The Crow Collection เดอะคราวน์ ทุกภาค » ดูหนังออนไลน์ MovieHD24

The Crow Collection เดอะคราวน์ ทุกภาค

รีวิว

The Crown (2016) เดอะ คราวน์ Season 1

TouchTheGarlicProduction

⭐ ให้ 7/10 คะแนน 

The Crown ไม่มีฉากแอ็กชันหรือดาราภาพยนตร์ชื่อดัง แต่ก็เป็นหนึ่งในรายการที่มีราคาแพงที่สุดตลอดกาล ทำไม เพราะความใส่ใจในรายละเอียดอย่างแท้จริง นอกเหนือจากเครื่องแต่งกายและสถานที่ที่ถูกต้องตามประวัติศาสตร์แล้ว การแสดงยังงดงามน่าดูอีกด้วย แสง การถ่ายภาพยนตร์ และทุกสิ่งทุกอย่างที่มองเห็นได้ตรงประเด็น เห็นได้ชัดว่าไม่มีเงินจำนวนนั้นที่เสียไป

การแสดงไม่เพียงแต่ดูงดงามเท่านั้น มันยังน่าสนใจ เขียนได้ดี และแสดงได้ดีอีกด้วย ในความเป็นจริง เกือบทุกองค์ประกอบได้รับการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งหมายความว่าไม่มีใครโดดเด่นเหนือองค์ประกอบอื่นๆ แต่องค์ประกอบเหล่านั้นทำงานสอดคล้องกัน และนั่นคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการแสดง ความจริงที่ว่าทุกอย่างมารวมกันอย่างราบรื่นในแพ็คเกจคุณภาพสูงที่เรียบร้อยและดื่มสุราได้

โปรดทราบว่าเหตุผลที่ฉันสนุกกับ Crown มากก็เพราะฉันรู้ว่าจะต้องคาดหวังอะไรเมื่อได้เข้าไปเล่น นี่ไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว อัดแน่นไปด้วยแอ็คชั่น และนั่งจนแทบนั่งไม่ติด เป็นละครเกี่ยวกับราชวงศ์ มันวิ่งด้วยความเร็วที่ช้า แต่ก็ยังจับใจอยู่เหมือนกัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเรื่องดีที่รู้ว่า Netflix ลงทุนมหาศาลในซีรีส์นี้ พวกเขากำลังฉวยโอกาสและให้ทุนสนับสนุนสิ่งแปลกใหม่ในยุคที่ฮอลลีวูดกลัวที่จะทำสิ่งใดๆ ที่ไม่ได้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่แล้ว ฉันหวังว่า Crown จะระเบิดเหมือน Stranger Things ฉันหวังว่ามันจะได้รับความสนใจทั้งหมดที่สมควรได้รับ (แปลโดย Google Translate)

DiCaprioFan1

⭐ ให้ 9/10 คะแนน 

ฉันจะพูดอะไรเกี่ยวกับ The Crown ที่ยังไม่ได้พูดได้บ้าง? เหลือเชื่อ! มีบ้างที่ไม่ชอบเพราะใช้เสรีภาพในการดำเนินเรื่อง แต่โดยรวมแล้วค่อนข้างแม่นยำ โดยเฉพาะ 2-3 ซีซั่นแรกๆ คุณสามารถบอกได้ถึงความพยายามที่พวกเขาทุ่มเทให้กับรายการนี้จากทุกอย่างตั้งแต่การเขียนบท การแสดง การถ่ายภาพยนตร์ การผลิต ฯลฯ

ทั้งหมดนี้ทำได้ดีพอๆ กับรายการทีวี เป็นบันทึกเหตุการณ์ชีวิตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และราชวงศ์ตั้งแต่ปี 1940 จนถึงปัจจุบัน จะทำให้คุณได้เจาะลึกถึงชีวิตส่วนตัวของราชวงศ์ รวมถึงความรักและการแข่งขันทางการเมือง มีเหตุผลที่ทำให้รายการนี้ได้รับรางวัลมากมาย และนั่นก็เพราะมันยอดเยี่ยมมาก! (แปลโดย Google Translate)

