The Believers (2024) สาธุ EP.1-9 (จบ)

ดูซีรี่ย์ The Believers (2024) สาธุ

รีวิวหนัง

เสพติดดูหนัง

Series Review

The Believers (2024) สาธุ

Stream On Netflix (9 Episodes)

“ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ แม้แต่การเกาะศาสนาหากินก็เช่นกัน”

หลังจากดูจนจบ คือขออวยยศและชื่นชมทีมงานสร้างและนักแสดงสุด ๆ ผลงานเรื่องนี้คืออีกหนึ่งหมายเหตุสำคัญ ที่สะท้อนประเด็นสังคมไทย ในมุมมองทางศาสนา ความเชื่อ และการหากินกับวัดได้อย่างตรงไปตรงมา ชัดเจนทุกมุมมองแบบเข้าท่ามาก ๆ เรียกได้ว่า “สาธุ” คือซีรีส์ไทยที่คุณภาพมากสำหรับปีนี้เลย

เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นสามคน ที่กำลังเจอปัญหาแสนซวยจนต้องหาทางแก้ และวันหนึ่งได้นึกหนทางได้ คือการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการบูรณะวัด เพื่อแบ่งสัดส่วนของมูลค่าเงินที่มาจากชาวบ้านด้วยความศรัทธา โดยใช้หลักการ MKT เพื่อสร้าง Business Model ที่ท้าทายอีกขั้น และนั่นก็นำพาพวกเขาได้เรียนรู้ และรับมือกับปัญหามากมายที่เข้ามาระหว่างทาง

ทุก ๆ อีพี จะมี Key Selling Point ที่เด่นชัด ผ่านประเด็นและขั้นตอนของการที่ตัวละครกำลังจัดการ คือมันบิ้วอัปความสนุกได้ดีมาก เรื่องราวมีความน่าสนใจในตัวอยู่แล้ว และการที่เค้าสามารถที่จะเล่าขยี้ปมต่าง ๆ จาก Insight คนเราในสังคมที่รู้สึกอยู่แล้ว ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นในเรื่อง มันเลยทำให้ซีรีส์แม่งชวนติดตามได้ตลอดทุกตอนจนจบ

และการแสดงของทีมนักแสดง บอกเลยว่า MVP ทุกคาแรคเตอร์ เป็นอีกองค์ประกอบที่เสริมสร้างความน่าเข้าถึงให้กับเรื่องราวได้ตลอดทุกช่วง และคาแรคเตอร์มีเสน่ห์ มีมิติ และมีพัฒนาการที่น่าสนใจ ผ่านประเด็นที่มันก้าวไปข้างหน้าด้วยเช่นเดียวกัน ในหลากหลายบริบท มีแมสเสจที่โคตรทัชหลายอย่างมาก จนเราแบบอิน และรู้สึกว่าการสะท้อนประเด็นวงการผ้าเหลืองเรื่องนี้มันมีพลังมาก ๆ เลย

ที่จะพาคนดูทุกคนจับต้องและรับรู้อย่างมีส่วนร่วมเต็มที่ได้จริง ๆ หนังฉลาดในการใช้จังหวะการเล่าการบิ้วอารมณ์ในพาร์ทต่าง ๆ แบบคมมาก ๆ คือทำถึงกับความรู้สึกเราเลยแหละ จนเราเกิดความคาดการณ์ อยากรู้ว่าสุดท้ายซีรีส์จะพาไปเจออะไรอีกบ้าง และจะลงเอยอย่างไร

ถือว่าเป็นผลงานซีรีส์ไทยตัวเต็งมากสำหรับปีนี้อีกเรื่อง ที่เราเชียร์อยากให้ทุกคนได้ดูมัน ทุกอย่างจริงใจกับผู้ชม สามารถขับเคลื่อนประเด็นจริงที่ละเอียดอ่อน และผู้คนรับรู้ถึงการมีอยู่ของมัน ในหลากหลายภูมิภาค ให้กลายเป็นซีรีส์ที่ดูเหมือนเรื่องแต่ง ที่แทรกเสริมความสนุกที่ครบรส คือมันเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาเลย ทีมงานทำการบ้านมาดีทีเดียว จนกลายเป็นซีรีส์ที่เรานิยามให้เลยว่า “พกความฉกาจมาเต็มขั้น“ ที่พร้อมลุยหมดทุกศรัทธาความเชื่อ และความคิดของแต่ละคน ไปดูเถอะ คุณภาพเว่ออออออ มีครบ 9 ตอน บน Netflix

