Transformers Rise of the Beasts (2023) ทรานส์ฟอร์เมอร์ส กำเนิดจักรกลอสูร

ดูหนัง Transformers Rise of the Beasts (2023)  ทรานส์ฟอร์เมอร์ส กำเนิดจักรกลอสูร

รีวิวหนัง

หนังครอบจักรวาล

Transformers Rise of the Beasts (2023) ทรานส์ฟอร์เมอร์ส กำเนิดจักรกลอสูร – บีสต์บทจืดจังเลยวะครับเนี่ย!!

Director : Steven Caple Jr. (Creed 2)

Genre : Action, Adventure, Sci-Fi

– ยอมรับตรงนี้ก่อนเลยว่า หมดศรัทธากับหนังแฟรนไชน์นี้ไปหมดแล้ว ถึงแม้จะมี Bumblebee มาช่วยกู้หน้าไป แต่มันก็ไม่สามารถทำให้เราไฮป์เหมือนอย่าง Transformers ภาคแรกได้อีกแล้ว แต่พอได้มาดูรอบสื่อครั้งนี้ บอกเลยว่าความคิดถึงกลับเปลี่ยนไป เพราะหนังมันสนุกมากๆ ที่สำคัญมันยังทำให้เราตื่นเต้นในเรื่องราวต่อไปในอนาคตอีกด้วย !!

– ผมรู้สึกว่า Transformers ภาคนี้มันกลับมามีหัวใจอย่างที่ภาคแรกหรือ Bumblebee ทำได้ มันไม่ได้ยัดระเบิดกับ CGI หุ่นยนตร์มาแบบเผินๆ เราจึงรู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครได้มากกว่าแต่ก่อน มันจึงเกิดเป็นโมเม้นเอาใจช่วย ถึงแม้ว่าเราจะรู้อยู่แล้วว่าตอนจบจะเป็นยังไง ผมแฮปปี้นะที่ได้ดู Transformers ภาคนี้

– เรื่องราวมันมีมิติมากกว่าเดิมเยอะเลย เพราะภาคนี้มันสร้างสถานการณ์ให้ตัวละครหลักต้องตัดสินใจว่าจะช่วยโลกหรือช่วยเหล่าหุ่นยนตร์ต่างดาว แต่หนังก็ไม่ได้ขยี้อะไรเท่าไหร่ เพราะเหรียญมันก็ยังคงมีเพียงแค่ 2 ด้าน ในส่วนของ Transformers มันก็ออกด้านเดิมๆอยู่แล้ว เอาเป็นว่า conflict ตรงนี้ก็ยังพอสร้างสีสันได้ดีเลย

– ตัวละครภาคนี้ที่ผมชอบที่สุด คงหนีไม่พ้น “มิราจ” หุ่นยนตร์จอมพลางกายที่เป็นหุ่นคู่ใจตัวละครเอกในภาคนี้ อยากจะบอกว่าแม่งเป็นตัวที่แย่งซีนสุด ทุกๆครั้งที่ตัวละครนี้ออกมา มันสามารถขโมยรอยยิ้มไปจากผมได้จริงๆ ส่วน “บัมเบิ้ลบี” หนังก็พยายามจะขายเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าบทจะน้อย แต่ออกมาทีเท่กินขาดบาดใจสุดๆไปเล้ย !!

– การครีเอทซีนแอคชั่นมันก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่มากนักหรอก แต่ผมรู้สึกว่าภาคนี้คัทติ้งน้อยกว่า มันจึงทำให้คนดูสนุกแบบไม่ทันตั้งตัว ไหนจะการวางตัวละครให้มีหัวใจ ไม่ใช่หุ่นยนตร์ไร้ชีวิต มันจึงตอบรับความแอคชั่นให้ถึงจุดที่จะเป็น แต่ก็ต้องติเรื่อง CGI ลอยสักหน่อย มันมีหลายๆช่วงที่รู้สึกแบบนั้นเลย ยิ่งตอนที่คนต้องไปรวมกับรถ ทุกครั้งจะดูลอย

– หนังมันมีตอนจบที่บียอนด์มากๆ หลุดกรอบของความเป็น Transformers มันเซอไพรส์มาก และมันสร้างความคาดหวังขึ้นในจิตใจอีกครั้ง และที่สำคัญคืออยากดูเรื่องราวต่อจากนี้แบบไม่ไหวแล้ว ปล.ภาค Rise of the Beasts นี่ต่อมาจาก Bumblebee เลยนะ ผมหวังมากๆว่าจะได้เห็นอะไรเฟี้ยวๆของจักรวาลนี้ !!