The Crown (2017) เดอะ คราวน์ Season 2 EP.1-10 (จบ)

ปรากฏการณ์หนัง

คำวิจารณ์จากกัลยาณมิตร หาใช่การอาฆาตมาดร้าย ในซีซัน 2 อีกตอนที่น่าสนใจมากและแตกต่างจากตอนอื่นคือ ตอนที่ 5 ของซีซัน 2 ชื่อตอนว่า Marionettes (มาริโอเน็ตส์) ในช่วงยุค 60s นั้นมีเหตุการณ์ที่ Lord Altrincham ซึ่งมีฐานะเป็นขุนนางและเขาก็เป็นนักหนังสือพิมพ์ด้วย Lord ไม่ได้มีงานเขียนที่ประสบความสำเร็จจนกระทั่งวันหนึ่งระหว่างที่นั่งรอหมอฟัน พระราชินีได้ออกอากาศพระราชทานคำอวยพรเนื่องในโอกาสคริสต์มาส ปี 1954

ซึ่งมีเนื้อหาที่เชยและห่างไกลจากการจับต้องถึงได้ของประชาชน ถึงขนาดมีคนขำและลุกไปเปลี่ยนช่องวิทยุไปฟังเพลงแทน Lord จึงเห็นโอกาสเขียนวิพากษ์วิจารณ์คำปราศรัยของพระราชินีลงหนังสือพิมพ์จนโด่งดังชั่วข้ามคืน ต่อมาเขาถูกตบหน้าโดยพวกคลั่งเจ้าขวาจัดที่บอกว่าการวิจารณ์พระราชินีคือ การชังชาติ สุดท้ายพระราชินีก็เชิญ Lord Altrincham เข้าพบเพื่อขอคำแนะนำแบบอ้อม ๆ

ในการปรับปรุงท่าทีของพระองค์ในการสื่อสารกับประชาชนอังกฤษในโลกสมัยใหม่ (ตามที่ซีรีส์บอกซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จ แต่หลังจากเหตุการณ์นั้นก็มีประเพณีล้าหลังหลายอย่างที่ถูกปรับเปลี่ยนไป และพระราชินีก็สื่อสารกับประชาชนผ่านโทรทัศน์ด้วยท่าทีที่เข้าถึงได้มากขึ้น) ในตอนหนึ่งที่ Lord Altrincham ได้เข้าเฝ้าพระราชินี

เขายืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะต่อต้านราชบัลลังก์ เพียงแต่อยากให้พระราชินีเข้าใจว่า วิธีการสื่อสารกับประชาชนแบบเดิม ๆ (ด้วยวิธีการและถ้อยคำที่สำนักเลขาธิการพระราชวังแบบโบราณร่างไว้แบบทำตามหน้าที่และเนื้อหาไม่สนใจใส่ใจความรู้สึกประชาชนนั้น) ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมอีกต่อไป ต่อมาอีกหลายปี Lord Altrincham สละยศขุนนางและขอเป็นประชาชนธรรมดา ส่วนสำนักพระราชวังก็แถลงขอบคุณเขาในฐานะกัลยาณมิตรที่ดีคนหนึ่งที่ช่วยปรับปรุงให้สถาบันพัฒนาเท่าทันโลกยุคใหม่

ตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งตอนที่ดีที่สุดสำหรับผู้เขียน ซึ่งดูจะเป็นประโยชน์กับสถานการณ์ในบ้านเมืองของเราที่พระราชินีแห่งอังกฤษและประชาชนอังกฤษได้เรียนรู้ร่วมกัน (อย่างน้อยก็เท่าที่ปรากฏเป็นการทั่วไป) มาตั้งแต่ 70 ปีก่อน และจนกระทั่งถึงการเกิดขึ้นของซีรีส์ The Crown ที่เป็นการวิจารณ์ได้ พูดถึงราชสำนักได้ ด้วยศิลปะภาพยนตร์ (ซีรีส์ในที่นี้) ในปัจจุบัน.