Admin Minho

WATCH FROM​ HOME​

The Believers (2024) สาธุ

ซีรีส์ไทย​ ปี 2024

มีคำบรรยายไทย

ซีซั่น 1 จำนวน 9 ตอน

แนวดราม่า/อาชญากรรม​/ลุ้นระทึก​/ เป็นเรื่องราวของสามเพื่อนสนิทคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ต้องหาทางใช้หนี้ก้อนโต หลังสตาร์ตอัปของพวกเขาล้มไม่เป็นท่า จังหวะนั้นเองพวกเขาก็บังเอิญค้นพบโอกาสทางธุรกิจที่จะช่วยพวกเขาปลดหนี้ก้อนใหญ่ โดยอาศัยช่องทางการหาเงินจากความศรัทธาในศาสนาของผู้คน​

(ความคิดเห็นส่วนตัว..)

สนุก ชอบ!! ดีตรงที่เป็นของ Netflix นี่แหละ เลยไม่โดนเต่าร้อยล้านปีมาร้องเรียน!! นี่คือเรื่องราวที่น้อยคนจะหยิบยกออกมาพูดถึงแบบสาธารณะ นี่คือช่องโหว่รูใหญ่ของสังคมไทยที่มีมาอย่างยาวนาน มันกลายเป็นธุรกิจจริงๆไปแล้ว อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้กันเลยว่ามันไม่มีอะไรที่แอบแฝงซ่อนอยู่ แล้วธุรกิจนี้มันก็หวานหอมมากมายเสียด้วยสิ ใครๆต่างก็อยากเข้ามาขอแบ่งชิ้นเค้กก้อนนี้กันทั้งนั้น

ซีรีส์พูดถึงหลายประเด็นแบบตรงไปตรงมา ยิ่งหากใครที่กำลังหากินกับวัดอยู่ตอนนี้ ถ้าได้ดูคงสะดุ้ง มีดิ้นกันแน่ๆ​ เพราะเนื้อหามีความเข้มข้นในเชิงของการวิเคราะห์ธุรกิจในเครือข่ายพระพุทธศาสนา เหมือนเอาหลักการตลาดทั่วไปมาใช้ในการบริหารวัด และย่อยให้คนดูได้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น​ ซีรีส์หยิบประเด็นพุทธพาณิชย์ออกมาพูดละเอียด​ยิบ เช่น​ เรื่องปัจจัย​ เรื่องกิจนิมนต์​ วัตถุมงคล ปัญหาระหว่างวัดกับวัด​ การอยู่ภายใต้การควบคุมของสายวัด ไหนจะเรื่องพระปลอม​ พระป่า พระบ้าน บันเทิงดีครับ มีความตลกแบบกวนตรีนสอดแทรกบ้างเป็นพักๆ แต่พอเข้าช่วงท้ายๆ เนื้อหาจะเริ่มแตกประเด็นและมีความดราม่าด้านอารมณ์ อีกทั้งยังขยับขยายเนื้อหาให้กว้างขึ้นจนเกินกว่าที่คาดคิดไว้

นักแสดงหลักทุกคนเล่นดีมากอยู่แล้ว แต่ที่แปลกใจคือน้องแอลลี่ เล่นดีเกินตัวมาก เล่นเป็นรุ่นเดียวกับพี่ๆอีกสองคนได้อย่างเนียนเลย และก็เพิ่งเคยเห็นน้องแอลลี่ สบถคำนี่แหละ ขนาดด่ายังน่ารักเลย

พระปั๊ปเทศน์เสียงนุ่มมากครับ ซีนพระปั๊ปซีนแรกผมนี่ขนลุกเหมือนกับตัวละครที่กำลังแสดงอาการขนลุกเลยครับ ด้วยบรรยากาศสถานที่ และการห่มเหลืองเป็นพระป่าพระนักปฏิบัติ พี่ปั๊ปทำได้ดีมากครับ อันนี้อวยยศให้เลยครับ แต่พระก็เกือบเอาตัวเองไม่รอดเช่นกันนะครับ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองล้วนๆ​ ความชอบหรือไม่ชอบนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล​ รสนิยม​ในการรับชมย่อมแตกต่างกัน​ บางท่านอาจจะชอบหรือไม่ชอบ​ ก็ลองตัดสินใจด้วยตัวท่านเองนะครับ

“ขอให้มีความสุขในการรับชมนะครับ”

Jakrapat Promin

The Believers (2024) สาธุ

รีวิว ..สาธุ..1000/10 คะแนน⭐️ (ความชอบส่วนตัว)