‼️‼️สรุป‼️‼️ ไม่ใช่ภาคที่ผมชอบที่สุด แต่ไม่ใช่ภาคที่แย่ที่สุด ถ้าให้ผมเรียงตามความชอบ จะได้ประมาณนี้ 1-BB-ภาคนี้-2-3-4-5 ถือว่าชอบเป็นอันดับ 3 ของแฟรนไชน์เลย อาจจะเพราะเราไม่ได้ดูนานด้วยมั้งนะ… แต่สำหรับใครที่เป็นแฟน Transformers หรือเป็นแฟนหนังแอคชั่นระเบิดระเบ้อ เรื่องนี้ตอบโจทย์แน่นอน !!

💚ความชอบส่วนตัว 4/5

🎬ความเป็นหนัง 3.5/5

🌟หนังดาวรุ่ง 7.5/10

หนังโปรดของข้าพเจ้า

Transformers Rise of the Beasts (2023) ทรานส์ฟอร์เมอร์ส กำเนิดจักรกลอสูร

ถ้า Transformers: Rise of the Beasts ฉายสัก 5 ปีก่อนพร้อมกับ Bumblebee ก็คงพอจะให้คะแนนเท่ากันได้ แต่พอยุคนี้หนังบล็อกบัสเตอร์มันไปไกลกันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ในโรงภาพยนตร์แบบ Top Gun: Maverick หรืออย่างการใช้แอนิเมเตอร์เต็มเหนี่ยวใน Across the Spider-Verse แม้แต่ปีนี้หนังแอ็คชั่นยังต้องยกระดับตัวเองให้ได้แบบ John Wick 4 คือพอบาร์หนังบล็อกบัสเตอร์มันเซ็ตสูงขึ้นเรื่อย ๆ การที่จะมาคาดหวังว่าคนจะดู Transformers แล้วได้แค่ระดับ ‘โอเคกว่า’ ภาคท้าย ๆ ของไมเคิล เบย์ มันก็ทำให้รู้สึกเสียของเหมือนกัน เพราะอย่าลืมว่าตอน Transformers เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 16 ปีก่อนมันคือระดับปรากฎการณ์หนังบล็อกบัสเตอร์เทคนิคพิเศษเวลานั้นเลย

ส่วนที่คิดว่าภาคนี้มันยังอยู่ในระดับโอเค คือพอเป็นหนังหุ่นยนต์บิ๊กเบิ้มแล้วยังสามารถใส่เงื่อนไขให้มนุษย์ตัวกระจ้อยร่อยมีส่วนร่วมแบบไม่ขัดเขิน สามารถใช้ตัวละครหลักสองคนเดินเรื่องไปพร้อมกับหุ่นออโต้บอทและแม็กซิมัลโดยที่ดูแล้วไม่รู้สึกเป็นส่วนเกินมากนัก แถมแก้ปัญหาเรื่องปล่อยคนพูดคนเดียวจากตอน Bumblebee ไปได้เยอะ และหุ่นยนต์ที่เป็นตัวหลักก็ดูมีความรู้สึก แต่ปัญหายังคงคล้ายตอน Bumblebee คือพวกตัวรองยังแห้งเป็นหุ่นกระป๋องเอามาก ๆ

ซีเควนซ์แอ็คชั่นตอนท้ายก็ไม่ได้น่าประทับใจสักเท่าไร เอาจริงแอ็คชั่น Transformers มันแทบจะหมดความตื่นตาตื่นใจไปแล้ว ยังหาผู้กำกับที่ปลุกความระทึกใหม่อีกครั้งยังไม่ได้ หลายอย่างมันดูกินบุญเก่าไม่ได้พยายามต่อยอดให้ไปไกลขึ้น พวกฉากรถแปลงร่างที่เคยตื่นตาหรือหุ่นยักษ์สู้กันมันก็ดูเดิม ๆ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแล้ว ถ้าจะมีสักอย่างที่ตื่นเต้นน่าจะเป็นความหวังในการ Crossover แต่ถึงตอนนั้นก็คงว่ากันอีกทีว่ามันจะชวนให้ตื่นเต้นได้จริงไหม

