Poor Things (2023)

Poor Things (2023)

เรื่องย่อ

ดูหนัง Poor Things (2023) หญิงสาวที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยการปลูกถ่ายสมองในลอนดอนสมัยวิคตอเรียน ด้วยความทรงจำและบุคลิกของผู้หญิงหัวรั้นแต่ร่างของเด็กสาว เบลล่าเริ่มต้นการเดินทางแห่งการค้นพบตัวเองและการปลดปล่อย ระหว่างทาง เธอได้พบกับทนายความที่มีเสน่ห์แต่ไร้ศีลธรรม มิสเตอร์แอสต์ลีย์ (นิโคลัส ฮอลท์) และนักวิทยาศาสตร์ผู้ชั่วร้าย ก๊อดวิน  ดูหนังออนไลน์

แบกซ์เตอร์ (วิลเลม เดโฟ) ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้มีพระคุณและสามีของเธอ ขณะที่เบลล่าต้องเผชิญความซับซ้อนของชีวิตที่เพิ่งค้นพบใหม่และเผชิญหน้ากับอคติของสังคมวิคตอเรียน เธอต้องต่อสู้กับความปรารถนาของเธอเองและความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปในตัวตนของเธอดร. กอดวิน แบกซ์เตอร์ นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ทำการทดลองชุบชีวิตหญิงสาวที่ชื่อเบลลา แบกซ์เตอร์ ขึ้นมา โดยใช้สมองของทารก

เบลลา ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับความไร้เดียงสา เธอต้องเรียนรู้โลกใหม่และปรับตัวให้เข้ากับสังคม แม็กซ์ แมคคานเดลส์ ผู้ช่วยของดร. แบกซ์เตอร์ คอยดูแลและสอนเบลลา เบลลา รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตที่ถูกกักขัง เธอตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปผจญภัยในโลกภายนอก เธอได้พบกับดันแคน เว็ดเดอร์เบิร์น ชายหนุ่มรูปงาม เบลลา ตกหลุมรักดันแคน และเขาก็หลงรักเธอเช่นกันในปี 2023  เปลี่ยนเป็นผลงานชิ้น

โบแดงทางภาพยนตร์ที่โกรธ โดยเปิดเผยให้มองเห็นข้อเท็จจริงอันสุดขีดของความไม่ยุติธรรมด้านสังคมแล้วก็จิตวิญญาณที่การไถ่บาปที่ยืนยง ดูแลโดยผู้อำนวยการผลิตภาพยนตร์โด่งดัง ไมเคิล เจนรับประทานส์ ภาพยนตร์ประเด็นนี้พาผู้ชมเดินทางสู่การเดินทางอันน่าคลั่งไคล้ผ่านชีวิตของบุคคลที่จำเป็นต้องต่อสู้กับความยากไร้ ความทุกข์ยากตรากตรำ และก็การเสาะหาความปรารถนาอย่างไม่หยุดยั้ง  ซึ่งมีเบื้องหลังเป็นภูมิทัศน์เมืองที่เต็มไปด้วยหิน เจาะลึกเรื่องราวที่เชื่อมโยงถึงกันของผู้แสดงที่ต่างกันซึ่งชีวิตมาบรรสิ้นสุดกันด้วยแนวทางที่

ไม่คาดคิด ส่วนสำคัญของการเล่าเรื่องอยู่ที่การแสดงภาพที่น่าดึงดูดของซาราห์ หญิงสาวที่ติดอยู่ในวงจรอัปรีย์ที่ความยากไร้รวมทั้งความท้อแท้ Sarah สวมบทบาทโดยดาราสาวคนใหม่อย่าง Mia Thompson ที่แสดงการต่อสู้ดิ้นรนของบุคคลจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกปล่อยปละละเลยจากความไม่แยแสของสังคมตั้งแต่เริ่มต้น ภาพยนตร์ประเด็นนี้ทำให้ผู้ชมจับใจในโลกที่งวยงงวุ่นวายของซาราห์ ที่ซึ่ง

แต่ละวันเป็นการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด การสู้ทนเพื่อหาเงินในเขตที่ย่ำแย่ซึ่งเต็มไปด้วยอาชญากรรมรวมทั้งความยากแค้น ซาราห์พบว่าตนเองกำลังต่อสู้กับโอกาสที่ไม่มีทางเป็นไปได้แล้วก็ปัญหาที่น่าขนลุก แม้กระนั้นภายใต้รูปลักษณ์ภายนอกที่กระด้างของคุณนั้น มีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งและก็คร่ำครวญหาการหลุดพ้นจาก