#Netflix รีบดูก่อนโดนลบ ❌ ปล.บทความยาวมาก

“เมื่อวัยรุ่นติดหนี้ต้องเป็น CEO บริหารวัดให้ได้กำไร” 📊

ซีรีย์ไทย..ก็มีดีไม่แพ้ชาติใดในโลก

สาธุ..ซีรีย์ที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อเสียดสีศาสนา ..แต่เป็นซีรีย์ที่สร้างมาโดยมี “ศาสนาเป็นแก่นหลัก”

พวกเขาพาเราไปดู “นี่แหละที่สามารถใช้ความเป็นไทย และต่อยอดไปสู่สิ่งใหม่ๆได้”

ดูจบแล้วต้องขอปรบมือให้ทั้งทีมสร้างและนักแสดงทุกคน และที่ขาดไม่ได้คงต้องยกความดีความชอบให้กับ NF ที่กล้าสร้างหนังตรงไปตรงมาและสามารถพูดได้ว่า “เมื่อเรากล้าที่จะทำซีรีย์ที่บทแหวกแนวไปจากขนบเดิม กล้าทำ กล้าพูด กล้าให้เห็นถึงทุกแง่มุมของแก่นหลักนั้นๆ

ผมกล้าพูดได้ว่า “ซีรีย์สาธุ…ดีกว่าซีรีย์อีกเยอะมากบานตะไทใน NF”

ที่นี้เรามาลงในรายละเอียดดีกว่า ว่าทำไมผมถึงชมซีรีย์เรื่องนี้ขนาดนี้

1.ศรัทธามา..เงินตราเกิด ซีรีย์ศาสนาที่มากกว่าการเสียดสี

ต้องยอมรับอย่างนี้ครับว่า “ศาสนาพุทธอยู่คู่สังคมไทยมานานมาก” ดังนั้นเมื่อนำประเด็นของศาสนามาใช้ ผมมองว่า “คนส่วนใหญ่คงคิดว่าซีรีย์เรื่องนี้ต้องสร้างมาเพื่อเสียดสีศาสนา เพื่อด่า หรือเหน็บแนม ศาสนา ซึ่งก่อนดูแม้แต่ตัวผมเองก็คิดแบบนั้น แต่กลับกัน หนังทำได้มากว่า ที่ผมจินตนาการไว้ คือเขาไม่ได้มุ่งเน้นไปให้คนดูมองว่า “การมีอยู่ของศาสนาเป็นสิ่งที่ผิด” กลับกันเขาพาคนดูไปให้เห็นด้วยซ้ำว่า “จริงๆแล้วผู้ที่อยู่รอบศาสนาต่างหากคือผู้ทำให้เกิดเหตุการต่างๆตามมา หาใช่ความผิดของศาสนาไม่”

จุดนี้แหละที่ผมรู้สึก “โครตประทับใจ” มันทำให้เห็นว่า ไอที่คนส่วนใหญ่เกลียดศาสนา หรือมองว่า ศาสนามีไว้ทำไม มันหลุดประเด็นไปไกล “เพราะศาสนาเกิดขึ้นและตั้งอยู่เป็นเวลาช้านานเป็น 1000ๆ ปี หากไม่มีใครไปหยิบยกมาพูด มาเผยแพร่ต่อ หลักใจความสำคัญและแก่นแท้ของที่ศาสนาพยายามเผยแพร่ไม่ได้หายไปหน ศาสนาจะดีจะแย่ หาใช่เกิดจากตัวศาสนา แต่มันล้วนแล้วแต่เกิดจากสภาพแวดล้อมที่ทำให้คนส่วนใหญ่มองเข้าไปและเป็นภาพทัศน์แบบที่พวกเขาอาจรู้สึกไม่ดี ใครรู้สึกยังไงผมไม่รู้แต่ส่วนตัวผมรู้สึกประทับใจ

โดยหนังมีการเล่าที่มาที่ไป ว่าแก๊ง 3 หน่อ ที่กู้เงินมาเปิดบริษัทเกม แต่ดันเจ้ง และต้องกาเงินไปคืน เจ้าหนี้ให้ได้ทันกำหนด แล้วอะไรละ คือแหล่งที่มาของเงินที่พวกเขาจะสามารถหามาให้ได้ทัน Deadline ใช่ครับไม่บอกก็รู้คำตอบคือ “หาแดกกับศาสนาไงละ” เพราะตัวละครได้อธิบายไว้หมดแล้วว่า “ในประเทศนี้ เงินที่ตรวจสอบยากอันดับต้นๆ นั้นคือเงินที่หมุนเวียนพายในวัด” ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่เรื่องพาตัวละครทั้ง3มาเพื่อผูกเข้าปมของเรื่อง

