Deep Star Six (1989) อสุรกายลึกสุดทะเล

Deep Star Six (1989) อสุรกายลึกสุดทะเล

10000TIP

⭐ ตีเป็นคะแนนก็ 5/10 ครับ

จำได้ว่าหนังเรื่องนี้ออกแผ่นโดย EVS ในชื่อ “อสูรกายทะเลลึก” แล้วก่อนหน้านั้นก็เป็นลิขสิทธิ์ของแมงป่อง ออกมาในชื่อ “อสูรกายใต้ทะเลลึก” ส่วนชื่อ “อสุรกายลึกสุดทะเล” นั้นเป็นชื่อดั้งเดิมสมัยฉายโรงครับ หนังเคยฉายช่อง 7 ด้วย จำได้ครับ แม่นเลยล่ะ จำได้เพราะฉากที่อยู่บนโปสเตอร์นั่นไงครับ เป็นภาพคนตัวขาดเพราะถูกอะไรบางอย่างกัดไป บอกตรงๆ ว่าผมยังติดตาถึงปัจจุบันครับ และขอยกให้เป็นโปสเตอร์อีกอัน ที่ทำได้คลาสสิกจริงๆ… แม้ตัวหนังจะไม่ได้คลาสสิกขนาดนั้นก็ตาม เนื้อเรื่องก็คือ มีคนกลุ่มนึงลงไปติดตั้งฐานจรวดที่ใต้ทะเลลึกนะครับ แล้วก็พบว่ามีบางอย่างอาศัยอยูในถ้ำใต้น้ำนั่น แล้วซักพักมันก็ออกมาเขมือบคนเล่น

Sean S. Cunningham ผู้กำกับจาก Friday the 13th Deep Star Six (1989) อสุรกายลึกสุดทะเล  ภาคแรก มาทำครับ ปรากฏว่าความสนุกยังสู้ศุกร์ 13 ยังไม่ได้ น่าเสียดายที่การเดินเรื่องอืดไปหน่อย กว่าจะมีตัวอะไรโผล่จริงๆ ก็ปาเข้าไปจะจบแล้ว (ราวๆ 20 นาทีก่อนจบน่ะครับ) แม้การปรากฏตัวของมันจะทำให้หนังเร้าใจขึ้น อีกทั้งฉากคนโดนมันฆ่าก็สร้างความสยองได้ไม่เลว แต่ชั่วโมงแรกนี่อืดมากๆ ไม่มีอะไรสักเท่าไร ฉากใต้น้ำก็มืดเกิน คือมืดแบบไม่เห็นอะไร

เลยไม่มีอารมณ์ให้ตื่นเต้น มันออกมาคนละอารมณ์กับ The Abyss เลยครับ เรื่องนั้นแม้ใต้ทะเลจะมืด แต่ก็มืดในระดับที่พอมองเห็นว่ามันเกิดเรื่องระทึกอะไรขึ้น อีกทั้งฉากใต้เรื่องนี้มันก็สร้างบรรยากาศไม่น่าไว้วางใจได้ ทำให้คนดูหายใจไม่ทั่วท้องได้อย่างดี แต่กับเรื่องนี้กลับไม่ค่อยตื่นตา สู้หนังเก่าปียุค 70 อย่าง The Land That Time Forgot ไม่ได้ครับ ขนาดนั่นเก่านะฮะ แต่เรื่องนั้นพอเวลามีไดโนเสาร์แหวกว่ายในน้ำนี่ดูแล้วขนลุกน่าหวาดกว่ากันมาก ถ้าอยากดูหนังใต้น้ำมันส์ๆ ก็แนะนำ The Abyss ครับ หรือถ้าชอบแนวสัตว์ประหลาดทะเลบุกก็ดู Deep Rising เอาเป็นว่าถ้าคิดจะดูก็ควรตั้งอยู่บนความไม่คาดหวังครับ แล้วรสชาติหนังน่าจะพอสนุกขึ้นบ้าง