จองจำที่ความอนาถาเมื่อเค้าเรื่องถูกเผย ทางของซาราห์มาบรรจบกับมาร์คัส นักสังคมสงเคราะห์ผู้เห็นอกเห็นอกเห็นใจผู้เอาจริงเอาจังที่จะสร้างความไม่เหมือนในชีวิตของผู้ถูกข่มเหง เล่นบทด้วยความเชื่อมั่นและมั่นใจอันแน่แน่วของผู้แสดงมากมายประสบการณ์ เดวิด โอคอนเนอร์ มาร์คัสปฏิบัติหน้าที่เป็นแสงไฟที่ความคาดหวังท่ามกลางความมืดดำมิด ให้การช่วยเหลือแล้วก็ข้อเสนอแก่คนที่อยากความช่วยเหลือเกื้อกูล

Sarah รวมทั้ง Marcus ด้วยกันเริ่มการเดินทางที่ความเคลื่อนไหวที่มีขณะที่ชัยแล้วก็ความทุกข์ยากตรากตรำ พวกเขาเจอหน้ากับความไม่ชอบธรรมที่เป็นระบบและก็พบเจอกับข้อเท็จจริงอันทารุณของสังคมที่เต็มไปด้วยความไม่เสมอภาครวมทั้งความเย็นชาผ่านประสบการณ์ที่แบ่งปันด้วยกัน แม้กระนั้นท่ามกลางความสับสนวุ่นวายแล้วก็ความห่อเหี่ยว พวกเขาศึกษาค้นพบผู้ช่วยเหลือที่ไม่คาดคิดและก็วิญญาณญาติที่ส่องสว่างทางสู่การไถ่บาป

ฉายสปอตไลต์ที่เห็นได้ชัดเกี่ยวกับปัญหาความแร้นแค้น การไม่มีที่อยู่ และก็ความไม่เสมอภาคทางด้านสังคมที่แพร่ระบาดในชุมชนของพวกเรา ภาพยนตร์ประเด็นนี้ท้าผู้ชมให้เจอหน้ากับอคติของตน แล้วก็ตรวจตราการรับทราบของพวกเขาเกี่ยวกับคนที่ไม่ค่อยได้รับโอกาศจากสังคมผ่านการถ่ายทอดภาพความลำบากแล้วก็ความยืดหยุ่นได้อย่างไม่หวั่นใจ

โดยแก่นแท้แล้ว “สิ่งที่น่าเวทนา” เป็นข้อยืนยันถึงจิตวิญญาณของผู้คนที่ไม่ท้อถอย แล้วก็พลังสำหรับเพื่อการเปลี่ยนของความเห็นใจรวมทั้งความปรองดอง มันเตือนพวกเราว่าหากแม้ในขณะที่มืดมนที่สุด แม้กระนั้นก็ยังมีหวังที่จะศึกษาและทำการค้นพบรวมทั้งการไถ่บาปให้ถูกสวมกอดไว้การถ่ายรูปยนตร์ที่ตื่นเต้นแล้วก็เพลงประกอบที่เชิญขนลุกของภาพยนตร์ประเด็นนี้ช่วยเพิ่มผลพวงทางอารมณ์ ทำให้ผู้ชมจับใจไปกับเรื่องจริงอันชาญชัยของโลกของซาราห์ ตั้งแต่ซอยตรอกอันน่าสยองในเมืองชั้นในไปจนกระทั่งทางเท้าอันรกร้างของ

สถานสงเคราะห์คนไม่มีบ้าน ทุกเฟรมตื่นเต้นด้วยความเข้มข้นของอวัยวะภายในที่ดำรงอยู่นานภายหลังจากจบเครดิต ในสมัยที่เต็มไปด้วยความไม่สงบด้านสังคมและก็ความไม่เที่ยงด้านเศรษฐกิจ  ปฏิบัติหน้าที่เป็นเครื่องเตือนสติอันทรงประสิทธิภาพถึงสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนสำหรับการใส่ใจรวมทั้งความรู้ความเข้าใจ มันท้าให้พวกเราเจอหน้ากับตัวการของความยากจนข้นแค้นแล้วก็ความไม่ชอบธรรม แล้วก็เป็น