สิ่งที่เราจะได้เห็นหลังจากนี้ “คือกิจกรรมต่างที่ทั้ง 3 หน่อ ต้องหารายได้เข้าวัดให้ได้มากที่สุดเพื่อเอาไปปิดหนี้” นั่นจึงเป็นที่มาของเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายในเรื่องที่ใช้คำว่า “ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงภายในวัดจริงๆ” นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้คนดูไม่รู้สึกตะขิดตะขวง ว่าเหตุการณ์นี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ดังนั้นแล้วยิ่งดูยิ่งทำให้รู้สึกว่า หนังทำบทต่างๆ ออกมาได้ดีจริงๆ

และที่ต้องชมยิ่งกว่า “คือคอนฟริค หรือ อุปสรรค ต่างๆโผล่มาเรื่อยๆ ไม่ให้หยุดพักที่กลุ่มตัวเอกต้องเจอ ก็ถ้าหาเงินไปปิดหนี้ได้ง่ายๆ มันก็ดูไม่มีอะไรเกินไปใช่ไหมครับ ?” จุดนี้แหละที่ทำให้ผมรู้สึกโอเค ว่าหนังไทยมีชั้นเชิง สู้พวกต่างประเทศได้แล้ว ไม่ใช่คอนฟริคที่เรารู้สึกว่า “ใส่เข้ามาทำอะไรว่ะ ไม่เมคเซนต์”

สิ่งถัดมาคือเขาเล่นกับประเด็น ”ไม่ได้เสียดสี ความศรัทาของคนต่อศาสนา” จุดนี่เป็นจุดที่น่าสนใจมากๆ เพราะไม่รู้คนอื่นคิดแบบผมไหม แต่ผมรุ้สึกว่า หนังไม่ได้ “จงใจขยี้ว่าพวกศรัทธาและบริจาคให้ศาสนาคือคนโง่” หนังไม่เลือกเล่นประเด็นนี้เลย ซึ่งเอาเข้าจริงๆ สามารถเล่นได้ แม้แต่ตอนสุดท้ายที่ กัน ต้องมาปะทะคารมกับ ตำรวจ บทพูดต่างๆที่กันและตำรวจพูด “มันขยี้ตรงจุดมากเลยนะ เพียงแต่เราไม่ได้รู้สึกว่า มันเป็นการด่า หรือต่อว่า แต่มันเหมือนเป็นการพูดถึงหลักความเป็นจริง หลักที่เราไม่สามารถปฏิเสธได้นั่นคือ “ศรัทธามา..เงินตราเกิด” ส่วนตัวผมมองว่า อำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก “คืออำนาจของศรัทธา“เพราะเมื่อคุณมีมันในครอบครอง power ของมันสูงยิ่งกว่า อำนาจเงินตรา หริออำนาจทางการทหารซะอีก ลองไปถาม “พอล อะทรีดีส ” ดู

2.”บริหารวัด เปรียบเสมือนบริหารธุรกิจ”

หนังพยายามทำให้ทุกคนคิดว่า “วัดก็เปรียบเสมือน แบรนด์แบรนด์นึง ที่หากอยากหารายได้เข้าวัด คุณก็ต้องใช้หลักการคิดแบบเดียวกับการบริหารธุรกิจ

ผมโครตชอบคอนเซปนี้เลย คือถ้าใครดูแล้วอคติ ถือว่าใจโครตมืดบอร์ด เดี๋ยวนี้โลก พยายามที่จะนำแนวคิดต่างๆ มาผสมผสานกันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย จุดนี้แหละที่หนังใช้ เป็นเหมือน “เครื่องมือที่กำลังสอนคนดูไปด้วย เพราะสิ่งที่คุณเห็นในหนัง มันคิอ”หลักความรู้เบื้องต้นของการบริหารธุรกิจ” มีทั้งการเพิ่มกิจกรรม , การเสริมภาพลักษณ์ , การกระตุ้นยอดขาย, การออกผลิตภัทณ์รุ่นพิเศษ บลาๆ

คือผมดูไปผมรู้สึก เออ มันต้องแบบนี้สิวะ หนังมันถึงมีรสชาติ ที่แปลกใหม่ และน่าติดตาม และส่วนตัว ผมมองว่า ตรงนี้คือจุดขายของหนังเรื่องนี้ที่แข็งแกร่งมากๆ เพราะเขารู้จักให้คนมาคิดว่า “แทนที่ไอพวกนี้มันคิดแค่เรื่องโกงเงินวัด โกงเงินจากความศรัทธาของประชาชน กลับกัน ไอวีธีการท่พวดเขาใช้ต่างหาก คือวิธีการที่ใช้ได้จริงและเห็นผลจริงไม่มากก็น้อย

