ดูหนังออนไลน์ เต็มเรื่อง หนังใหม่อัพเดททุกวัน ฟรี HD ชัด

ดูหนังออนไลน์ moviehd24 หนังใหม่HD ดูหนังเต็มเรื่อง2024 ซีรี่ย์ออนไลน์ ดูซีรี่ย์ฟรี

google search

Captain America Civil War (2016) กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก

ปีที่ฉาย : 2016
เสียง : พากย์ไทย
Episode : -
imdb 7.8
ความคมชัด : HD
Captain America Civil War (2016) กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก

ดูหนังออนไลน์ Captain America Civil War (2016) กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก

เรื่องย่อ : Captain America Civil War (2016) กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ ดูหนังHD ดูหนังฟรี MovieHD24 หนัง2024 หนังออนไลน์ Full HD

Captain America Civil War (2016) กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก

เรื่องย่อ Captain America Civil War (2016) กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก

เมื่อ สตีฟ โรเจอร์ส (คริส อีแวนส์) ได้นำทีมอเวนเจอร์สทีมใหม่ ในการเดินหน้าเพื่อปกป้องมนุษยชาติ หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยมีอเวนเจอร์สเข้าไปเกี่ยวข้องได้ส่งผลกระทบต่อเนื่อง ความกดดันทางการเมืองทำให้เกิดระบบตรวจสอบและพิจารณาการทำงานของทีมอเวนเจอร์ส ซึ่งสถานภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้ทำให้เกิดรอยร้าวในเหล่าอเวนเจอร์สในขณะที่พวกเขาก็ต้องปกป้องโลกจากวายร้ายผู้ชั่วช้าคนใหม่

ผู้กำกับ

  • แอนโทนี รุสโซ
  • โจ รุสโซ

บริษัท ค่ายหนัง

  • มาร์เวล สตูดิโอส์

นักแสดง

  • คริส อีแวนส์
  • รอเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์
  • สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน
  • เซบาสเตียน สแตน
  • แอนโทนี แมกกี
  • เอมิลี แวนแคมป์
  • ดอน ชีเดิล
  • เจเรมี เรนเนอร์
  • แชดวิก โบสแมน
  • พอล เบ็ตตานีย์
  • อลิซาเบธ โอลเซน
  • พอล รัด
  • ทอม ฮอลแลนด์
  • แฟรงก์ กริลโล
  • ดานีเอล บรืล
  • วิลเลียม เฮิร์ต

โปสเตอร์หนัง Captain America Civil War (2016) กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก

Captain America: Civil War (2016) - IMDb

Captain America: Civil War (2016)

Should I Watch..? 'Captain America: Civil War' (2016) - HubPages

รีวิว Captain America Civil War (2016)

สมาชิกหมายเลข 1252259

[CR] รีวิว Captain America: Civil War ผิดหวังเอามากๆ (ไม่สปอยล์)

ถ้าเอาสั้นๆง่ายๆ หนังปานกลางครับ ไม่ได้แย่ แต่ไม่ได้ดีแบบที่นักวิจารณ์รอบสื่อ (ไทยและต่างชาติ) อวยไว้เลย
เริ่มกันทีละส่วน

เนื้อเรื่องและการเล่าเรื่อง
“เมื่อกัปตันอเมริกาและทีมอเวนเจอร์สต้องเข้าไปจัดการกับเหตุการณ์ระหว่างประเทศซึ่งนำมาสู่ความเสียหายใหญ่หลวง ทำให้นักการเมืองพยายามที่จะออกกฎหมายลงทะเบียนเหล่าฮีโรเพื่อที่จะคอยควบคุมเหล่าอเวนเจอร์ส นำไปสู่การแตกแยกกันของเหล่าอเวนเจอร์ส ในขณะที่พวกเขากำลังพยายามปกป้องโลกใบนี้จากศัตรูตัวใหม่”
หนังมีสองส่วนปนกันอยู่ครับ คือส่วนที่เป็นหนังเดี่ยวของ Captain America และส่วนที่เป็น Civil War โดยมีความพยายามที่จะนำเหตุการณ์ในภาคก่อนๆโยงเข้ามาป้อนในส่วนนี้

สิ่งที่ชอบ (ในส่วนต่อๆไปจะใช้สัญลักษณ์ + )