The Crown (2019) เดอะ คราวน์ Season 3

“ผมอยู่ข้างหลังคุณ”

ในซีรี่ส์ The crown season 3 ตอนที่ 5 ชื่อตอน Coup , เป็นตอนที่ว่าด้วย ‘ประชาธิปไตย’ ที่สนุกมากครับ ปี 1968 สถานการณ์ของนายกฯแฮโรลด์ วิลสันกับรัฐบาลไม่สู้ดี ปัญหาค่าเงินอ่อนตัว เศรษฐกิจตกต่ำ ขาดดุลทางการค้าถึงร้อยล้านปอนด์นับว่าร้ายแรงสุดในประวัติศาสตร์ กระแสต้านไม่เอานายกฯผ่านหน้าสื่อหนังสือพิมพ์มากขึ้น พาดหัวข่าวแต่ละเล่มไล่รัฐบาลอาทิ “พอกันที” ฯลฯ เริ่มมีประชาชนออกมาประท้วง ทีมงานรัฐบาลต้องการแก้เกมด้วยการเบนความสนใจไปที่ ลอร์ดเมาท์แบทเท็น-ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

เหตุผลคือจากสายตาของรัฐบาลมองว่ากองทัพใช้งบประมาณฟุ่มเฟือยไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของบ้านเมืองตอนนั้นที่กำลังวิกฤติ แถมไม่ยอมตัดงบประมาณการทหารตามที่รัฐบาลแจ้ง ทีมของรัฐบาลจึงเสนอให้ปลดลอร์ดเมาท์แบทเท็นออก เสริมด้วยเหตุผลว่าตัวลอร์ดฯเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มอภิสิทธิชน(นับญาติแล้วเป็นเชื้อพระวงศ์คือเป็นลูกพี่ลูกน้องกับควีนฯ) เพื่อหวังให้ได้พาดหัวข่าวดีๆจากสื่อว่ารัฐบาลก็มีความกล้าหาญในการหั่นงบประมาณที่ไม่จำเป็นหลังจากปลดลอร์ดเมาท์แบทเท็นออก

นายธนาคารกับนักธุรกิจเจ้าของสื่อหนังสือพิมพ์กลุ่มหนึ่งวางแผนจะก่อรัฐประหารปลดนายกฯกลางอากาศ เลยไปเชิญลอร์ดฯมาเป็นผู้นำในการทำรัฐประหารแล้วจะตั้งลอร์ดฯเป็นหัวหน้ารัฐบาลคนใหม่ ลอร์ดเมาท์แบทเท็นขอไปศึกษาสถานการณ์สามวันแล้วกลับมาบอกในที่ประชุมว่าโอกาสที่จะรัฐประหารสำเร็จดูจากประเทศต่างๆทั่วโลก อาศัยปัจจัย 5 ข้อ

(1) คุมสื่อได้ (2) ควบคุมเศรษฐกิจได้ (3) ควบคุมตัวผู้นำกับกลุ่มปกครองคนสำคัญได้ (4) ได้ความจงรักภักดีจากทหารทุกเหล่าทัพ ลอร์ดฯกล่าวว่า “หากเป็นที่สหราชอาณาจักรนี้ การจับนายกฯกับคนสนิท ต้องปิดสนามบิน ปิดสถานีรถไฟ ประกาศเคอรฟิว ประกาศกฎอัยการศึก ใช้ทหารจงรักภักดีหลักหมื่นกับนายตำรวจอีกมาก ฯลฯ ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลย

เราจึงต้องใช้ปัจจัยข้อที่ 5 ซึ่งก็คือ ‘ความชอบธรรม’ ที่ผ่านมารัฐบาลมีความแข็งแกร่งจากสถาบันเก่าแก่ที่ปกป้องเช่น ศาล , รัฐธรรมนูญ ฯลฯ ดังนั้นการจะทำลายรัฐบาลได้ก็ต้องเล่นงานพวกนั้นด้วยแต่ในประเทศที่ประชาธิปไตยมีวิวัฒนาการมาถึงจุดนี้แล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้อีกเช่นกัน แต่รัฐประหารในสหราชอาณาจักรก็อาจสำเร็จได้

หากได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญ , ควีน” เหตุผลของลอร์ดคือสถาบันฯมีอำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญที่ต่างจากสถาบันอื่น โดยยกตัวอย่างว่าในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักรก็เคยมีกรณีที่ราชวงศ์แทรกแซงเรื่องการเมืองในรูปแบบพิเศษที่มีส่วนในการเปลี่ยนรัฐบาล ลอร์ดเมาท์แบทเท็นวางแผนจะโทรไปขอการเห็นชอบจากควีน

The Crown (2020) เดอะ คราวน์ Season 4 

วาดฝัน 

ยังคงเป็นซีรีส์ที่ดีเลิศทั้งการแสดง ภาพ เสียง และบทละครที่น่าเชื่อถือ และแม้เราจะรู้ตอนจบของหลายสิ่งอยู่แล้ว แต่เราก็ยังคงรู้สึกร่วมไปกับซีรีส์ได้อย่างไม่ขัดข้อง การย้ายโฟกัสจากควีนอลิซาเบธไปที่เจ้าหญิงไดอาน่าบ้าง และแบ่งเวลาบางส่วนไปให้แธตเชอร์ทำให้ซีซั่นนี้มีรสชาติแปลกใหม่น่าสนใจกว่าซีซั่นอื่น คราวนี้เราก็ได้แต่รอว่าซีซั่นหน้า เรื่องราวและแคสท์ใหม่ที่นำทีมโดน อิเมลด้า สทอนตัน (นักแสดงที่เล่นเป็นศาสตราจารย์อัมบริจน์ จากแฮร์รี่ พอตเตอร์นั่นแหละ) ในบทควีนอลิซาเบธ จะพาเราไปเจอกับอะไรบ้างในสองซีซั่นสุดท้ายของ ‘The Crown’

The Crown (2023) เดอะ คราวน์ Season 6

BABYBEE
ด้วยเรื่องในทุกๆซีซั่นมีความเข้มข้นดุเดือดอยู่แล้วช่วงที่ไดอาน่าได้เข้ามามีบทบาทเรื่องราวน่าสนใจมากขึ้นนอกจากจะได้ความสนุกจากการปรุงแต่งให้ได้อรรถรสในการรับชม ยังได้รับความรู้จากเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ ซีซั่นที่ผ่านมาผู้ชมจะรู้ว่าเจ้าหญิงไดอาน่าถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง คนในครอบครัววินด์เซอร์ละเลยความรู้สึกของนางยิ่งไปกว่านั่นเจ้าชายชาร์ลส์มีคนรักอยู่แล้วซึ่งมันยิ่งส่งผลให้เธอรู้สึกอยากได้รับความรักความสนใจจากสามีและครอบครัววินด์เซอร์กระทั่งแทบจะโค่นบัลลังก์ราชวงศ์อังกฤษลง

ในซีซั่นนี้จะได้รู้เหตุผลอีกข้อหนึ่งว่าทำไมไดอาน่าถึงโหยหาความรักและเรียกร้องความสนใจตลอดเวลา ในหน้าที่ของการเป็นแม่ยอมรับเลยว่าเธอเป็นแม่ที่ดีมากใส่ใจความรู้สึกของลูกเป็นอย่างแรกหลังจากที่หย่าเรียบร้อยจะได้เห็นเจ้าหญิงไดอาน่าทีมีชีวิตชีวามากขึ้น ยิ้มหัวเราะเป็นอิสระไม่เหมือนในซีซั่น4-5 ถ้าดูตั้งแต่แรกจะรู้เลยว่าทุกตัวละครมีเหตุผลของตัวเอง ความรู้สึกของทุกคนในราชวงศ์นี้ต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ

เพราะการถือกฎระเบียบเดิมๆซึ่งเหตุการณ์เลวร้ายมีให้เห็นแต่ราชวงศ์นี้ยังฝืนยึดมั่นในกฏจนผลออกมาเป็นเช่นเดิม ซีรีย์เรื่องนี้ยังคงสนุกเหมือนเดิมยิ่งฉากที่เจ้าหญิงไดอาน่าเสียชีวิตหลายๆคนคงร้องไห้ตามแน่นอนซึ่งตัวเราเองเป็นหนึ่งในนั้น แนะนำว่าต้องดูเพราะในซีรีย์อธิบายความรู้สึกของตัวละครอย่างชัดเจน น่าใจหาย หดหู่และแม้เจ้าหญิงไดอาน่าเสียชีวิตแล้วยังคงน่าสงสารเหมือนเดิมเพราะการกระทำของคนในตระกูลนี้ แต่เรื่องราวถูกปรุงแต่งให้สนุกอย่างไรดูแล้วคิดพิจารณาตามวิจารณญาณของแต่ละบุคคล

ผู้กำกับ

• Benjamin Caron (11 episodes, 2016-2020)
• Philip Martin (7 episodes, 2016-2017)
• Christian Schwochow (7 episodes, 2019-2023)
• Jessica Hobbs (7 episodes, 2019-2022)
• Stephen Daldry (5 episodes, 2016-2023)
• Julian Jarrold (4 episodes, 2016-2020)
• May el-Toukhy (4 episodes, 2022-2023)
• Alex Gabassi (4 episodes, 2022-2023)
• Erik Richter Strand (4 episodes, 2022-2023)
• Paul Whittington (3 episodes, 2020)
• Philippa Lowthorpe (2 episodes, 2017)
• Samuel Donovan (2 episodes, 2019)

บริษัท ค่ายหนัง

• Left Bank Pictures
• Sony Pictures Television Production UK
• Sony Pictures Television
• Netflix

นักแสดง

• Claire Foy (24 episodes, 2016-2023)
• Olivia Colman (21 episodes, 2019-2023)
• Imelda Staunton (20 episodes, 2022-2023)
• Matt Smith  (episodes, 2016-2017)
• Tobias Menzies  (episodes, 2019-2020)
• Dominic West (19 episodes, 2022-2023)
• Charles Edwards (19 episodes, 2019-2020)

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

The Crow Collection เดอะคาวน์ ทุกภาค เป็นภาพยนตร์นวนิยายชุดทางโทรทัศน์อิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพระราชประวัติของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรและเหตุการณ์สำคัญที่เกิดในรัชกาลของพระองค์ สร้างและเขียนโดยปีเตอร์ มอร์แกนเป็นหลัก อำนวยการสร้างโดย Left Bank Pictures และ Sony Pictures Television สำหรับเน็ตฟลิกซ์ซึ่งผู้เขียนพัฒนาจากภาพยนตร์เรื่อง The Queen (2006) และโดยเฉพาะละครเวทีเรื่อง The Audience (2003) ออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 และออกอากาศแล้วทั้งสิ้น 5 ฤดูกาล และมีแผนจะสร้างทั้งหมด 6 ฤดูกาล

• The Crown (2016) เดอะ คราวน์ Season 1 EP.1-10 (จบ)