3.ความลึกของบทที่รอวันปะทุ

นี่สิถึงเรียกว่า “บทหนังไทยแม่งพัฒนา” ทั้ง 3 ตัวละครหลักของเรื่อง มีความลึกของบท ที่ทำให้เราคนดูจมดิ่งไปกับ สิ่งต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาใส่ตัวละครแบบไม่ได้ตั้งตัว คือตั้งแต่ดู ผมยังไม่เห็น ทั้ง 3 คน ยิ้มและหัวเราะได้ แบบที่ วัยรุ่นส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตไปวันๆ โหยหาความสุขใส่ตัวเป็น แต่ทั้ง 3 คนมีความลึกของบทอย่างเยอะมากๆ

บทของเจมส์ ที่คอนฟริคหลักคือพ่อ ในขณะเดียวกันเป็นมันสมอง บวกกับไลน์ความรักก็ดูไม่รู้ว่าจะเอายังไง แล้วไหนจะคุณธรรมส่วนตัว ก็ไม่รู้มีจริงหรือปล่าว

แอลลี่ ที่มีปมเรื่อง พ่อแม่ ใหนจะเรื่องที่ต้องเข้ามายุ่งกับวงการศาสนา ทั้งๆที่เราทุกคนรู้ดีว่า “พระ กับ สีกา” เป็นสิ่งที่ไม่สามารถอยู่ใกล้กันได้

พีช ที่เป็นเหมือนนายทุนของกลุ่ม เป็นเหมือนคนที่คอยบอกเพื่อนว่า “มึงเอากุเอา ไปให้สุด” ขณะเดียวกันเปรียบเสมือนเป็น “ดีลเลอร์” คนกลางที่เข้าเจรจา แต่ในขณะเดียวกัน ปมกับที่บ้าน ก็เหมือนรอวันระเบิดได้ทุกเมื่อ

ในขณะเดียวกัน “หนังไม่อ่อนโยนต่อคนดู ถ้าคุณคาดหวังว่าหนังจะใส่ฉาก พยายามคิดถึงศาสนาก่อนตนเอง No No No ’ คุณอาจเห็นแต่มันน้อยมากๆ ผมมองว่า หนังรู้ตัวดีว่า “ตัวเองมี 3 ตัวละครหลักที่แทบไม่เชื่อเรื่องศาสนา จะให้อยู่ๆ มาบอกว่าสำนึก ผมกลับมองว่า หนังกำลังหลอกคนดู” แต่ถ้าหนังเริ่มให้เวลากับตัวละครใกล้ศาสนา หรือเอาง่ายที่สุด รู้สึกใกล้ชิดกับพระ ผมจะไม่แปลกใจ ถ้าเขาใส่บทห่วงใยพระขึ้นมา จุดนี้ที่หนังทำออกมาได้ดี และในขณะเดียวกัน ตัวละครอื่นๆ ก็ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว จุดนี้แหละที่ชอบมากๆ

เห็นไหมครับ หนังไทยอยากสร้าง “บทที่มีความลึก พวกเขาก็สร้างได้ และสร้างได้เมคเซนต์ด้วย” แล้วแบบนี้คนดูคนใหนจะกล้าด่า ?

4.นักแสดง เล่นดีทุกคนเลย

นักแสดงหลักที่เป็นคนดำเนินเรื่องผมไม่รู้สึกว่าพวกเชาฝีมือไม่ถึงเลย

เจมส์ มันสมองของกลุ่ม ผมคิดว่าเจมส์พยายามคีพคาแรคเตอร์ให้ดูเป็นเหมือนมันสมองของกลุ่มมากๆ ตอนผมเห็น เจมส์ “เหมือนผมเห็น L ในเดตโน๊ต ” แต่เป็นเวอร์ชั่นที่เบากว่ามาก เพราะของ L ก็สุดเกิ๊น ซึ่งตรงนี้ พอดูไปเรื่อยๆ ผมโอเคนะ ซึ่งเจมส์ก็ทำได้ดีจริงๆ ในเรื่องของคาแรคเตอร์การเป็นมันสมอง

แอลลี่ ครีเอเตอร์ของกลุ่ม ผมไม่รู้สึกว่าน้องเหมือนนักแสดงหน้าใหม่ที่เล่นแข็งๆเลย น้องสอบผ่านมาก ยิ่งในพาร์ท เป็นเหมือนเพื่อนของหลวงพี่ปั๊บทำได้ดี