จิบชา รับลม กับมิสเตอร์ อเมริกัน

หน่วยงานหนึ่งรับงานของทหารไปติดตั้งฐานจรวดใต้พื้นทะเลให้กับกองทัพ ท่ามกลางความวุ่นวายของงานและความไม่เข้าใจกันของทีมนั้นเองอยู่ ๆ พวกเขาก็ถูกบางสิ่งจู่โจม บางสิ่งที่อยู่ใต้น้ำและค่อย ๆ ฆ่าพวกเขาไปทีละคน มันคือ สิ่งมีชีวิตสุดโหดที่รอสังหารพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง Deep Star Six (1989) อสุรกายลึกสุดทะเล  “มันไม่ใช่เอเลี่ยนที่มาจากต่างดาว เก็บเสียงของคุณเอาไว้ หวีดเป็นครั้งสุดท้าย” คำโปรยของหนังเรื่องนี้ครับ จริง ๆ ต้องบอกว่า โปสเตอร์ของหนังเองก็ทำออกมาดีและน่าสนใจมาก ๆ เพราะ มันเป็นภาพของนักประดาน้ำตัวขาดครึ่งที่เป็นหนึ่งในฉากหลอนของเรื่องนั้น

แหละครับ ลอยอยู่กลางภาพ (จะว่าไปเป็นการจัดภาพล้อทั้ง JAW และ Alien ไปด้วยนั้นแหละ) ซึ่งจะว่าไปหนังมันก็ได้แรงบันดาลใจมาจากสองเรื่องนั้นเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการไม่โชว์สัตว์ประหลาดของเรื่องเลย (เห็นแว่บ ๆ แค่นั้น) จนกระทั่งท้ายเรื่อง ตัวละครที่เหมือนหยิบพิมพ์เขียวของ Alien มาใช้นั้นละครับ จริง ๆ ต้องพูดว่า หนังสยองขวัญหลายเรื่องหยิบพิมพ์เขียวของสองเรื่องนั้นมาใช้หมดละครับ เพียงแต่ว่า ส่วนที่น่าสนใจคือ จะออกแบบสัตว์กินคนหรือตัวประหลาดพวกนั้น

มาใช้ได้ดีหรือเปล่า ต้องบอกว่า deep Star six มันก็เข้าใจแหละครับ เลยไม่ให้เราเห็นสัตว์ประหลาดเลย และ สร้างสถาการณ์มาตลอด แต่ที่น่าสนใจคือ ฉากฆ่านี่แหละ โหดชิบเป้ง คือ หนังเรืีองนี้มันโหดดี หน้าบวมเพราะแรงดันงี้ ตัวขาดครึ่งเงี้ย มันมีฉากโหดเยอะมากก็สมกับเป็นผู้กำกับ Friday 13th ดีนั้นละครับ แกรู้ว่า จะทำยังไงให้คนสร้างจินตนาการขึ้นมาดี (เหมือเจสันแหละ) เลยทำแบบนี้ ซึ่งกว่าเราจะได้เห็นสัตว์ประหลาดก็ล่อไปช่วงท้ายแล้วนั้นละครับ

ส่วนตัวสนุกดีครับ

เอาจริงต้องบอกว่า หนังทุนน้อยก็เข้าใจแหละ  Deep Star Six (1989) อสุรกายลึกสุดทะเล แต่ก็พอใจกับการสร้างสัตว์ประหลาดที่กุ้งยักษ์ ไม่สิ กั้งยักษ์ ไม่สิ ช่างมันเถอะเหมือนกัน ซึ่งทำออกมาดีนะ ดูมีอะไรดี และ อีกอย่างตายยากมาก ถึงตัวหนังจะง่อยเปลี้ยนไปในช่วงท้าย ๆ ก็เถอะ แต่ส่วนตัวคิดว่า หนังมันไม่ได้แย่อะไร และ เทคนิคการซ่อนตัวสัตว์ประหลาดก็ทำได้ดีอยู่นั้นแหละครับ เสียดายถ้าหนังมันได้บทที่ดีกว่านิดหนึ่ง กับ ทำให้เรื่องมันเร็วขึ้นนิดหนึ่งอาจจะดีกว่าครับ แต่รวม ๆ แล้วถือว่า deepstar six เป็นตำนานของหนังสัตว์ประหลาดที่น่าจดจำครับผม