-หนังมีโทนที่ซีเรียสขึ้น มุขตลกน้อยลง แต่เวลามีก็ฮาดี ส่วนมากมุขจะมาถูกที่ถูกเวลา (เว้นบางช่วง) ตรงนี้ทำออกมาได้ดีกว่า กลมกล่อมกว่า Age of Ultron และ Cap: TWS
-ตัวเนื้อเรื่องที่เป็นส่วนของ Civil War เขียนออกมาค่อนข้างโอเค ไม่เลอะเทอะจนเกินไป และเล่าออกมาได้ทีละนิดทีละหน่อย ไม่อีรุงตุงนัง
-การกำกับ ลำดับภาพ โดยรวมค่อนข้างดี โดยเฉพาะซีนอารมณ์ต่างๆ บิ้วได้ดี ไม่เกินไม่ขาดจนเกินไป มีแค่บางฉาก ที่ผมรู้สึกว่าต้องปรับปรุง

สิ่งที่ไม่ชอบ (ในส่วนต่อๆไปจะใช้สัญลักษณ์ – )

-เนื้อเรื่องส่วนที่เป็นหนังเดี่ยวของ Captain America โดยส่วนตัวไม่ค่อยอินกับมิตรภาพของ Cap และ Bucky ซึ่งภาคนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนใจผมเท่าไหร่เลย ผมรู้สึกว่า ตัวละครของกัปตันถูกเขียนมาตื้นเกินไปในภาคนี้ และเมื่อหนังเล่าเรื่องเน้นไปที่จุดนี้ ผมไม่อินเลย

-ตัวละครที่ไม่จำเป็นเยอะ หลายตัว ผมรู้สึกว่าถูกดึงเข้ามา เพื่อให้มี “Civil War” มากกว่าถูกดึงเข้ามาเพราะสถานการณ์เอื้ออำนวย รวมถึงตัวร้ายเรื่องนี้ ตรงนี้ผมจะบอกอีกทีเมื่อรีวิวตัวละคร

-การที่พยายามโยงถึงภาคก่อนๆ ผมไม่อินเช่นกัน เนื่องเสียจากว่า ในเหตุการณ์เหล่านั้น (New York – The Avengers, Washington D.C. – Captain America: The Winter Soldier, Sokovia – Avengers: Age of Ultron และอีกหนึ่งเหตุการณ์ ซึ่งผมพูดไม่ได้ จะติดสปอยล์) หนังไม่ได้ถ่ายทอดความสะพรึงกลัว หรือว่าผู้คนหวาดกลัวการกระทำของฮีโร่เหล่านั้น เพราะหนังถ่ายทอดให้เราเห็นในมุมของฮีโร่ แล้วการทำล้ายล้าง ความเสียหายเหล่านั้น ล้วนแล้วคือชัยชนะเหนือเหล่าร้าย อีกทั้งบางเหตุการณ์ มีการเล่าให้เห็นว่า ฮีโร่เหล่านี้ช่วยคนออกมาแล้วจำนวนมาก ผมจึงรู้สึกว่า การจะบอกว่าผู้คนกลัวฮีโร่เหล่านี้ มันดูไม่มีน้ำหนัก

-จุดเล็กมากๆ แต่เรื่องนี้ เวลาบองสถานที่ต่างๆ เอาตัวอักษรใหญ่ๆแปะกลางจอ แทนที่จะวางตรงขอบเหมือนภาคก่อนๆ ผมดูไปเรื่อยๆแล้วรู้สึกรำคาญ แถมฟอนต์ที่ใช้ก็เหมือนโฆษนาทัวร์ท่องโลก55 ไม่ใช่ปัญหาของหนังแต่อย่างใด อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ

-จุดเล็กๆอีกจุด คือผมว่าเทรลเลอร์ รวมถึง TV Spot ปล่อยภาพมามากไป พอเหตุการณ์ต่างๆจะเกิดขึ้น ผมเริ่มเดาทางได้หมดแล้ว เลยอินน้อยลง อันนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของหนังอีกเช่นกัน เป็นความผิดของฝ่ายการตลาด และตัวผมเองที่ติ่งจนนั่งดูแทบทุกคลิปที่ปล่อยมา555 เตือนละกันครับ อย่าดูคลิปอะไรเพิ่ม

