Blackhat (2015) ล่าข้ามโลก แฮกเกอร์มหากาฬ

ใครจะเชื่อว่านี่คือหนัง Michael Mann ซึ่งเอาจริงๆฝีมือแกก็ไม่ใช่ไก่กานะ ทำหนังถึงระดับเข้าชิงออสการ์ก็ทำมาแล้ว ฝีไม้ลายมือในการกำกับจนได้เข้าชิงผู้กำกับออสการ์ก็เข้าชิงมาแล้ว (The Insider หนังปี 1999 ของ Michael Mann เหมือนจะได้ิชิงออสการืรางวัลใหญ่ๆเยอะอยู่) แต่ Michael Mann ห่างหายจากการกำกับหนังใหญ่ไปหลายปี โปล่มาก็เอาเรื่อง Blackhat มาทำ คือคสวามคาดหวังมันประมาณนึงนะ ไม่คาดหวังเลยคงไม่ได้

ได้ยินชื่อเรื่อง Blackhat นี่คาดหวังมากว่าจะได้เห็นมหาศึกโจรกรรมข้อมูลทางคอมพิวเตอร์หรือแฮกเกอร์ระดับโลก แต่สิ่งที่เห็นคือหนังตำบอนเรื่องนึงที่เละเทะเข้ารกเข้าพง

1.การเอา Chris Hemsworth มารับบทเป็นแฮคเกอร์ที่เก่งระดับโลกคือความผิดพลาดที่เลวร้ายที่สุดของหนังเรื่องนี้ ภาพลักษณ์ของ Chris Hemsworth คือพระเอกหล่อล่ำเหมาะกับบทพระเอกผู้ใช้แรงงาน ไม่ใช่พระเอกที่ใช้สมองแบบเรื่องนี้ คือพูดตรงๆ Chris Hemsworth นี่คือหล่อแบบโคตรพ่อโคตรแม่ หล่อมากก เรื่องนี้หล่อจริงๆ แต่บุคลิกหน้าตาไม่เหมาะที่จะมารับบทคนฉลาดแบบในหนังเรื่องนี้ นี่คือความผิดพลาดของอีผู้กำกับที่เสือกเอา Chris Hemsworth มาพัวพันในหนังอัปปรีย์ให้เสียประวัติในผลงานการแสดง เท่าที่จำได้ อยากจะบอกว่า Blackhat คือหนังที่จัญไรที่สุดในชีวิตการแสดงของ Chris Hemsworth ก็ว่าได้

2.วังลีฮอม หล่อมาก แต่………………… มึงกล้ามาก กล้ามากมั่นหน้ามาก ขอสปอยลืนะ กลัวสปอยลือย่าอ่าน มึงกล้าดียังไงให่้วังลีฮอมตายตอนกลางๆเรื่อง และเป็นการตายที่ขี้หีมาก แทบไม่ส่งผลอะไรให้หนังสักเท่าไหร่เลยแม้แต่น้อย
3.บรรลัยมันเข้าไปดาราระดับ Viola Davis อุตส่าห์ได้มาเล่น ก็เสือกให้ตายตอนกลางเรื่องอีก แคแรคเตอร์มีปมมีมิติ น่าสนใจเสือกให้ตายแบบง่ายๆโง่ๆ แล้วตัดหายไปเลย อีดอก อีผู้กำกับ อีบ้า มึงทำกับ Viola Davis แบบนี้ไม่ได้นะ นางได้เข้าชิงออสการ์สองครั้งนะ แต่ทำไมไม่ใช้ศักยภาพของนางให้เป็นประโยชน์

ในแวดวงคนไอที หมายถึงแฮคเกอร์คอมพิวเตอร์ระดับโลกที่สะเทือนวงการ แต่การนำเสนอเรื่องราวของการแฮคเกอร์ในหนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่ง่อยมาก แพลทฟอร์มโบราณจอเขียวมากำคำสั่งง่อยแดก Whois เชคไอพี แฮกเกอร์ในเรื่องใช้ Proxy ชั้นเดียวแฮคเข้าระบบ อีดอก ฝีมือระดับนี้แฮคร้านเซเว่นยังไม่น่าจะแฮคได้เลย อีดอกในเรื่องเสือกแฮคทั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แฮคตลาดหุ้น ปั่นราคาถั่วเหลือง บิดเบือนความสนใจเพื่อปล่อยน้ำท่วมเหมืองดีบุก เพื่อที่จะทำลายกลไกปั่นราคาดีบุก อีดอก มันไปใหญ่ไปโตมาก