• ป.ล. คนเขียนบทอย่าง Lewis Abernathy เคยขายบทหนังนี้ให้นายทุนในจังหวะเดียวกับเพื่อนเขา James Cameron กำลังทำหนังสัตว์ประหลาดใต้น้ำอย่าง the abyss อยู่เหมือนกัน ตอนแรกคาเมร่อนอยากให้ Lewis Abernathy ไปบอกนายทุนให้เลื่อนการฉายเรื่องนี้ไปก่อน ไม่ให้ชนหรือใกล้กับ The Abyss แต่เจ้าตัวไม่ได้ทำ ส่งผลให้เขากับคาเมร่อนไม่มองหน้ากันอีกเลย ผลคือ DeepStar Six ทำเงินไปได้ 8.1 ล้านดอลลาร์จากทุนสร้าง 8.5 ล้านเท่านั้น (เจ๊งยับ พร้อมคำวิจารณ์ไม่ดี) ส่วน Abyss ก็ทำเงินไปได้ 90 ล้านจากทุนสร้าง 65 ล้าน (เจ๊งเหมือนกัน ถึงคำวิจารณ์จะออกมากลาง ๆ ก็เถอะ)

สุดท้ายกว่าทั้งคู่จะกลับมาคุยและเป้นเพื่อนกันอีกรอบได้ก็ต้องรอ Titanic กันเลย

• ป.ล. จริง ๆ แล้วคนที่จะกำกับหนังเรื่องนี้คือ Robert Harmon จาก The Hitcher จะมากำกับเรื่องนี้แต่ถอนตัวไปเพราะ ไอเดียสร้างสรรค์ไม่ตรงกันเลยได้ Sean S. Cunningham
• ป.ล. คนที่สวมชุดในสัตว์ประหลาดในเรื่องนี้คือ Kane Hodder สตันท์แมนในตำนานที่รับบท Jason ในหนัง Friday13th ที่ Sean S. Cunningham กำกับและโปรดิวซ์ทุกภาค
• ป.ล. เป็นปีที่มีหนังสัตว์ประหลาดใต้น้ำออกมาพร้อมกันทุกหกเรื่อง ได้แก้ The Abyss , Deep Star Six ,  Deep Star Six (1989) อสุรกายลึกสุดทะเล Leviathan (1989), The Evil Below (1989), The Rift (1990), and Lords of the Deep (1989). แน่นอนว่า เจ๊งทุกเรื่องจนนายทุนขยายหนังน้ำ ๆ ไปสักพักเลย แต่ปัจจุบันหนังพวกนี้ได้รับการประเมิณใหม่และกลายเป็นงานสัตว์ประหลาดคลาสสิคไปหมดแล้ว
• ป.ล. ตอนแรกสัตว์ประหลาดในเรื่องได้ตัวของ Chris Walas มือเอฟเฟ็กจาก The Fly , Gremlins , Arachnophobia และ Piranha มาออกแบบแต่ก็ถอนตัวออกไปจากโปรเจ็ทเพราะไอเดียไม่ตรงกัน และ ได้ตัวของ Mark Shostrom จาก evil dead 2 , from beyond , Phantasm , A Nightmare on Elm Street1-3 มาแก้ไขปรับปรุงตรงส่วนหัวเพิ่มเติมและเปลี่ยนสีใหม่ออกมาเป็นแบบในเรื่อง
• ป.ล. ฉากท้ายที่อสูรกายโผล่มาจากน้ำนั้นต้องการ Tribute Friday 13th ของ Sean S. Cunningham ที่เจสันโผล่มาจากน้ำตอนจบครับ