ตัวละคร

+Iron Man – ภาคนี้ เฮียค่อนข้างมีน้ำหนัก มีการพัฒนาตัวละคร (โดยเฉพาะตอนท้ายๆ) ส่วนตัวรู้สึกเห็นด้วยกับสิ่งที่เฮียคิดซะส่วนมาก อินกิบเฮียมากกว่าอีกฝั่ง เดินเข้าโรงก็ #TeamIronMan เดินออกโรงก็ยังคง #TeamIronMan ไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ปล. พ่อของเฮียเปลี่ยนตัวแสดงอีกแล้ว คนที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย55 (ไม่แน่ใจนะครับ แต่หน้าไม่เหมือนเดิมเลย)

+Falcon – เป็นตัวละครฝั่งแคปที่ผมพอจะเห็นด้วยและอินกับเขาได้ เขาเป็นเพียงเพื่อนของแคป แต่เขาไม่ได้ตื้นเขินแต่อย่างใด หนังนำเสนอมุมมองของเขาได้ออกมาค่อนข้างดี

+Spiderman – จำเป็นมั้ย? ตอบได้เลยว่าไม่ ถ้าสไปดี้ไม่อยู่ในเรื่องนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแม้แต่นิดเดียว (มีนิดนึง แต่แค่ฉากเดียวเลย) เพียงแต่ว่า จะสนุกน้อยลง555 สไปดี้ไม่จำเป็น แต่มีแรงจูงใจที่โอเค มีส่วนได้ส่วนเสียในการเข้าร่วม (ในแบบที่…. ไปดูเองครับ55) บุคลิกของเขาน่าสนใจ รอดู Spiderman: Homecoming แน่นอน!

+Black Panther – แม้จะมาค่อนข้างมิติเดียว และการพัฒนาตัวละครท้ายเรื่องค่อนข้างอ่อน แต่เขามีที่ยืนในเส้นเรื่องนี้ และจำเป็นต่อเนื้อเรื่อง เป็นอีกคนนึงที่น่าจับตามอง อีกทั้งฉากต่อสู้ของเขามันส์ได้ใจจริงๆ

+Baron Zemo – ตอนเดินเข้าโรงไป ไม่เคยคิดเลยว่าจะออกมาแล้วไม่เกลียดตัวร้ายตัวนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้น่ากลัวอะไร ไม่ได้จำเป็นกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่ แต่ตัวละครของเขามีมิติพอควร เป็นตัวร้ายที่อยู่ในโซน “ไม่ได้แย่” ของมาร์เวลครับ

+Agent 13 – แฟนเพื่อนบ้านกัปตันในภาคที่แล้ว มีบทบาทเพิ่มขึ้นมาพอควร ตัวละครของเธอก็ออกมาใช้ได้ เหมาะสมในเนื้อเรื่อง มีแรงจูงใจที่โอเค

-Captain America – อย่างที่บอก ผมไม่อินกับมิตรภาพของแคป และผมรู้สึกว่า นั่นแหละปัญหาของตัวละครแคปในภาคนี้ มิติเดียวสุดๆ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการกระทำของแคป นอกจากมันจะไม่ใช่สายเตี้ยที่ไม่เห็นด้วยกับกฏหมายแล้ว มันผิดเต็มประตูเลย ซึ่งผมผิดหวังเอามากๆ นี่คือหนังเดี่ยวของแคป แต่ผมกลับรู้สึกกว่าเขาเป็นจุดอ่อน ภาคที่แล้วทำตัวละครนี้ออกมาได้ดีกว่านี้มากครับ
-Winter Soldier – เราเรียนรู้อะไรมากขึ้นเกี่ยวกับเขา ตัวละครเขามีมิติมากขึ้น แต่ผมรู้สึกว่า เขาเป็นแค่เครื่องมือในการเล่าเรื่อง เป็นแค่แรงจูงใจของแคป และหนังให้ความสำคัญกับเขามาก จนหลายครั้ง ผมรู้สึกว่า มันกลบมุมมองการเมืองของแคป จนกลายเป็นว่า เขาเป็นส่วนสำคัญ กัปตันทำเพื่อเขา มากกว่าทำสิ่งที่ถูกต้อง
-Black Widow – นางไม่ได้ทำอะไรมาก มีฉากบู้เด็ดๆบางฉาก แต่สุดท้าย ตัวละครของนางตื้นเขินเอามากๆ ตื้นซะจนไม่สมเหตุสมผล แรงจูงใจอ่อนๆ กลายเป็นแค่เครื่องดำเนินเรื่องอีกคน ความสัมพันธ์ของนางกับคนอื่น โดยเฉพาะกัปตัน ซึ่งภาคที่แล้วทำไว้ดีมากๆ หายไปหมดสิ้น ถูกใช้เป็นแรงจูงใจอ่อนๆ เพื่อให้เรื่องดำเนินต่อไปได้
-Hawkeye และ Ant-Man – ทั้งสองคน ถูกนำเข้ามาด้วยเหตุผลที่อ่อน ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรจากศึกครั้งนี้ เหมือนว่าถูกดึงเข้ามาเพื่อเพิ่มคนในทีมกัปตัน และเพื่อให้ฉากบู๊สนุกขึ้น (ซึ่งก็สนุก แต่แลกด้วยความมีมิติของตัวละคร)
อื่นๆ