แรงผลักดันให้พวกเราปฏิบัติงานเพื่อสร้างสังคมที่เสมอภาคแล้วก็มีความเห็นอกเห็นอกเห็นใจเพิ่มมากขึ้น  ระหว่างที่การเดินทางของซาราห์ปรากฏบนจอ พวกเราได้รับคำตักเตือนถึงความเป็นคนที่มีด้วยกันและก็ความรับผิดชอบด้วยกันของพวกเราสำหรับการยกฐานะคนที่ถูกทิ้งเอาไว้ด้านหลัง ในในที่สุด  ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ แต่ว่าเป็นเสียงเรียกร้องจากกองทัพ กระตุ้นให้พวกเรายืนหยัดเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันกับคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มเรา รวมทั้งต่อสู้เพื่ออนาคตที่ความยากแค้นเป็นเพียงแต่ความจำอันไกลห่าง

ผู้กำกับ

ยอร์กอส ลานติมอส

บริษัท ค่ายหนัง

ทีเอสจี เอ็นเตอร์เทนเมนท์

นักแสดง

•  เอ็มม่า สโตน
• มาร์ค รัฟฟาโล
• วิลเลม เดโฟ
• รามี ยุสเซฟ
• คริสโตเฟอร์ แอบบอตต์
• เจอร์ร็อด คาร์ไมเคิล

โปสเตอร์หนัง

รีวิวหนัง Poor Things (2023)

เรื่องนี้ดูหรือข้าม

คะแนน: 5 /10

รีวิวเรื่องนี้ดูหรือข้าม
ที่สุดของปีที่ไม่ใช่สำหรับทุกคน
สุดท้ายก็เจอหนังที่ชอบที่สุดของปี 2023 ก่อนหมดปีในอีกไม่กี่วัน ไม่อยากเชื่อจริงๆว่าหนังที่เราชอบที่สุดของปีจะกำกับโดยผู้กำกับสายกาวตลกร้ายอย่าง Yorgos Lanthimos เจ้าของผลงาน Lobster และ The Favourite แน่นอนว่าด้วยความที่มันเป็นหนังของพี่ยอร์กอส มันจะมีความแปลก ความวิปริต​ สถานการณ์​ที่ทำให้เรารู้สึกโคตรอึดอัด ซึ่งหลายๆเรื่องเราก็ไม่ได้ชอบมุมนี้ของหนังแกเท่าไหร่ เพราะมันเหมือนทำหนังมาสนองนีดตังเองนิดๆแม้เนื้อหาลึกๆของหลายๆเรื่องจะดีมากๆก็ตาม

แต่กับ  เรารู้สึกได้ถึงการเติบโต ความปราณีตในการกำกับ บท และการแสดงที่ถึงจุดสูงสุดของอาชีพแกเลย การนำเสนอที่แม้จะยังคงเอกลักษณ์​ของความแปลก ดาร์ค และตลกร้าย แต่มันกลับสมเหตุสมผล​และเข้ากับเนื้อหาที่นำเสนอมากๆ ที่น่าแปลกใจก็คือด้วยเนื้อหาที่หนักและดาร์คมากๆ แต่ตัวหนังกลับมีความอบอุ่น สนุก ตลก มีเสน่ห์​มากๆอย่างไม่น่าเชื่อ มันมีความเป็น​มนุษย์​ การได้เห็นการผจญภัย​ของตัวละครที่แม้จะโหดร้ายและรุนแรง แต่ก็เต็มไปด้วย ความจริงใจ ความเป็นมนุษย์​ และความหวัง มันสำรวจทั้งการเติมโตของตัวละคร และความเป็นจริงของโลกและสังคมได้อย่างมีชั้นเชิง สนุก ตลก และลึกซื้ง​ เราไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับหนังของ ยอร์กอส ลานธิมอส มาก่อน น่าประทับใจมาก ในแง่ของบทเราหาข้อติไม่เจอเลย

ดัดแปลงจากนิยายรางวัลช่วงปี 90 ในชื่อเดียวกัน พูดถึงหญิงสาว Bella Baxter ที่ถูกผ่าตัดสมอง จนเธอต้องกลับไปเริ่มต้นใช้ชีวิตตั้งแต่เด็กอีกครั้งในร่างกายของผู้ใหญ่โดยได้รับการดูแลจากหมอผ่าตัดผู้มีหน้าตาบิดเบี้ยวราวปีศาจ ด็อกเตอร์ ก็อดวิน สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกอย่างนึงของ ก็คือการแสดง นี่คือการแสดงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นของ เอ็มม่า สโตน มันสุดยอดจนไม่รู้ว่าจะชมยังไง อาจจะเป็นการแสดงที่ดีที่สุดของปีนี้เลยก็ได้ แต่นอกจากเอ็มม่าแล้ว แคสคนอื่นๆก็เรียกได้ว่าไร้ที่ติ โดยเฉพาะซีนตลก มันธรรมชาติมากๆ แม้ว่าเนื้อหาจะแปลกหรือดาร์คแค่ไหนจังหวะกะโคนก็ทำให้เราขำได้ตลอด สุดยอดมากๆ