Mr.DarkKnight

⭐ 5.2/10

ในช่วงปีเดียวกันนั้นเองได้มีหนังที่เกี่ยวกับสำรวจใต้ท้องทะเลเหมือนกัน คือเรื่อง The Abyss (1989) ที่กำกับโดย James Cameron ผู้ให้กำเนิดคนเหล็ก The Terminator (1984) เช่นเดียวกันกับเรื่องนี้ที่เป็นผู้ให้กำเนิด Friday the 13th (1980) ทว่าต่างเป็นผู้กำกับที่สร้างหนังตำนานทั้งคู่ก็ไม่อาจพิสูจน์ฝีมือได้จริงด้วยเรื่องเดียว เมื่อเทียบคุณภาพหนังในปีเดียวกันทำให้เห็นชัดว่าอะไรคือตำนานและอะไรคือตำมั่ว(ออกแนวเละเทะ) กระนั้นต่อให้ไม่เปรียบเทียบยังมองออกถึงความหยาบของหนังที่ไม่ดีพอในเรื่องของบทเนื้อเรื่องและตัวละครที่มิติด้านเดียวเกินไป ใครเป็นพระเอก ใครเป็นนางเอก ใครเป็นตัวประกอบ ให้มาแบบง่ายๆ นี่ตอนแรกเกือบจะน่าสนใจอยู่แล้วเชียว

เรื่องเกี่ยวกับทีมงานหนึ่งที่มีสมาชิก 11 คนทำฐานวางจรวดนิวเคลียร์ใต้ท้องทะเล ได้แก่ แมคบริดจ์ (Greg Evigan),จอยซ์ คอลลินส์ (Nancy Everhard),เลดลอว์ (Taurean Blacque),สไนเดอร์ (Miguel Ferrer),สการ์เพลลี (Nia Peeples), ริชาร์ดสัน (Matt McCoy),ไดแอน นอร์ริส (Cindy Pickett),เวน เกลเดอร์ (Marius Weyers),เบอร์เซียกา (Elya Baskin),ฮอค์จกิน (Thom Bray) และ ออสบอร์น (Ronn Carroll)  Deep Star Six (1989) อสุรกายลึกสุดทะเล จากการสำรวจทำให้ไปเจอโพร่งใต้พื้นดิน ทำให้ต้องระเบิดโพร่งเพื่อวางฐานยิงได้ แต่การทำลายโพร่งทำให้บางอย่างหลุดออกมาด้วย และสิ่งนั้นสามารถคร่าชีวิตของพวกเขาๆด้อย่างไม่ลังเล

การสื่อนัยยะการทำลายธรรมชาติที่แม้จะไม่ถึงกับหนักแน่นอะไรก็เพียงพอให้เห็นการตอบโต้ของธรรมชาติที่มนุษย์เริ่มทำลายเพื่อหวังผลประโยชน์ของตัวเอง การเอาคืนทำให้เห็นตัวตนของความเป็นมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวและหวาดกลัวในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป เช่น ตัวอย่างสไนเดอร์ที่หวาดกลัวต่อภัยที่กำลังคุกคามจากสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ด้วยความกลัวทำให้สร้างข้อผิดพลาดจากการยิงจรวดแบบไม่ไตร่ตร่องจนนำไปสู่หายนะแก่คนอื่นๆ

แต่นั้นยังไม่เท่ากับความพยายามของเวนที่อยากทำให้งานลุล่วงอย่างรวดเร็ว

เพราะกลัวถูกปลดงานจนต้องทำลายธรรมชาติใต้ดินที่ยังไม่สำรวจให้ถี่ถ้วนเสียก่อน แน่นอนว่าการทำลายแหล่งธรรมชาติย่อมส่งผลกระทบมากมาย เราจะได้เห็นการยับยั้งของสการ์เพลลีที่อยากให้ตรวจโพร่งใต้ดินเพื่อหาสิ่งมีขีวิตแปลกใหม่ แต่การห้ามไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเพราะสุดท้ายงานติดตั้งฐานจรวดสำคัญกว่าการค้นหาหรือรักษาธรรมชาติที่สวยงามเอาไว้ ตอนแรกน่าสนใจเพราะไม่มีการปรากฎตัวของเจ้าสัตว์ประหลาดเลยสักนิดเดียว ใครจะตายใครจะโดนอะไรก็ล้วนเป็นสิ่งที่บอกไม่ได้ว่าคืออะไร