Vision, War Machine, Scarlet Witch – ทั้งสามตกชะตากรรมเดียวกับสองท่านที่ว่ามาเมื่อกี้ คือไม่ได้มีมิติอะไรมาก มีมาเพื่อเสริมทีม แต่มีส่วนได้ส่วนเสียในศึกนี้ โดยรวม สามคนนี้ผมเฉยๆ

Crossbones, Ross, “หมอวัตสัน” เฉยๆ บทน้อย เป็นตัวดำเนินเรื่องเท่านั้น ไม่ขอออกความเห็นมากกว่านี้

งานภาพ ซีจี งานเสียง 3D

ผมดูใน IMAX ที่พารากอนมาครับ ฉะนั้นการรีวิวนี้ จะใช้ระบบนั้นเป็นตัวชี้วัด อาจไม่ตรงกับระบบอื่นบ้าง

งานภาพ – ผมมองว่าอ่อนมาก ที่ Captain America: The Winter Soldier ถ่ายภาพมาอ่อนฉันใด ภาคนี้ก็อ่อนฉันนั้นครับ มีที่ถ่ายมุมกว้าง ดูดีหน่อย แต่ฉากแอคชัน ฉากต่อสู้ประชิดตัว กล้องยังสั่น ถ่ายตามไม่ทันเหมือนเดิม แถมบางที ดูเหมือนกับว่าฉากต่อสู้ถูกเร่งความเร็วในคอมมา (ภาคที่แล้วก็เป็น)
กล้องไม่ได้สั่น แบบที่ในหนังของ Paul Greengrass สั่น ในนั้นคือสั่น โดยที่ยังจับการเคลื่อนไหวถูก ทำให้คนดูอินกับความรวดเร็ว ยุ่งเหยิง แต่ในเรื่องนี้ มันมาแนวสั่นเพราะผกก.ถ่ายไม่เป็นมากกว่า เหตุผลตามที่ว่าไปข้างต้น ผิดหวังตรงนี้มากๆ แทบไม่ได้ปรับปรุงจากภาคที่แล้วเลย
ฉากสนามบินที่ถ่ายมาด้วยกล้อง IMAX ก็ไม่ได้ดีกว่ากันเท่าไหร่เลย แถมมุมกว้าง กลับดูว่างๆ ไม่ทำให้รู้สึกถึงความอลังการ หรือความวุ่นวายแต่อย่างใด

ซีจี – ปานกลาง หลายฉากลอยๆ แต่ไม่ได้ดูขัดหูขัดตาจนเกินไป ก็แค่คิดว่า ตัดออกจากตัวเต็งเข้าชิงรางวัลสาขานี้ได้เลย

งานเสียง – บันทึกเสียงมาค่อนข้างดี กลมกลืน แต่ลำดับเสียงค่อนข้างปานกลาง คือได้ยินชัดเจน ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ขนาดดูในไอแมกซ์ ผมรู้สึกว่าเสียงไม่ได้ช่วยเพิ่มอรรถรสแต่อย่างใด

3D – ไม่พุ่งเลย ตัวอย่าง Rogue One, Dr. Strange, ID4, Alice ก่อนฉายหนัง พุ่งกว่าในหนังทั้งเรื่อง ดูรู้เลยทำมาเพื่อกินค่าตั๋วเพิ่ม 50 บาท

อื่นๆก็เป็นเรื่องจุบจิบ การเลือกฉาก การออกแบบชุด ฯลฯ ผมว่าโอเคหมด ไม่จำเป็นต้องเขียนอธิบายยาว และไม่ขอเทียบกับค่ายอื่นแต่อย่างใด