สุดท้าย พีช มือดีลของกลุ่ม นี่คือตัวละครที่ต้องเข้าไปเจรจา ไปดีลทุกอย่าง โดยใช้คาแรคเตอร์ของตัวเองให้เป็นประโยชน์ แต่มีสิ่งที่น่าแปลกใจ “เมื่ออยู่ข้างนอก พีชเหมือนคนที่มีอิสระ สามารถเข้าหาได้ทุกคน สามารถดีล ยื่นข้อเสนอ หรือคิดวิธีรับมือ แต่กลับกัน พอพีชกลับไปอยุ่ในบ้าน เหมือนเขาเป็นจอมเวทย์ที่ถูกมัดมือมัดเท่า” ไม่มีสิทธิ มีเสียง ออกความเห็นและโน้มน้าวใครได้เหมือนที่อยู่ข้างนอก”

โดยทั้ง 3 คนมี คอนฟริคเรื่องเงิน 50 ล้านที่ต้องแก้ ใหนจะคอนฟริคจาก การบริหารวัดที่ถาโถมเข้ามา ยังไม่รวมคอนฟริคทั้งเบื้อหน้า และเบื้องหลังของตัวละคร ที่รอวันแก้ไช คือ “ซีรีย์เรื่องนี้ ทำบทได้ลึกมากๆ”

หลวงพี่ปั๊บ เอาจริงดิ “นี่หลวงพี่แสดงครั้งแรกจริงหรอ ฝีมือการแสดงแบบนี้ เป็นนักแสดงสบายๆ แถมทำได้ดีมากๆอีกด้วย ผมไม่มีอะไรจะติเลย

นักแสดงคนอื่นๆ “ไม่ติใครเลย อาจมีการเล่นใหญ่ของพี่ตำรวจนิด ๆ แต่ยังยอมรับได้ เมื่อเทียบกับเหตุการณ์โดยรวมต่างๆ ดังนั้น นักแสดงเรื่อง สาธุ ผมใช้คำว่า “เล่นดีทุกคนครับ”

5.โปรดักชั่น

แม้เจ้า “กราบโปรดักชั่น NF งาม” ใครจะไปคิด ฉากปลุกสร้างหลวงพ่อผึ่งหลวง ต้น EP.8 เขาทำให้ผมขนลุกจริงๆ ใครจะไปคิด “เอาเพลงแรป มาใส่กับฉากปลุกเสกพระเครื่องแล้วเข้ากันขนาดนี้”

ที่ตลกคือ “ฉากการทำพิธีปลุกเสก แต่มีเพลงแรปเป็นพื้นหลัง มันดันรู้สึกมีมนขลังค์แบบประหลาด ไม่ได้ให้ความรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาเลย แล้วยิ่งเห็นหลวงพี่ปั๊บ ซึ่งเป็นพระนักปฏิบัตธรรม มาทำพิธี มันเลยทำให้รู้สึกว่า ฉากนี้ ทำถึงจริงๆ” และใช่ครั้บ ผมชื่นชม หนังที่สร้างโดย NF มาตั้งแต่ มนรักนักพากย์ , ทีมรักนักหลอก จนมาถึง “สาธุ” ดังนั้นต้องยอมรับว่า “ดารานักแสดงคนใหนที่ได้เล่นกับ NF ถ้างบโปรดักชั่นได้ขนาดนี้ เหลือแค่บทกับฝีมือการแสดงอย่างเดียวแล้วครับที่จะทำให้พวกเขาไปสู้ฝั่งฝัน”

6.เนื้อเรื่องที่ สามารถ ไปต่อได้อีกไกล

ซีรีย์เรื่องนี้ ทำให้คนดูจดจ่อและพยายามติดตาม เห็นถึงการเอาตัวรอดเห็นถึงการไปเจอกับ คอนฟริคต่างๆ แต่ที่ผมขอชมมากๆ “คือซีรีย์เอาคอนฟริค ใส่เข้ามาแบบไล่ระดับ”