ได้แต่ลุ้นว่าสุดท้ายแล้วเจ้าสัตว์น้ำลึกที่ออกมาอาละวาดฆ่าคนนี่หน้าตาเป็นอย่างไร แต่กว่าจะโผล่ตัวให้เห็นกันจริงๆก็ปาเข้าไปเกือบจะจบเรื่องกันอยู่แล้ว ซึ่งการหลอกล่อให้กลัวด้วยจิตวิทยาทางความคิดเป็นอะไรที่เข้าท่าแค่ช่วงแรกเท่านั้น เนื่องจากบางอย่างไม่สมเหตุสมผลกับสัตว์ประหลาดเอาเสียเลย หลายอย่างดูโม้เกินไปเมื่อเห็นหน้าตาของสัตว์ใต้น้ำลึกที่ยิ่งโผล่มามากเท่าไรยิ่งรู้สึกอ่อนกว่าตอนแรกค่อนข้างเยอะ(อารมณ์พระเอกนางเอกต้องรอด) แต่สิ่งที่ไม่ชอบเลยคือการดำจัดตัวละครให้พากันตายอย่างรวดเร็วในช่วงแรกเพื่อเรียกความตื่นตัวจากผู้ชม ถ้าดูเพลินก็อาจจะสนุก แต่เมื่อไรที่มานึกถึงตัวละครจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเท่าไรเลยเพราะบทมันตายตัวเอามากๆ บางคนเล่นไม่เท่าไรก็ตายแล้ว

แถมตายแบบไม่รู้ด้วยว่าตายจริงไหม

มองเป็นหนังสัตว์ประหลาดฆ่าคนก็จัดว่าไม่เลวร้ายอะไร แต่ไม่น่าเชื่อว่าทุกอย่างจะลงตัวขนาดที่ไม่ทันไรก็เป็นไปตามนั้นได้เฉย แทบจะไม่มีการพลิกแพลงอะไรเลยจากเนื้อเรื่องธรรมดาที่เล่าแล้วยิ่งธรรมดาเข้าไปใหญ่ แต่สิ่งที่พอยึดเหนี่ยวได้คือส่วนของนักแสดงที่คัดกันมาดีแม้จะไม่ค่อยน่าสนใจ(เพราะบทมันน้อยทุกคน) อย่างเช่น Nia Peeples ที่กลายเป็นดาวเด่นของเรื่องจากสัดส่วนร่างกายที่ไม่หวือหวาหรือโป๊แต่อย่างใด เป็นการแสดงถึงความเซ็กซี่ผ่านกล้ามเนื้อไร้ไขมันที่ทำเอาคนชอบสไตล์นี้อาจร้องว้าวได้ ขณะที่นักแสดงคนอื่นก็ล้วนเป็นไปตามมาตรฐานทุกคน ที่มากเป็นพิเศษคือ Miguel Ferrer จากช่วงหลังๆ Deep Star Six (1989) อสุรกายลึกสุดทะเล ของเรื่องที่เริ่มออกอาการทางจิตจนไม่อาจควบคุมความกลัวของตัวเองได้

ดูแล้วก็อดสงสารไม่ได้ที่ถูกกดดันซะขนาดนั้นจากในเรื่อง DeepStar Six เป็นหนังสยองขวัญที่ออกมาผิดหวังในหลายๆแง่ แต่ยังได้อยู่เรื่องเอฟเฟคกับบรรยากาศฐานใต้น้ำ แม้หลายอย่างจะน่าสนใจแต่ไม่พ้นความน่าเบื่อที่มีให้เห็นตลอดทั้งเรื่องจนไม่คิดว่าจะพลาดได้ มิติตัวละครแบนราบจนไม่รู้สึกรู้สาน่าเอาใจช่วย ข้อดีที่เห็นว่าชัดคือการดำเนินเรื่องที่ไว ไม่ทันไรระเบิดโพร่งพาสัตว์ประลาดใต้น้ำออกไล่ฆ่าอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เลวร้ายไปกว่าเจ้าสัตว์ทะเลลึก