งานภาพให้อารมณ์เดียวกับนิทานภาพในธีมกึ่ง steampunk ที่งดงามและแปลกประหลาดสมเป็นหนังของ Yorgos Lanthimos
สรุปนี่ไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน ถ้าคุณไม่เจนกับงานแนวนี้ อายุยังไม่ถึง หรือไม่ได้เคยดูงานของ Yorgos Lanthimos มาก่อน หนังเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่สำหรับคุณ หนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนรักหนัง gothic ที่มีการนำเสนอที่สุดทาง และก็ยังมีเนื้อหาเข้มข้นเข้าใจง่ายและงดงาม นี่คือหนังที่เราชอบที่สุดของปี และเราแนะนำให้คอเดียวกัน กับคนที่อยากจะลองเปิดใจกับอะไรใหม่ๆ ว่าไม่ควรพลาด

Watchman

คะแนน: 5.2/10

มีสี่อย่างที่ “สมแล้ว”
1. สมแล้วที่หนังได้เข้าชิงถึง 11 ออสการ์
2. สมแล้วที่ Emma Stone เข้าชิงออสการ์สาขานำหญิง
3. สมแล้วที่ได้เรท 20-
4. สมแล้วกับการรอคอย
หนังเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ Yorgos Lanthimos จาก The Lobster ที่มี Emma Stone แสดงนำครับ รอมานานมากๆ กว่าจะได้ฉายในไทย เรื่องนี้เป็น adaptation เรื่องแรกของผู้กำกับชาวกรีกที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำหนังตลกร้ายไวบ์ประหลาดๆ ที่เต็มไปด้วยความ WTF และความสุดโต่งในการนำเสนอ การันตีด้วยเรทของหนังที่เมคเซ้นส์แล้ว

เนื้อเรื่องจะเป็นการตีความใหม่เรื่องราวของสัตว์ประหลาดแฟรงเกนสไตน์ ที่เล่าผ่าน Bella Baxter หญิงสาวที่ตายไปแล้วแต่ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ด้วยสมองของทารก ทำให้ต้องเรียนรู้จากการนับ 1 ใหม่ และมีเป้าหมายคือผจญภัยท่องโลกเพื่อสำรวจโลกภายนอก พร้อมๆ ไปกับค้นหาตัวตนภายใน
Poor Things คือเรื่องราว coming of age ของคนที่ออกจากคอมฟอร์ทโซนไปท่องโลกกว้าง เสี่ยงเดินทางไปเจออะไรต่อมิอะไร ที่ชวนให้นึกถึง Pinocchio กับ Barbie ไม่น้อยเลยครับ แต่นำเสนอแบบสุดโต่งกว่า พูดและตั้งคำถามกันแบบโฉ่งฉ่าง นำเสนอเรื่องเพศและเซ็กส์อย่างเกินคำว่า ‘ไม่อ้อมค้อม’ ไปไกลมากๆ และตัวของ Bella มีพัฒนาการทั้งในฐานะตัวละครหลักและในฐานะสิ่งมีชีวิตมากพอที่จะตัดสินใจได้ และมีสถานะ independent (ทั้งในเชิงพึ่งพาตัวเองได้ และในเชิงอินดี้)

ตัวหนังในภาพรวมแล้วค่อนข้างสนุกเลยครับ
โดยที่บันเทิงชัดๆ จะอยู่ในครึ่งแรก (ผมค่อนข้างจะชอบครึ่งแรกมากกว่าเพราะมัน dark comedy และเพลิดเพลินดีกับการเล่าเรื่องและดีเทล) ส่วนครึ่งหลังจะมีโทนที่ซีเรียสขึ้นอย่างชัดเจน เหมือนชีวิตจริงที่ตอนเด็กชีวิตเราสนุกและเอนจอยกับอะไรๆ ได้ (ไม่เกี่ยวกับถูกหรือผิด) มากกว่า เพราะตอนเป็นผู้ใหญ่และได้รับรู้ว่าโลกความจริงมันเป็นแบบหนึ่ง และความคิดในเชิงปรัชญากับความเป็นจริงซับซ้อนขึ้น มันเลยไม่สนุกเหมือนก่อน

