิทักษ์โลกจากนิวเคลียร์ไปแล้ว แต่ความเว่อร์วังเหล่านั้นไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างไร เพราะ F. Garry Garry ทำออกมาได้อย่างสนุกจริงๆ

ที่สำคัญอย่างที่ว่าไว้ตอนแรก ไม่ว่าหนังจะออกทะเลไปไกลแค่ไหนก็ตาม แต่หนังก็ไม่เคยลืมเลือนฝั่งและเส้นทางที่จากมาก เช่นเดียวกันในภาคนี้หนังมีการเชื่อมโยงเหตุการณ์กับภาคก่อนๆ ทั้งมูลเหตุที่ทำให้ “Dominic Toretto” (Vin Diesel) ต้องแปรพักตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวร้ายกับ Dominic ตาเทพ (The God’s Eye) ที่เคยปรากฎในภาค 6 ก็ถูกนำมาเล่นอีกครั้งในภาคนี้ รวมไปถึงตัวละครลับต่างๆ จากภาคก่อนๆ ที่โผล่มาให้เซอร์ไพรส์กันตลอด มันทำให้เรารู้สึกว่า ถึงจะมาไกลแค่ไหน แต่ตระกูลนี้ไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลังจริงๆ

และเช่นเคย Fast 8 ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องของ “ครอบครัว” ซึ่งเป็นประเด็นที่ตั้งแต่ภาค 4 เป็นต้นมาเน้นมาตลอด แต่ครอบครัวใน Fast 8 นั้นแตกต่างออกไป เมื่อภาคนี้เริ่มตั้งคำถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนในครอบครัวหันหลังให้กับเรา เพราะในภาคนี้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง Dominic Toretto เลือกหันหลังให้กับทีมไปร่วมมือกับ “Cipher” (Charlize Theron) วายร้ายไซเบอร์ที่มีเป้าหมายระดับโลกแทน

มันไม่ใช่ประเด็นแค่ว่า เราจะยังเชื่อใจคนที่หันหลังให้กับครอบครัวได้มั้ย แต่ยังมีประเด็นที่ว่า เอาเข้าจริง แต่ละคนอาจไม่ได้มีแค่ครอบครัวเดียว ปัญหาคือถ้าความต้องการของ 2 ครอบครัวไม่เหมือนกัน แล้วเราคนกลางจะเลือกทางไหน การที่ Fast ปูเรื่องครอบครัวมาหลายภาค ทำให้เมื่อภาคนี้หันมาตั้งคำถามนี้ จึงกลายเป็นเรื่องที่แรงต่อความรู้สึกของตัวละครไปเลย อีกอย่างครอบครัวก็เป็นที่มาของความขัดแย้งได้เช่นกัน เพราะไม่ใช่แค่ Dominic ที่มีครอบครัว คนอื่นเขาก็มีเหมือนกัน และเพราะต่างกันต่างรักครอบครัวของตัวเองนี่แหละ เลยกลายเป็นความบาดหมางกัน

นี่จึงเป็นภาคที่ส่วนตัวยกให้สนุกที่สุดในตระกูล Fast ทั้งฉาก Action ที่ค่อยๆ ไต่ระดับความมันส์ไปเรื่อยๆ รวมไปถึงการดึงสเน่ห์ของตัวละครออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม แต่ละคนล้วนมีซีนของตัวเอง “Deckard Shaw” (Jason Statham) ดูจะโดดเด่นในภาคนี้มากกว่าภาค 7 ที่เขาเป็นตัวร้ายหลักเสียอีก โดยเฉพาะมิติความสัมพันธ์ของคนในตระกูล Shaw ที่ว่าไปชักอยากทำให้ดูหนังภาคแยกของตระกูลนี้แล้วสิ และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ “Cipher” ตัวร้ายหญิงคนแรกของหนังแฟรนไชรส์นี้ ทั้งที่เธอไม่ขับรถ แต่ความร้ายกาจและเด็ดขาด นั้นทำให้ยกตำแหน่งเป็นตัวร้ายที่ดีสุดใน Fast ไปเลย (รองลงมาคือ Luke Shaw ในภาค 6) ขณะที่อีกตัวละครใหม่อย่าง “Eric Reisner” (Scott Eastwood) เจ้าหน้าที่มือใหม่ที่ทำงานกลับกลุ่มของ Dominic ก็เปิดตัวได้ดีทีเดียว และคิดว่าต่อไปคงดันให้เป็นสมาชิกประจำได้ ในตำแหน่ง “ใบหน้าหล่อๆ ประจำทีม” ซึ่งเดิมมี Brian อยู่ในตำแหน่งนี้