คือความงี่เง่าของตัวละครที่พาความพินาศจากที่น่ารอดก็ไม่รอดทำให้ไม่ตื่นเต้นอะไรสักเท่าไรเพราะทำตัวเองแท้ๆ ส่วนความสยองไม่ค่อยมีเพราะไม่ค่อยเห็นสัตว์ประหลาดฆ่าคนจริงๆจังๆสักฉาก โหดสุดในเรื่องคือฉากขาดครึ่งตัวที่เลือดไหลย้อยเข้ม และเป็นจังหวะเดียวกันที่เจ้าสัตว์ร้ายได้เปิดตัวเสียที(ท้ายเรื่องกว่าจะมา) โดยรวมไม่ค่อยสนุกเท่าไรและง่ายไปหมดเสียด้วยซ้ำ ยิ่งกับนางเอกรู้สึกไม่ค่อยชอบเพราะไม่ได้ทำอะไรเลย ยังเทียบตัวละครหญิงบางตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ

บางตัวที่ว่าคือหญิงแกร่งที่บทเด่นกว่าและดุดันกว่า(ขนาดไปสู้ขี่หลังเจ้าสัตว์ประหลาดเพื่อช็อตด้วยไฟฟ้ากันเลย) ก็ถือว่าสนุกนิดนึงสำหรับขาจรที่ไม่อยากหวังอะไรมากนอกจากดูเพลินๆ เผื่อใครยังไม่เคยดูก็ดูได้ไม่เสียหาย แค่อาจจะรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้างกับเจ้าสัตว์ประหลาดที่เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงบอกไม่ถูกว่ามันเก่งหรืออ่อนกันแน่(คิดว่าเป็นข้อด้อยเรื่องเทคนิคที่ดึงศักยภาพของสัตว์ประหลาดไม่เต็มร้อยจึงเหมือนหุ่นแข็งขยับแค่หน้าตากับแขนเท่านั้น) สนุกไม่สนุกแนะนำให้ลองดูก่อนเพราะบางช่วงทำได้ไม่เลวเลย แต่เอารวมๆทั้งหมดสรุปไม่ค่อยเวิร์ค

Coventry

⭐ ให้ 5/10 คะแนน

ชื่อของฌอน เอส. คันนิงแฮมจะถูกเชื่อมโยงกับ ‘Friday the 13th’ โดยอัตโนมัติเสมอ ถึงกระนั้น คุณคันนิงแฮมก็ทำโปรเจ็กต์ที่ทะเยอทะยานมากกว่านี้เล็กน้อย DeepStar Six นี้เป็นเกมผสมสัตว์ประหลาดใต้ทะเลที่ประสบความสำเร็จกึ่งหนึ่ง โดยมีการแสดงที่ดีอย่างน่าประหลาดใจ สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่เหมาะสม และช่วงเวลาที่น่ากลัวแบบเก่าๆ อีกสองสามช่วง ภาพยนตร์เรื่องนี้สมควรได้รับเรตติ้งที่สมเหตุสมผล สูงกว่าคนง่อยๆ