ถ้าพูดถึงบทพูดเด็ดๆ และฉากที่น่าจดจำ เรื่องนี้มีเยอะมากๆ ฉากเต้นในตัวอย่างเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งถ้าไม่ได้ติดที่เป็นเรท ฉ.20 และต้องเป็นผู้ใหญ่ดู หรือหากตัดฉากโจ่งแจ้งเรื่องเพศคำหยาบออกไป ไม่ก็มีน้อยกว่านี้ เรื่องนี้ก็เป็นหนังเรื่องนึงของ Yorgos ที่ถือว่ามีคุณสมบัติความเป็นแมสเลยครับ แต่ก็ไม่ผิดหวังที่ผู้กำกับคนนี้ไม่เคยลืมเซ็นลายเซ็นของตัวเอง มาตั้งแต่เรื่องแรกๆ อย่าง Dogtooth ไม่ว่าหลังจากนั้นจะทำหนังแนวไหนโทนไหนมาแล้วกี่เรื่อง
นอกจากด้านเนื้อหาก็ยังเป็นหนังที่โดดเด่นด้านวิช่วลมากๆ ครับ วิช่วลในที่นี้ครอบคลุมตั้งแต่มุมกล้องและการถ่ายทำที่นำเสนอให้ทุกอย่างดูแปลกประหลาดและเพี้ยนทางความรู้สึก ไปจนถึงการใช้เฉดสี โปรดักชั่นดีไซน์ที่มีความแฟนตาซีและเป็นงานอาร์ต การขึ้นช็อตสถานที่ดำเนินเรื่อง และคอสตูมกับทรงผมและการแต่งหน้า จุดเด่นเหล่านี้ก็ทำให้ไม่แปลกใจเช่นกันหากหนังจะได้ออสการ์หลายตัวไปครอง

ผมค่อนข้างชอบตัวละคร Bella Bexter ในความเป็นนักทดลอง เพราะมันคือความเป็นจริงที่ว่าในโลกใบนี้อาจมีคนโตทางควมคิดมากมาย แต่ไม่ว่าเราโตแค่ไหน ก็ยังมีอะไรที่ต้องตั้งคำถามและหาคำตอบอยู่เรื่อยๆ รวมไปถึงการที่ตัวละครนี้ไม่ได้ตั้งคำถามว่า “เกิด/ถูกสร้างมาทำไม?” แต่คำถามสำคัญคือ “มีอะไรรอ

อยู่ในระหว่างทางของชีวิตที่ได้รับนี้?” มากกว่า
ด้านการแสดง พูดได้เต็มปากว่าเป็นการแสดงที่ Emma Stone ใส่เต็มและทุ่มเทที่สุด (เมื่อพิจารณาจากที่เห็น) จากที่เคยเห็นผลงานนักแสดงคนนี้มา ไม่ว่าจะเป็นการแสดงสีหน้า ท่าทางสุดไร้เดียงสาปนบ้าบอ กับการพูดจา ให้เหมือนเด็กในร่างผู้ใหญ่ที่ถูกผ่าตัดดัดแปลงมา รวมไปถึงฉากเซ็กส์ที่ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะเป็นเรื่องที่โจ่งแจ้งในปริมาณที่มากที่สุดตั้งแต่รู้จักนักแสดงคนนี้มาเช่นกันครับ

โดยรวม (ทั้งตัวบทที่ส่งและจากฝั่ง Emma) ผมมองว่า Emma Stone ไม่ใช่แค่ ‘หนึ่งในตัวเต็ง’ แต่ในออสการ์สาขาหญิงครั้งที่จะถึงนี้ เธอมีคุณสมบัติมากพอที่จะเป็น ‘เต็งหนึ่ง’ ของสาขา หนังเรื่องนี้สำหรับผมขอเอาไปวางอยู่บนชั้นหนังที่เกิดมาแล้วควรดูซักครั้ง ไม่ว่าจะมองหาอะไรจากมัน สไตล์ตลกร้ายของ Yorgos หรือการแสดงของ Emma Stone ก็ตามครับ คิดว่าคนที่ชอบดูหนังแนวเดียวกันยังไงก็ไม่ผิดหวังหนังฉายแล้ววันนี้นะครับ (อย่าลืมปกบัตรประชาชนหรืออย่างน้อยๆ มีรูปถ่ายบัตรในมือถือไปด้วยนะครับ เค้าจะตรวจก่อนซื้อตั๋วกับก่อนเข้าโรงด้วยครับ)

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน  Poor Things (2023)

Sinister (2012) เห็นแล้วต้องตาย
Suspiria (2018) กลัว
The Man Who Shot Liberty Valance (1962)
Virtuosity (1995) ซิด 6.7 มือปราบผ่าโปรแกรมนรก
THE TRANSPORTER 3 (2008) ทรานสปอร์ตเตอร์ 3 เพชรฆาต สัญชาติเทอร์โบ