เริ่มต้นด้วยการที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ขึ้นครองราชสมบัติในปี 1952 หลังจากการสวรรคตของพ่อของเธอ กษัตริย์จอร์จที่ 6 ติดตามชีวิตของเอลิซาเบธตั้งแต่วัยเยาว์ ไปจนถึงการแต่งงานของเธอกับเจ้าชายฟิลิปแห่งกรีซและเดนมาร์ก การก่อตั้งราชวงศ์ของเธอ และเหตุการณ์สำคัญอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นถึงชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงานของเอลิซาเบธ เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัว เพื่อนฝูง และคู่สมรสของเธอ ยังแสดงให้เห็นถึงบทบาทของราชวงศ์ในสังคมอังกฤษและทั่วโลก

เนื้อหาของภาพยนตร์ชุดเรื่องนี้ครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่ก่อนสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะขึ้นครองราชสมบัติจนถึงช่วงเวลาในรัชสมัยของพระองค์ โดยฤดูกาลแรกดำเนินเรื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2490 ถึง พ.ศ. 2498 ครอบคลุมเหตุการณ์สำคัญอันประกอบไปด้วยการอภิเษกสมรสของเจ้าฟ้าหญิงเอลิซาเบธกับเรือโทฟิลิป เมาต์แบทเทน ดยุกแห่งเอดินบะระ, การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ของวินสตัน เชอร์ชิล, การสวรรคตของพระเจ้าจอร์จที่ 6, ภัยพิบัติหมอกควันครั้งใหญ่ของกรุงลอนดอน พ.ศ. 2495, พระราชพิธีบรมราชินยาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และการแยกทางกันระหว่างเจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเร็ตกับนาวาอากาศเอกปีเตอร์ ทาวน์เซนด์

• The Crown (2017) เดอะ คราวน์ Season 2 EP.1-10 (จบ)

หลังจากปีแรกที่วุ่นวายบนบัลลังก์ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 มุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นกษัตริย์ที่คู่ควร อย่างไรก็ตาม เธอเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งเรื่องส่วนตัวและการเมือง ที่คุกคามที่จะทดสอบความมุ่งมั่นของเธอ ขณะที่วิกฤตการณ์สุเอซทำให้อังกฤษเข้าสู่วิกฤตทางการฑูต เอลิซาเบธต้องหาทางจัดการกับข้อเรียกร้องที่แข่งขันกันของนายกรัฐมนตรี แอนโทนี่ อีเดน และสามีของเธอ เจ้าชายฟิลิป ในขณะเดียวกัน เรื่อง Profumo ซึ่งเป็นเรื่องอื้อฉาวทางเพศที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีหนุ่มและสายลับโซเวียต ทำให้เกิดเงามืดเหนือราชวงศ์ และที่บ้าน เอลิซาเบธต้องรับมือกับความเป็นอิสระที่เพิ่มขึ้นของลูกๆ ของเธอ

โดยเฉพาะเจ้าชายชาร์ลส์ที่กำลังเตรียมเข้ารับหน้าที่ในราชวงศ์ ตลอดทั้งฤดูกาล เอลิซาเบธได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้ของเธอ ลอร์ด เมาท์แบทเทน ซึ่งช่วยให้เธอจัดการกับความซับซ้อนแห่งชีวิตในราชวงศ์ อย่างไรก็ตาม เธอยังพบว่าตัวเองต้องพึ่งพาเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตน้องสาวของเธอมากขึ้น ซึ่งกำลังดิ้นรนเพื่อค้นหาที่ของตัวเองในโลกนี้ เมื่อฤดูกาลดำเนินไป เอลิซาเบธเริ่มเติบโตเป็นกษัตริย์ที่มีความมั่นใจและมีความสามารถ แต่เธอก็เผชิญกับการตระหนักว่าชีวิตส่วนตัวของเธอจะถูกบดบังด้วยหน้าที่สาธารณะของเธอเสมอ