และน่าหัวเราะอื่นๆ ของริดลีย์ สก็อตต์และเจมส์ คาเมรอนเล็กน้อย โครงเรื่องเกี่ยวข้องกับลูกเรือ 11 หัวที่กำลังจะเสร็จสิ้นการวิจัย 6 เดือนที่ด้านล่างของมหาสมุทร เมื่อสำรวจพื้นมหาสมุทร พวกเขาบังเอิญบังเอิญไปพบกับสัตว์ประหลาดที่น่าสยดสยองและไม่หยุดยั้ง  ดูหนังออนไลน์ เช่นเดียวกับที่เป็นปกติในหนังประเภทนี้ มันต้องใช้เวลาสักพักก่อนที่คุณจะได้เห็นสัตว์ประหลาดจริงๆ เมื่อถึงเวลานั้น  Deep Star Six (1989) อสุรกายลึกสุดทะเล ความโง่เขลาของมนุษย์ได้ทำลายล้างนักแสดงไปครึ่งหนึ่งแล้ว จริงอยู่ที่ว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้เป็นสัตว์ที่น่าเกลียดตัวหนึ่งและไม่ได้ถูกรวบรวมโดยแผนกเอฟเฟกต์พิเศษเลย

แต่อย่าชมภาพยนตร์เรื่องนี้มากเกินไป เพราะมันยังคงเป็นภาพยนตร์สัตว์ประหลาดในยุค 80 ที่ไม่เปิดเผยตัวตนเหมือนที่เราเคยเห็นมาหลายครั้งแล้ว ไม่มีฉากใดที่นำเสนอในที่นี้ไม่ได้รับแรงบันดาลใจหรือคล้ายคลึงกับฉากในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ และตัวละครทุกตัวก็มีทัศนคติแบบเหมารวมที่ไร้ที่ติ การแสดงของนักแสดงทั้งหมดมีความโดดเด่นกว่าบทบาทที่พวกเขากำลังแสดงจริงๆ (แปลโดย Google Translate)

sarastro7

⭐ ให้ 9/10 คะแนน

ฉันเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าสักวันหนึ่ง DeepStar Six จะถือเป็นภาพยนตร์ที่ดี ในความคิดของฉันเรตติ้ง 3.9 ในปัจจุบันของ IMDb นั้นน่าหัวเราะและผิดแบบแบนๆ มันอาจจะไม่ใช่ผลงานชิ้นเอกอมตะที่น่าเหลือเชื่อ ฉันต้องยอมรับว่ามันเป็นรองจาก The Abyss แต่นี่เป็นหนังที่ดีในแทบทุกด้านอย่างแน่นอน ในช่วงสิบห้าปีที่ผ่านมา ฉันเป็นเจ้าของเทป VHS ซึ่งบันทึกจากเวอร์ชันเลเซอร์ดิสก์ และเห็นมันหลายครั้ง วันนี้ฉันได้รับดีวีดีจอไวด์สกรีนของ Region 2 และฉันก็ได้รับการยืนยันอีกครั้งว่านี่เป็นหนังที่ดี มันเป็นหนังสยองขวัญแนวไซไฟใต้น้ำ

และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์หลายเรื่องในยุคนั้น แต่ยกเว้นว่ามันไม่มีอิทธิพล เอฟเฟกต์เวทมนตร์ และงบประมาณแบบเดียวกับที่ James Cameron ติดมาด้วย มันยังจัดการได้เป็นหนังที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างดีมาก การผลิตไม่น้อย นักแสดงเก่งมาก แต่ละคนมีลักษณะตัวละครที่มีเอกลักษณ์และสมจริงอย่างแท้จริง และการเคลื่อนไหวระหว่างทีมงานก็ให้ความบันเทิงอย่างยอดเยี่ยม แนนซี เอเวอร์ฮาร์ดรับบทเป็นหน่วยซีลกองทัพเรือหญิงที่พูดจานุ่มนวล รับบทด้วยความจริงใจและอ่อนไหวต่อความเป็นผู้หญิง ทำให้ได้บรรยากาศที่สมจริงมาก Nia Peeples เป็นสิ่งที่เซ็กซี่ที่สุดที่คุณเคยเห็น