ผมโครตประทับใจ ที่เรื่องนี้ เลือกจะเล่นกับการสร้างวัด บ้านๆ วัดหนึ่ง นั่นจึงทำให้ สเกลของหนังมันสามารถอัพขึ้นได้เรื่อยๆ ผมรู้สึกอึ้งตอน พระลูกเจ้าอาวาสบอกว่า “ภารกิจต่อไป พวกพระเอกต้องไปบริหารวัดประจำจังหวัด” หากใครไม่เกท ใช่ครับหนังกำลังบอกเราว่า สิ่งที่หนังภาคต่อไปถ้าหากได้สร้างต่อ คือพวกเชา “ต้องไปบริหารวัดประจำจังหวัด” ที่นั้นอิทธิพล และคอนฟริคต่างๆ จะเพิ่มเข้ามามากมายกว่านี้ มีปมต่างๆที่หนังสามารถหยิบมาเล่นได้อีกเยอะมาก ใหนจะกลุ่มอิทธิพลต่างๆ ที่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ระแวกตำบล แต่มันคือจังหวัด สส,สจ,นายอำเภอ,ผู้ว่า,ใหนจะผู้มีอิทธิพลที่ชอบเข้าวัด เยอะแยะไปหมด และใช้ครับ ถ้าหนังสร้างภาคต่อไปได้เรื่อยๆ “เผลอๆกลุ่มตัวเอกได้ขึ้นไปบริหารวัดระดับบนๆ ของประเทศ สักวัน ซึ่งนั้นยิ่งสนุกเข้าไปอีก

ถ้าใครที่ยังไม่เคยดู ผมอยากให้คุณลองเปิดใจดูครับ หนังเรื่องนี้ดีจริงๆ

Phuwakorn Thongpraserth

The Believers (2024) สาธุ

เห็นเขาว่าเมื่อได้เปิดดู คุณหยุดดูไม่ได้ รู้สึกอีกทีคือ ep8. มันคงไม่เกินจริง

#รีวิว สั้นๆ

– เนื้อเรื่องดี น่าติดตามตลอด ไม่ยืดเยื้อ

-นักแสดง เก่งทุกคน อินสุดๆ

-ไคลแมก ถือว่าทำได้ดี มีจุดพลิกไปมาๆตลอด แต่ก็ไม่ใช่จะเดาเรื่องไม่ได้ เอ๊ะ หรือว่ามันสร้างเรื่องจริงวะ!

-ภาพเสียง ออเครมาก สมเป็น gdh

-ภาพรวม เราว่าเขาทำเนื้อเรื่องได้กลางๆดี ไม่ได้ทำให้พุทธศาสนาเสียหาย และ ตีแผ่สัจธรรมในบางเรื่อง ธรรมชาติของคน การเอาตัวรอด และตีแผ่แง่มุมแตกต่างออกไป ซึ่งถือว่าหนังออกมาดีทีเดียว

-สรุป The Believers (2024) สาธุ  ดูเถอะ เบิ่งสมองมาก ชอบมาก ซีรีไทยก็มีดีเหมือนกัน เนื้ิอเรื่องรักที่แหวกแนว บีบหัวใจ ส่วนใหญ่เนื่อเรื้องจะเป็นแนวดราม่า และเกมส์ธุรกิจมากกว่า ซึ่งส่วนตัวเราชอบนะ เบื่อพวกหนังรักวัยรุ่นๆ ถ้าชอบหนังแนวที่ตีแผ่ความจริง เกมส์เร็ว ไม่ยืดยาด หลายรสชาติ เส้นเรื่องแนวใหม่ ลองดูสักครั่ง

100/10 #สาธุ

ขอบสหนัง

รีวิวซีรีส์  The Believers (2024) สาธุ  หลังดูจบทั้งหมด 9 EP.

หากจัดอันดับ Tier ซีรีส์ไทยใน NETFLIX สำหรับผมซีรีส์ สาธุ อยู่ในระดับ S ไปเลย

สาธุ เป็นซีรีส์ไทยไม่กี่เรื่อง ที่สามารถทำให้เราอยากดูตอนต่อไปได้เรื่อยๆ ตอนหนึ่งจบ ตอนสองต่อ และพอรู้ตัวอีกทีก็ลากยาวไปจนถึงตอนเก้า ซึ่งมันคือข้อยืนยันว่า ทีมงานสามารถเล่าเรื่องได้เก่งขนาดไหน

สาธุ เป็นซีรีส์ไทย ที่แม้หน้าฉากจะทำมาเพื่อสั่งสอน แต่เนื้อหาจริงๆ ไม่มีการสั่งสอนอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเล่าด้วยความเรียบง่าย และทุกๆบทสรุปมักจะเป็นอะไรที่ทุกอย่างดูจริง ผลที่ตามมา ทุกๆอย่างในซีรีส์เรื่องนี้ มันเกิดจากผลของการกระทำของตัวละครทั้งสิ้นไม่มีอะไรเกินขอบเขตไปกว่านั้น