ฤดูกาลที่ 2 ดำเนินเรื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2499 ถึง พ.ศ. 2507 ครอบคลุมเหตุการณ์สำคัญอันประกอบไปด้วยวิกฤตการณ์คลองสุเอซ, การสถาปนาฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระขึ้นเป็นเจ้าชายแห่งสหราชอาณาจักร, การเสกสมรสระหว่างเจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเร็ตกับโทนี่ อาร์มสตรอง-โจนส์, การถ่ายทอดสาส์นวันคริสต์มาสทางโทรทัศน์ครั้งแรก, การลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนอดี แห่งสหรัฐอเมริกา และการประสูติเจ้าฟ้าชายแอนดรูว์และเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด

• The Crown (2019) เดอะ คราวน์ Season 3 EP.1-10 (จบ)

เริ่มต้นขึ้นด้วยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่เริ่มเข้าสู่วัยกลางคน เธอกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ในฐานะราชินี รวมถึงการสิ้นพระชนม์ของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเธอ นอกจากนี้ เธอยังต้องจัดการกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างเจ้าชายชาร์ลส์และไดอานา สเปนเซอร์ ซึ่งกำลังจะแต่งงานกัน เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตก็กำลังเผชิญกับปัญหาของตัวเองเช่นกัน เธอกำลังดิ้นรนเพื่อหาความมั่นคงในชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงาน ตลอดทั้งซีซัน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและเด็ดขาด เธอยังคงอุทิศตนให้กับหน้าที่ของเธอในฐานะราชินี แม้ว่าเธอจะเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากก็ตาม อย่างไรก็ตาม เธอก็เริ่มตระหนักว่าเธอไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งได้ และเธอต้องยอมให้คนอื่น ๆ ตัดสินใจเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาเอง

ฤดูกาลที่ 3 ดำเนินเรื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2520 ครอบคลุมเหตุการณ์สำคัญอันประกอบไปด้วยการขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของฮาโรลด์ วิลสันจากพรรคแรงงาน, ภัยพิบัติอเบอร์ฟาน พ.ศ. 2509, สารคดีชุด เดอะ รอยัล แฟมิลี่, พระราชพิธีสถาปนาเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ขึ้นเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์, ยานอพอลโล 11 ลงจอดบนดวงจันทร์, ความสัมพันธ์ช่วงต้นของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับคามิลล่า แชนด์, การหย่าร้างของเจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเร็ตกับลอร์ดสโนว์ดอน และพระราชพิธีรัชดาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

• The Crown (2020) เดอะ คราวน์ Season 4 EP.1-10 (จบ)

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่เริ่มเข้าสู่วัยชรา เธอกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ในฐานะราชินี รวมถึงการเพิ่มขึ้นของสาธารณชนต่อต้านราชวงศ์ การแต่งงานของเจ้าหญิงไดอานาและเจ้าชายชาร์ลส์ และการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ตลอดทั้งซีซัน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นผู้นำที่ปรับตัวได้ เธอยังคงอุทิศตนให้กับหน้าที่ของเธอในฐานะราชินี แม้ว่าเธอจะเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากก็ตาม อย่างไรก็ตาม เธอก็เริ่มตระหนักว่าเธอไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งได้ และเธอต้องยอมให้คนอื่น ๆ ตัดสินใจเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาเอง

ฤดูกาลที่ 4 ดำเนินเรื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2522 ถึง พ.ศ. 2533 ครอบคลุมเหตุการณ์สำคัญอันประกอบไปด้วยการขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของสหราชอาณาจักร, การลอบสังหารลอร์ดเมาต์แบทเทน, การอภิเษกสมรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์กับเลดี้ไดอาน่า สเปนเซอร์, สงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์, การบุกรุกพระราชวังบักกิ้งแฮมของนายไมเคิล เฟแกน, วิกฤตเหยียดสีผิวในแอฟริกาใต้ และการลงจากอำนาจของแทตเชอร์

• The Crown (2022) เดอะ คราวน์ Season 5 EP.1-10 (จบ)