โดยรวม ผม”ผิดหวังมาก” นอกจากจะอ่อนกว่าภาคที่แล้วของกัปตัน แต่ก็อ่อนกว่า อเวนเจอร์ส (ภาคแรก) ด้วย ผ่านมา 13 เรื่อง ผมก็ยังชอบ “Iron Man” เรื่องแรกมากสุด แล้วกลายเป็นว่าหนังเดี่ยวของกัปตันเรื่องนี้ มาเป็นตัวคอนเฟิร์มอีกว่าทำไมผมชอบไอรอนแมน นี่เป็นเรื่องที่ 13 ของมาร์เวลแล้ว แม้จะชี้นำเส้นเรื่องโดยรวมของจักรวาลนี้ไปในทางที่ใช้ได้ แต่ผมว่า มันดีกว่านี้ได้มาก
ถ้าตัดเรื่องผิดหวังออกไป ผมก็คิดว่าเป็นหนังที่ปานกลางเรื่องนึงอยู่ดี ไม่ได้คุ้มค่ากับการซ้ำในโรงหลายๆรอบ มีส่วนดีส่วนเสียของมัน ซึ่งผมก็พูดกับคนอื่นไม่ได้เต็มปากหรอก ว่าไม่ควรไปดู ผมดูแล้วไม่สนุก อะไรทำนองนี้ คงแนะนำคนอื่นได้แค่ “ซักครั้งในโรง” ถ้าคุณเป็นสาวกมาร์เวล แต่ถ้าคุณไม่เคยดูเรื่องอื่นๆมาก่อน ผมก็คงไม่แนะนำให้ไปดู เพราะคงจะงงและไม่ค่อยอิน
6.5/10 ครับ

นักเลงโรงหนัง

———— รีวิวนี้ไม่มีสปอยล์ ————-

— Review Captain America Civil war — 100000000000/10 คะแนน คีย์บอร์ดผมไม่ได้เสียแต่อย่างใด แสนล้านคะแนนเอาไปเลย สิบเต็มสิบมันธรรมดาไปหว่ะ เพจเราขึ้นชื่อเรื่องความเว่อร์อยู่แล้ว ถ้าหนังดีก็ต้องอวยให้สุด ถ้าหนังห่วยก็จะเหยียบซะให้จมดิน 55555555555555 แต่เรื่องนี้ให้น้อยกว่านีไม่ได้แล้วจริงๆ หนังโคตรรรรรรรรพีคแบบสุดริ่มทิ่มรูตูด ลบล้างหนัง Superhero ทุกเรื่องที่เคยดูมา Civil war คือที่สุดของที่สุดจริงๆ ….
.

… ตลอดชีวิตการดูหนังผมไม่เคยพบเคยเจอหนัง Superhero เรื่องไหนที่มีฉากต่อสู้โคตรภัทรศยาเท่าเรื่องนี้มาก่อน หากคุณเคยชอบ Ironman 1 2 3 กัปตันอเมริกาภาค Winter soldier หรือหนังโคตรฮีโร่อย่าง Avengers ทั้ง 2 ภาค บอกเลยว่ากรุณาอย่านำมาเทียบกับ Civil war มันคนละความรู้สึกเลยนะ ยอมใจ marvel จริงๆเรื่องนี้ ถ้าเปรียบเป็นเทนนิส หนังเรื่องก่อนๆที่ marvel สร้าง เหมือนกับการคว้าแชมป์ แกรนด์สแลมทุกรายการด้วยการตีเทนนิสด้วยมือขวา แต่พอมา Civil war ภาคนี้ Marvel กลับเปลี่ยนมือมาใช้มือซ้าย พรางแสยะยิ้มแบบมีเลศนัย พร้อมกล่าวประกาศให้ทั้งโลกรู้ว่า ทานโทษนะคะความจริงกูถนัดมือซ้ายค่ะ ผลงานที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นแค่น้ำจิ้ม ศักยภาพทั้งหมดมันมากองรวมกันอยู่ที่ Civil war หมดแล้ว บอกได้คำเดียว่าหมดจดจริงๆ แทบจะก้มลงไปกราบตอนหนังจบ …
.