และปกติค่อนข้างเฉยๆ กับการแสดงของ Vin Didel ออกจะหมั่นไส้กับการแสดงแบบเป็นพระเอกๆ ของ Vin ด้วยซ้ำไป แต่ในภาคนี้เซอร์ไพรส์ทีเดียว เพราะ Vin ได้โอกาสในการแสดงอารมณ์ความกดดันมากกว่าที่เคย กับสิ่งที่ต้องเผชิญ ทั้งการระเบิดอารมณ์ ความเก็บกด แสดงออกไม่ได้ ซึ่ง Vin ก็ทำออกมาได้โอเคทีเดียว ว่าไป Vin ดูเจิดในบทตัวร้ายมากกว่าพระเอกนะ 555

ไม่รู้ว่า Fast 9 10 11 12… จะเว่อร์วังไปได้ขนาดไหนอีก จะไปบุกเกาหลีเหนือมั้ย จะสู้กับหุ่นยนต์มั้ย จะตะลุยอวกาศมั้ย แต่ตราบใดที่การเดินทางของ Fast ยังไม่ลืมเลือนสิ่งที่อยู่ข้างหลัง เราก็เชื่อว่าตระกูลนี้น่าจะไปได้อีกไกล และมีคนพร้อมจะเดินทางไปกับพวกเขาแน่นอน

ผู้กำกับ

เอฟ. แกรี เกรย์

บริษัท ค่ายหนัง

  • ออริจินัลฟิล์ม
  • วันเรซฟิล์มส์
  • เพอร์เฟกต์เวิลด์พิกเจอส์
  • ไชนาฟิล์ม

นักแสดง

  • วิน ดีเซล
  • ดเวย์น จอห์นสัน
  • เจสัน สเตธัม
  • มิเชลล์ ราดรีเกซ
  • ไทรีส กิบสัน
  • ลูดาคริส
  • สกอตต์ อีสต์วุด
  • นาทาลี เอ็มมานูเอล
  • เคิร์ต รัสเซลล์
  • ชาร์ลิส โตรน

โปสเตอร์

Fast And Furious 8 (2017) เร็ว...แรงทะลุนรก 8

Fast And Furious 8 (2017) เร็ว...แรงทะลุนรก 8

Fast And Furious 8 (2017) เร็ว...แรงทะลุนรก 8

เรื่องย่อ

ดูหนังออนไลน์ Fast And Furious 8 (2017) เร็ว…แรงทะลุนรก 8 ดอมและเล็ตตี้อยู่ในช่วงฮันนีมูน ส่วนไบรอันและมีอาก็ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตครอบครัวของตัวเอง ส่วนคนอื่น ๆ ก็พ้นจากข้อกล่าวหา กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ แต่เมื่อมีสตรีลึกลับ (เจ้าของรางวัลออสการ์ ชาร์ลิซ เธอรอน) เข้ามาล่อลวงดอมสู่โลกอาชญากรรรม โดยที่เขาไม่มีทางเลือกและกลายเป็นคนทรยศครอบครัว พวกเขาต้องเผชิญกับการทดสอบอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน จากคิวบา มาถึงนิวยอร์ก และสู่พื้นราบน้ำแข็งบนทะเลบาเรนทส์ พวกเขาต้องซิ่งสลับไปมาข้ามโลก เพื่อหยุดยั้งผู้นิยมลัทธิอนาธิปไตยที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในโลก และนำดอมผู้ทำให้พวกเขารวมเป็นครอบครัวกลับมา

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Fast and the Furious 3 Tokyo Drift (2006) เร็ว…แรงทะลุนรก ซิ่งแหกพิกัดโตเกียว

Fast and Furious 5 (2011) เร็ว…แรงทะลุนรก 5

Ferrari (2023) เฟอร์รารี่

Junk Flying car (2024) รถซิ่งเหินเวหา

Transformers 4 : Age of Extinction (2014) ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 4 : มหาวิบัติยุคสูญพันธ์

แสดงความคิดเห็น

ดูหนังออนไลน์ ดูซีรี่ย์ฟรี เรื่องอื่นๆ

ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่2024 moviehd24 ดูหนังเต็มเรื่อง หนังHD ดูหนังฟรีไม่กระตุก