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ยังคงเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ในฐานะราชินี รวมถึงการเพิ่มขึ้นของสาธารณชนต่อต้านราชวงศ์ การแต่งงานของเจ้าหญิงไดอานาและเจ้าชายชาร์ลส์ และการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ตลอดทั้งซีซัน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นผู้นำที่ปรับตัวได้ เธอยังคงอุทิศตนให้กับหน้าที่ของเธอในฐานะราชินี แม้ว่าเธอจะเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากก็ตาม อย่างไรก็ตาม เธอก็เริ่มตระหนักว่าเธอไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งได้ และเธอต้องยอมให้คนอื่นๆ ตัดสินใจเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาเอง ซีซันนี้ยังสำรวจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างสมาชิกในครอบครัวของราชวงศ์ ไดอาน่าและชาร์ลส์กำลังดิ้นรนเพื่อรักษาความสัมพันธ์ของพวกเขา เจ้าชายแอนดรูว์กำลังเผชิญกับความท้าทายส่วนตัวและสาธารณะ และเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตกำลังเผชิญกับโรคมะเร็ง

ฤดูกาลที่ 5 ดำเนินเรื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2534 ถึง พ.ศ. 2540 ครอบคลุมเหตุการณ์สำคัญอันประกอบไปด้วยการปลดระวางเรือยอชต์หลวงบริแทนเนีย, การแยกทางและหย่าร้างของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์กับไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์, การหย่าร้างของเจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์กกับซาราห์ ดัชเชสแห่งยอร์ก, การเสกสมรสระหว่างเจ้าฟ้าหญิงแอนน์กับนาวาโททิโมธี ลอว์เรนซ์, เหตุเพลิงไหม้ปราสาทวินด์เซอร์, พระราชดำรัส “ปีแห่งหายนะ” พ.ศ. 2535, การเสด็จเยือนรัสเซียของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พ.ศ. 2537, การสัมภาษณ์ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ในรายการพาโนราม่า และการส่งคืนฮ่องกงให้แก่จีนของสหราชอาณาจักร พ.ศ. 2540

• The Crown (2023) เดอะ คราวน์ Season 6 EP.1-10 (จบ)

ด้วยการสิ้นพระชนม์ของไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และประเทศอังกฤษโดยรวม ตลอดทั้งซีซัน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ยังคงเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ในฐานะราชินี รวมถึงการเพิ่มขึ้นของสาธารณชนต่อต้านราชวงศ์ การแต่งงานของเจ้าชายวิลเลียม และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างสมาชิกในครอบครัวของราชวงศ์ ซีซันนี้ยังสำรวจเหตุการณ์สำคัญอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ของอังกฤษในช่วงทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 รวมถึงการระบาดของโรคเอดส์ การล่มสลายของสหภาพโซเวียต และการโจมตี 11 กันยายน

สำหรับฤดูกาลที่ 6 ซึ่งจะเป็นฤดูกาลสุดท้าย เนื้อหาจะดำเนินเรื่องราวๆ พ.ศ. 2540 ถึง พ.ศ. 2548 ครอบคลุมเหตุการณ์สำคัญอันประกอบไปด้วยการเสียชีวิตของไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์, การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของโทนี่ แบลร์, การสิ้นพระชนม์ของเจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเร็ตและสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี, พระราชพิธีกาญจนาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2, การอภิเษกสมรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์กับคามิลล่า พาร์คเกอร์-โบวล์ส และความสัมพันธ์ช่วงต้นของเจ้าชายวิลเลียมกับแคทเธอรีน มิดเดิลตัน

รวม เดอะคราวน์ ทุกภาค

The Crown (2016) เดอะ คราวน์ Season 1

The Crown (2017) เดอะ คราวน์ Season 2

The Crown (2019) เดอะ คราวน์ Season 3

The Crown (2020) เดอะ คราวน์ Season 4

The Crown (2022) เดอะ คราวน์ Season 5