.. ก่อนที่จะไปดูเรื่องนี้หลายๆคนอาจเลือกข้าง เชียร์ฝั่งที่ตัวเองชอบ แต่พอได้ดูหนังจริงๆบอกเลยว่า เลือกไม่ถูกแน่นอน เพราะต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลที่โคตรจะมีน้ำหนักมารองรับในการตัดสินใจ หนังพยายามทำให้เห็นว่า ไม่มีฝั่งไหนผิด หรือ ถูก สารภาพตามตรงว่าผมอยู่ทีมกัปตัน แต่พอดูหนังแล้วได้เห็นเหตุผลของโทนี่ผมก็แอบเอนเอียงไปฝั่งนั้นอยู่เหมือนกัน ที่เห็นในตัวอย่างผมมองว่ามันเป็นแค่เศษเสี้ยวของหนัง ต้องขอบคุณ marvel ที่เก็บของจริงใว้ปล่อยในหนังได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย เป็นอย่างที่เพื่อนผมพูดจริงๆที่ได้ไปดูรอบสื่อมาวันแรก ว่าใครเป็นติ่งกัปตันให้เตรียมเชือกมามัดมือมัดแขนให้แน่น เพราะเรื่องนี้กัปตันแม่งโคตรเท่ห์ระเบิดระเบ้อ ประหนึ่งเอา แบรี่ หมาก บอยกรณ์ โอ้นมชมพู อนันดา ซันนี เจมส์มาร์ เจมส์ไม่มา เจมส์จิ สรพงษ์ สมบัติ มารวมกันใว้ในตัว สตีฟ โรเจอร์ คนเดียว ฉากดึงเฮลิคอปเตอร์ที่เห็นในตัวอย่าง ผู้หญิงที่นั่งข้างผมครางฮือในลำคอออกมาเลย กล้ามกัปตันแน่นมากกก นี่ถ้าขยี้ฉากนั้นให้นานอีกหน่อย ผมเปลี่ยนเพศจริงด้วยนะ 5555555555555
.

.. ฉากตลุมบอนที่สนามบินเป็นอะไรที่โคตรตื่นตาตื่นใจ เอาง่ายๆ เข้าไปดูฉากนี้ฉากเดียวก็เกินค่าตั๋วหนังแล้วจริงๆ ฮีโร่ทุกตัวจัดหนัก จัดเต็ม ให้แบบไม่คิดว่าจะประเคนใส่มาให้เยอะขนาดนี้ ปกติผมชอบ Antman แอบคิดในใจว่าคงโผล่มาแวปๆ แต่หารู้ไม่ เล่นใหญ่โคตรๆเลยหว่ะ 55555555555 เป็นตัวละครที่ผมคิดว่าถ้าได้ไปอยู่กับโทนี่ จะเป็นตัวที่ขยายความสามารถได้อีกเยอะมากกกกกกกกกกกก ความฮาไม่ต้องพูดถึง ฉากไหนมีพี่แกอยู่ด้วยรับประกันฮาทุกฉาก ผกกเกลี่ยบทในฉากนี้ได้เก่งมาก ไม่มีตัวไหนเด่นหรือตัวไหนมาเป็นแค่ตัวประกอบ ฮีโร่ทุกตัวคือตัวหลักหมด สกาเล็ตวิส เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้หนังเรื่องนี้ดูเป็นสีชมพู นางน่ารักจริงๆ แต่ความสามารถนางไม่ได้น่ารักเหมือนหน้าตานะ ไม่เชื่อไปถาม Vison ดูก็ได้ ❤ เชื่อว่า Avengers รอบหน้านางจะเป็นอีกตัวละครที่สำคัญแน่นวลลลลล
.

.. อีก 1 ตัวละครที่จะพลาดไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ สไปดี้ !!!!!!!!!!! โอ้ยยยยยยยย ใครอยู่ทีมสไปดี้ บอกเลยว่าเดินออกโรงอย่างภาคภูมิใจแน่นอนกับตัวละครนี้ ความจริงชื่อหนังควรเปลี่ยนชื่อเป็น กัปตันอเมริกา Civil war Feat. สไปเดอแมน 555555555 แบบว่ามันแย่งซีนโคตรๆ หนังเดี่ยวของมันปีหน้าบอกเลยว่า เกิดแน่นอน เข้าขากับโทนี่สุดๆ พูดมาก กวนตีน มีอยู่ในนั้นหมด ลืมสไปเดอแมนคนก่อนไปได้เลย ของจริงมันอยู่ใน Civil war นี่แหละ
.