และเป็นคนที่มีสัญชาตญาณมองเห็นทุกสิ่ง มิเกล เฟอร์เรอร์ที่นี่น่ารังเกียจยิ่งกว่าในทวินพีคส์เสียอีก แต่ก็น่าสงสารอย่างสุดซึ้งเช่นกัน ทุกคนต่างให้การแสดงที่เป็นมนุษย์และน่าเหลือเชื่ออย่างน่าอัศจรรย์ และคุณค่าของฉากแอ็กชั่นและการผลิตโดยรวมก็เพียงพอและมีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์แบบ  Deep Star Six (1989) อสุรกายลึกสุดทะเล ซึ่งสามารถระงับความไม่เชื่อของผู้ชมได้อย่างสมบูรณ์ ถึงวันตายก็จะยืนยันว่านี่เป็นหนังดี และลูกหลานจะพิสูจน์ว่าฉันถูกต้อง วันหนึ่ง… 9 จาก 10 (แปลโดย Google Translate)

ผู้กำกับ

• Sean S. Cunningham

บริษัท ค่ายหนัง

• Carolco Entertainment
• Carolco Pictures

นักแสดง

• Taurean Blacque
• Nancy Everhard
• Greg Evigan
• Miguel Ferrer
• Nia Peeples
• Matt McCoy

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ทีมเจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ประจำการอยู่ที่ฐานทัพชั่วคราวใต้มหาสมุทรและได้รับมอบหมายให้ติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ได้ค้นพบถ้ำใต้น้ำขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตยุคก่อนประวัติศาสตร์ขนาดยักษ์ มีคนกลุ่มนึงลงไปติดตั้งฐานจรวดที่ใต้ทะเลลึกนะครับ แล้วก็พบว่ามีบางอย่างอาศัยอยูในถ้ำใต้น้ำนั่น แล้วซักพักมันก็ออกมาเขมือบคนเล่น Sean S. Cunningham ผู้กำกับจาก Deep Star Six (1989) อสุรกายลึกสุดทะเล  ภาคแรก มาทำครับ ปรากฏว่าความสนุกยังสู้ศุกร์ 13 ยังไม่ได้ น่าเสียดายที่การเดินเรื่องอืดไปหน่อย กว่าจะมีตัวอะไรโผล่จริงๆ ก็ปาเข้าไปจะจบแล้ว แม้การปรากฏตัวของมันจะทำให้หนังเร้าใจขึ้น อีกทั้งฉากคนโดนมันฆ่าก็สร้างความสยองได้ไม่เลว

แต่ชั่วโมงแรกนี่อืดมากๆ ไม่มีอะไรสักเท่าไร ฉากใต้น้ำก็มืดเกิน คือมืดแบบไม่เห็นอะไร เลยไม่มีอารมณ์ให้ตื่นเต้น มันออกมาคนละอารมณ์กับ The Abyss เลยครับ เรื่องนั้นแม้ใต้ทะเลจะมืด แต่ก็มืดในระดับที่พอมองเห็นว่ามันเกิดเรื่องระทึกอะไรขึ้น อีกทั้งฉากใต้เรื่องนี้มันก็สร้างบรรยากาศไม่น่าไว้วางใจได้ ทำให้คนดูหายใจไม่ทั่วท้องได้อย่างดี แต่กับเรื่องนี้กลับไม่ค่อยตื่นตา สู้หนังเก่าปียุค 70 อย่าง The Land That Time Forgot ไม่ได้ครับ ขนาดนั่นเก่านะฮะ แต่เรื่องนั้นพอเวลามีไดโนเสาร์แหวกว่ายในน้ำนี่ดูแล้วขนลุกน่าหวาดกว่ากันมาก ทีมเจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ประจำการอยู่ที่ฐานทัพชั่วคราวใต้มหาสมุทรและได้รับมอบหมายให้ติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ได้ค้นพบถ้ำใต้น้ำขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตยุคก่อนประวัติศาสตร์ขนาดยักษ์

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Bequeathed (2024) มรดกอาถรรพ์

The Brothers Sun (2024) พี่น้องแสบตระกูลซัน

Mr and Mrs Smith (2024) มิสเตอร์แอนด์มิสซิสสมิธ

Masters of the Air (2024)

Alexander The Making of a God (2024) อเล็กซานเดอร์ ตำนานมนุษย์เทพ