The Believers (2024) สาธุ  เป็นซีรีส์ที่ทุกตัวละครมีความมนุษย์ ทุกๆคนต่างมีมิติเป็นของตัวเอง ไม่มีคนที่ดูดำจนเกินไป หรือขาวบริสุทธิ์จนรู้สึกจับต้องไม่ได้ ทุกๆคนที่เรียกว่า มนุษย์ต่างมีความเทาๆในตัวเอง ข้อนี้ต้องชื่นชมนักแสดงทุกๆคน ทั้งตัวหลักและตัวรอง ( โดยเฉพาะตัวรองดีเกินเบอร์ทุกคน ) สาธุเป็นซีรีส์ที่ออกมาฉากพูดไดอาล็อกดูฉลาดมากๆ ไม่เยอะจนดูล้นมันอยู่ในความพอดี ตอนดูผมไม่รู้สึกเหมือนดูตัวละครคุยกัน มันดูเหมือนคนชื่อนี้ๆคุยกันมากๆ ดูเป็นธรรมชาติมาก

ใครหลายคนอาจอยากที่จะเห็น ซีซั่น 2 ของสาธุ เพราะตอนจบพี่เล่นปลายเปิดแบบนั้น แต่สำหรับผม ผมคิดว่าตัวซีรีส์สาธุมันจบในตอนของมันเองอยู่แล้ว สาธุ อาจไม่ได้อ้างอิงมาจากเรื่องจริงๆที่เกิดขึ้นจริง แต่มันก็อ้างอิงมาจากความเป็นจริงของสังคมไทยเราอยู่ ณ เวลานี้ และในตอนจบของสาธุ มันก็คือความจริงบนสังคมเรา ที่ยังคงเดินและหมุนเวียนต่อไป สิ่งที่วัยรุ่นทั้งสามคนทำได้ในซีซั่น 1 มันก็สุดๆแล้ว ถ้าให้ทำใหญ่ขึ้นในประเด็นที่เขาหยอดมาตอนจบ ผมก็คิดว่ามันดูเวอร์จนเกินไปหน่อย แถมที่เป็นแก่นหลักของเรื่องอย่าง ศาสนา ซีซั่นแรกก็เล่าครบหมดแล้ว ซีซั่น 2 ถ้าจะเปลี่ยนธีมมันก็ดูจะแปลกๆเกินไป

แต่ถ้าทำจริงๆ ผมก็ดูนะ เพราะตอนนี้ซีรีส์ไทยใน NETFLIX ยังไม่มีเรื่องไหนเลยที่ผ่านเพดานซีซั่น 2 ได้ แต่ด้วยประสิทธิ์ภาพทีมงานของเรื่องนี้ ก็มีประสิทธิภาพโหดเกินเบอร์ที่จะทำได้ แน่นอน

ผู้กำกับ

วรรธนพงศ์ วงศ์วรรณ

บริษัท ค่ายหนัง

• Joy Luck Club Film House
• Deluxe Production

นักแสดง

• ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ
• พชร จิราธิวัฒน์
• อชิรญา นิติพน
• พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข
• ชาญณรงค์ ขันทีท้าว
• เผ่าเพชร เจริญสุข
• สุรสีห์ ผาธรรม
• จินตหรา สุขพัฒน์
• ปราโมทย์ แสงศร
• มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ The Believers (2024) สาธุ

ดูหนังออนไลน์ วิน เกมส์ และเดียร์ เพื่อนสนิท 3 คนลงทุนทำธุรกิจเกมโดยใช้เงินทุนจากการกู้นอกระบบ แต่เจอปัญหาธุรกิจเจ๊งและยังติดหนี้ก้อนโตกับเจ้าหนี้สุดโหด พวกเขาต้องหาเงินมาใช้หนี้ให้ได้ในเวลาอันจำกัด และพวกเขาก็ค้นพบวิธีที่จะหาเงินจำนวนมากให้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว นั่นคือการทำธุรกิจวัดนั่นเอง พวกเขาใช้โมเดลธุรกิจ การตลาดและความสามารถเฉพาะตัวเข้าไปทำให้ “วัดภุมราม” ที่เงียบเหงากลายเป็นวัดดังในเวลาอันไม่นาน ยิ่งคนเข้าวัดมากเท่าไหร่ วัดก็มีเงินหมุนเวียนมากขึ้นเท่านั้น วัดและความศรัทธาของผู้คนจึงเป็นแหล่งทำเงินขนาดใหญ่ การหากินกับวัดครั้งนี้จะสะดุดหรือราบรื่น

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Not Friends (2023) เพื่อน(ไม่)สนิท

The Undertaker (2023) สัปเหร่อ

Bad Social (2023) เกม ล่า ตาย

4 Kings 2 (2023) โฟคิงส์ 2

Nemesis (2019) คืนยุติ-ธรรม