.. ส่วนเรื่องบทนั้น Marvel ลบคำสบประมาทที่ว่าทำเป็นแต่หนังโลกสวย ทำหนังดาร์คไม่เป็น บอกเลยว่า Civil war นี่โคตรดาร์คเลยนะ เนื้อเรื่องเข้มข้นมากกกถึงมากที่สุด ชั่วโมงแรกของหนังเป็นการเปิดจั่วหัวเรื่องด้วยการค่อยๆ ขยี้คนดูไปทีละนิด บวกกับแอคชั่นมาพอเป็นกระสัย แต่พอเข้าครึ่งหลังเท่านั้นแหละ แม่เอ้ยยยยยยพ่อเจ้าประคุณรุนช่อง ผกก ไปเก็บกดมาจากไหน จัดให้เต็มยิ่งกว่า ชายหนุ่มจากเมียไปเป็นทหาร 2 ปี แล้วเพิ่งได้กลับบ้าน ว่ากันตรงๆเลยนะ แทบลืมไปแล้วว่าชีวิตนี้ต้องหายใจ หนังสะกดให้ไม่สามารถกระพริบตาได้เลย ฉากสู้กันของ โทนี่ และ สตีฟ เป็นอะไรที่โคตรทรงพลัง คือคิดไม่ออกแล้วจริงๆว่า มันจะทำดีกว่านี้ได้ยังไง ฉากนี้มันดีเกินไปจริงๆ Marvel คงมีงานหนักรออยู่แน่นอนในการทำหนังเรื่องถัดไป เพราะ Civil war ภาคนี้มันคือที่สุดของที่สุดแล้ว
.

.. หากถามเรื่องที่ไม่ชอบของหนังเรื่องนี้เห็นจะเป็นตัวร้าย ที่มันดูแสนธรรมดาไปหน่อย ไม่ค่อยน่าจดจำเท่าที่ควร แต่หลายๆคนอาจชอบนะ แต่เหมือนจะยังขาดบุคลิกภาพ หรือ ที่ภาษาอังกฤษค้าเรียก ดอนดัคเตอร์ เฮยยยยย คาแรคเตอร์ 55555 แต่ที่มาที่ไปของความโกรธแค้นของตัวร้าย หนังส่งบทให้ค่อนข้างมีน้ำหนักพอสมควรเลยพอหยวนๆมองข้ามไปได้บ้าง
.

.. สรุป … อย่าให้ต้องย้ำอะไรมากมายนะ ไปดูเถอะ ไม่ได้ขอร้องให้ไปดูนะ แต่บังคับเลยหละ รีบดูก่อนที่จะโดนสปอยล์ ฉากหนักๆท้ายเรื่องทำเอาอึ้งอยู่เหมือนกัน เพราะฉนั้นรีบไปดูด่วนนนน คะแนนที่ให้อาจดูโอเวอร์แอคติ้งเกินจริง แต่เมื่อหนังมันสนุกเว่อร์ มันก็สมควรได้รับคะแนนไปแบบเว่อร์ๆนี่แหละ ถึงจะเหมาะสม เอาจริงๆแสนล้านยังน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับโคตรหนัง Super hero อย่าง Civil war เรื่องนี้ !!!!!! 555555555555555 ( แล้วกูจะหัวเราะทำไมวะ )

… End Credit มี 2 ช่วงนะครับรอดูกันด้วย คุ้มค่าแก่การนั่งรอแน่นวลลลลลลล ส่วนใครที่ดูมาแล้วงดสปอยล์นะครับ พบเห็นแบนทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น ขอบคุณนะที่อ่านจนจบ อาจมาช้าบ้าง แต่มาแน่นวลลลล รักทุกคนนะครับ ❤ ……

ทำเรื่องเล่นให้เป็นเรื่องใหญ่

รีวิว – Captain America: Civil War (2016)