Transformers: Rise of the Beasts (2023) เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้

Director: Steven Caple Jr. (ผู้กำกับ Creed II)

story: Joby Harold

screenplay: Joby Harold, Darnell Metayer, Josh Peters, Erich Hoeber, Jon Hoeber

Genre: action, adventure, sci-fi

6.5/10

Papa Arr – Movie talk

TRANSFORMERS: Rise Of The Beasts กำเนิดจักรกลอสูร (USA 2023)

เรต: 7/10* — Sci-Fi, Adventure Movies

กำกับโดย: สตีเว่น เคเปิล จูเนียร์

นำแสดง: แอนโทนี่ รามอส, โดมินิก พึชแบ็ก, ปีเตอร์ ดิงค์เลจ

ศึกแย่งชิง กุญแจเปิดประตูมิติอวกาศ ของหุ่นยนต์จักรกล 2 ฝ่าย โดยฝ่ายหุ่นยนต์อสูร ต้องการเพื่อใช้เดินทางไปทำลาย ดูดกลืนดาวเคราะห์ต่างๆ เพื่อเป็นพลังงานหล่อเลี้ยงเหล่าหุ่นยนต์อสูร

เรื่องมาเกิดขึ้นกับโลก เพราะหุ่นยนต์ฝ่ายดีพ่ายแพ้ นำกุญแจหนีมายังโลก ทำให้เหล่าหุ่นยนต์อสูรตามมาแย่งชิง หนังจบลง มนุษย์ร่วมมือกับหุ่นยนต์ฝ่ายดี ปกป้องโลกไว้ได้

สำหรับส่วนตัวแล้วคงผิดหวังกับหนังภาคนี้ การต่อสู้ของหุ่นยนต์ทั้ง2ฝ่าย เหมือนไม่ได้เกิดขึ้นบนโลก มีเพียงมนุษย์ 2 คน เลยเกิดความสงสัย ว่าที่เหลือไปไหนหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรบ , ทหาร, กำลังพลบนโลกทัพบก-ทัพเรือ-ทัพอากาศ ไม่มีให้เห็น ในมุมมองส่วนตัว เลยทำให้หนังไม่สมบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง ดูแล้วรู้สึกค่อนข้างผิดหวังครับ

เรต* เป็นเรตพิเศษ คนชอบหุ่นยนต์ครับ

ผู้กำกับ

สตีเวน เคเพิล จูเนียร์

บริษัท ค่ายหนัง

•  สกายแดนซ์มีเดีย
• ฮาสโบร
• นิวรีพับลิกพิกเจอส์
• ดีบอนาเวนตูราพิกเจอส์
• เบย์ฟิมส์

นักแสดง

• แอนโธนี รามอส
• โดมินีก ฟิชแบ็ก
• ลอเรน เวเลซ

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ดูหนังออนไลน์ Transformers Rise of the Beasts (2023) ทรานส์ฟอร์เมอร์ส กำเนิดจักรกลอสูร ในเวอร์ชั่นเป็นการเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 1994 กับการผจญภัยและต่อสู้ครั้งสำคัญของเหล่าสมาชิกจักรกล ออโตบอตส์ ที่พวกเขาต้องหาหนทางในการกลับดวงดาวของตัวเอง ซึ่งนั่นทำให้ต้องมาจับมือผนึกกำลังกับเหล่าจักรกลเผ่าใหม่ที่ชื่อว่า แม็กซิมอลส์ บนโลกมนุษย์ ท่ามกลางวิกฤตการณ์ที่ยังถูกพวกดิเซปติคอนส์พยายามรุกราน หาวิธีกลืนกินดวงต่าง ๆ ไปทั่วกาแลกซี

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Fast and Furious 9 (2021) เร็ว…แรงทะลุนรก 9

FAST X (2023) เร็ว…แรง ทะลุนรก 10

Iron Man 1 (2008) ไอรอนแมน

Iron Man 3 (2013) ไอรอนแมน 3

The Flash (2023) เดอะ แฟลช