** ไม่สปอยล์เนื้อเรื่อง
บอกก่อนว่า ผมเป็นคนนึงที่ชอบ The Avengers ภาคแรกมาก แต่ก็รู้สึกผิดหวังกับ Age of Ultron จนรู้สึกหวั่นๆ กับอนาคตของหนังชุดนี้พอสมควร แต่หลังจากที่ได้ดู Civil War ผมก็เริ่มมองเห็นทิศทางใหม่ๆ ที่น่าสนใจของซีรีส์นี้อีกครั้ง
พล็อตคร่าวๆ ของหนังเรื่องนี้พูดถึงความขัดแย้งภายในทีม อเวนเจอร์ส ที่เกิดขึ้นเมื่อผู้นำประเทศต่างๆ ออกมาเรียกร้องให้เหล่าฮีโร่นั้นทำงานภายใต้ สนธิสัญญา ฉบับหนึ่ง หลังจากที่การทำหน้าที่ของพวกเขานั้นทำให้ผู้บริสุทธิ์หลายคนต้องล้มตาย
เหตุการณ์นี้ได้ทำให้ทีม อเวนเจอร์ส แตกออกเป็นสองฝั่งซึ่งนำโดย ไอร์ออนแมน ที่เห็นด้วยกับสนธิสัญญานี้ และ กัปตันอเมริกา ที่เชื่อว่าซุปเปอร์ฮีโร่ควรจะได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างอิสระ
สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าหายไปใน Age of Ultron แล้วกลับมาใน Civil War แบบเต็มๆ เลยก็คือ เสน่ห์ของตัวละคร โดยเฉพาะตัวละครเก่าอย่าง ไอร์ออนแมน ที่ดูจะกลับมามีเสน่ห์แพรวพราวอีกครั้ง เหมือนตอนที่เรารู้จักเขาเป็นครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน
นอกจากนี้ ตัวละครที่ถูกแนะนำเอาไว้อย่างลวกๆ ใน Age of Ultron อย่าง วิชั่น กับ สการ์เล็ต วิช ก็ดูจะมีพัฒนาการของตัวละครที่น่าสนใจขึ้นมาก
ถึงหนังจะออกมาหลัง Batman v Superman ซึ่งมีพล็อตว่าด้วยความขัดแย้งของฮีโร่คล้ายๆ กัน แต่การปูเรื่องที่นำไปสู่ ปมขัดแย้ง ของ Civil War นั้นก็มีรายละเอียดที่ดูมีน้ำหนักกว่ากันมาก โดยเฉพาะ ดราม่า ของตัวละครทั้งสองฝั่ง ที่ต่างก็มี ‘ปมในใจ’ ที่ทำให้พวกเขาเชื่อในเหตุผลของตัวเอง และต้องออกมาต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
แม้จะพูดถึงประเด็นที่ซีเรียสสุดๆ แต่หนังก็ยังฉลาดในการใส่มุกตลกเข้าไปในจังหวะต่างๆ ได้อย่างพอดี เพื่อลดความตึงเครียดลง และมันก็เป็นมุกที่ทำงานได้ดีมากๆ กว่า 90 % เลยทีเดียว
แน่นอนว่า สิ่งที่ใครหลายคนรอคอยในภาคนี้ก็คือ การเปิดตัวฮีโร่คนใหม่ในทีมอย่าง สไปเดอร์แมน และ แบล็คแพนเธอร์ ซึ่งผมว่าก็ทำออกมาได้ดีมากทั้งคู่ โดยเฉพาะ สไปดี้ในเวอร์ชั่นนี้ที่ดูจะมีทิศทางของตัวเองและแตกต่างจากเวอร์ชั่นก่อนอย่างชัดเจน
แม้ว่าฉากแอคชั่นใน Civil War จะไม่ยิ่งใหญ่อลังการถล่มบ้านถล่มเมืองขนาด Avengers แต่มันก็ถูกออกแบบเอาไว้อย่างฉลาด และใช้ศักยภาพของฮีโร่แต่ละคนได้อย่างคุ้มค่าสุดๆ
สรุปง่ายๆ ก็คือ Civil War เป็นหนังในซีรีส์ Avengers ที่ผมชอบมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง และเป็นหนังที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
เรื่องเล่น รีวิว: 9.5 เต็ม 10

ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Avengers (2012) อเวนเจอร์ส

Avengers 2 Age of Ultron (2015) อเวนเจอร์ส: มหาศึกอัลตรอนถล่มโลก

Avengers Endgame (2019) อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก

Ant-Man and the Wasp Quantumania (2023) แอนท์‑แมน และ เดอะ วอสพ์ ตะลุยมิติควอนตัม

Avengers Infinity War (2018) อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล

แสดงความคิดเห็น

ดูหนังออนไลน์ ดูซีรี่ย์ฟรี เรื่องอื่นๆ

ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่2024 moviehd24 ดูหนังเต็มเรื่อง หนังHD ดูหนังฟรีไม่กระตุก