แต่เอาเข้าจริงๆสุดท้ายพระเอกที่เปิดเรื่องมา เคยต้องแค่คดีทะเลาะวิวาทกับปลอมบัตรเครดิตเลยติดคุกได้ออกจากคุกมาช่วยรัฐบาลหาตัวคนแฮคข้อมูล เพราะคนร้ายเอาโปรแกรมที่พระเอกกับวังลีฮอมช่วยกันเขียนมาเข้าระบบ คือพระเอกเหมือนจะเน้นไปทางด้านสมอง แต่ตอนจบอีเหี้ย ! พระเอกมาเต็ม ทำเสื้อเกราะ วางแผนประชิดตัวคนร้าย ฆ่าหักคอคนร้ายได้ คือมึงไปเรียนมาจากไหน ในเรื่องไม่ได้บอกมาก่อนเลยว่ามาสายแอ๊คชั่น ในเรื่องมาสายบุ๋น แต่เสือกฆ่าผู้ร้ายด้วยมือเดียว โม้อย่างนี้ถ้าเป็นหนังโง่ๆแบบปรัชญา ปิ่นแก้ว กูจะไม่ว่าเลย

หนังมันไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก แต่การโฆษณาว่าเป็นหนังแอ็คเกอร์สืบสวนอาชญากรรมไซเบอร์แล้วมาเห็นส่วนผสมที่ลงเอยด้วยการถือปืนไล่ยิงกันมากกว่าจะเป็นการต่อสู้บนเน็ตเวิร์ค คนดูส่วนใหญ่เลยน่าจะค่อนข้างผิดหวัง แถมพ่อหนุ่มล่ำ ‘คริส เฮมส์เวิร์ธ’ ที่ในเรื่องรับบทเป็นแฮ็คเกอร์ดันเก่งบู๊ราวกับเป็นหน่วยคอมมานโดอีกมันจึงยิ่งสร้างความหวุดหงิดใจเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องแฮ็คเกอร์ไม่ geek ไม่ nerd นั้นส่วนตัวเฉย ๆ เพราะเคยเจอคนเรียนคอมหุ่นดีหน้าหล่อแบบนี้เหมือนกัน

เกิดเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ประเทศจีนถูกแฮ็คเกอร์เจาะระบบจนเกิดระเบิดขึ้น และตลาดหุ้นยังโดนเจาะอีกในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่สืบสวนอาชญากรรมไซเบอร์จากจีนนำโดย ‘เฉิน’ (หวัง ลีฮอม) จึงได้ขอให้ทางการสหรัฐฯ ปล่อยตัว ‘นิค แฮธาเวย์’ (Chris Hemsworth) แฮ็คเกอร์ที่ต้องโทษในเรือนจำมาช่วยเหลือการสืบคดีร่วมกับเขา เพราะทั้งสองคนพบว่าโค้ดที่ใช้เจาะระบบเป็นผลงานของพวกเขาสมัยเรียนที่ถูกนำไปปรับแต่งเพื่อก่อการร้าย

ถ้ามอง  เป็นหนังสืบสวนแบบไฮเทคผสมแอ็คชั่นสไตล์ไมเคิล มานน์ก็น่าจะเรียกว่าเป็น blockbuster เกรดมาตรฐานสักเรื่องหนึ่งได้เหมือนกัน ตัวร้ายในหนังยุคใหม่หลายเรื่องมันก็ใช้เทคโนโลยีแฮ็คระบบนู่นนี่แบบเกินจริงด้วยซ้ำ แถมหนังก็ไม่ได้สนใจจะโฟกัสขั้นตอนการเจาะระบบสักเท่าไร ต่างกับ  ที่ลดระดับโลกไซเบอร์ในหนังให้ดูจับต้องได้มากขึ้น การเจาะระบบจริง ๆ มันก็คือความเก่งของแฮ็คเกอร์ผสมด้วยความผิดพลาดของมนุษย์ อย่างเช่นโดนหลอกให้เปลี่ยนรหัสผ่าน แล้วไปโหลดคู่มือแนะนำการใช้งานที่เป็นตัวดักคีย์บอร์ด เป็นต้น ซึ่งในโลกจริงเขาก็เจาะระบบกันแบบนี้แหละ ประเภทโม้ ๆ เจาะเข้าไปในคอมพิวเตอร์ใครก็ได้ ดูกล้องวงจรปิดที่ไหนก็ได้แบบในหนังหลายเรื่องมันเว่อร์ไป

เราจึงชอบการเซ็ทโลกแฮ็คเกอร์ในหนังพอสมควรตรงที่มันไม่เกินจริงมากนัก แล้วมันไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะสามารถดำเนินการในโลกไซเบอร์ได้หมด มันต้องอาศัยการบุกเข้าไปขโมยข้อมูลใน server บ้าง อาศัยการประมวลผลในระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์บ้าง ไม่ใช่คอมไก่กาสเป็คไหนก็จะมาทำได้ แล้วการสื่อสารระหว่างตัวร้ายมันก็น่าสนใจกว่าหนังหลาย ๆ เรื่องเพราะมันใช้เทคโนโลยีง่าย ๆ อย่างการปล่อยสัญญาณ wi-fi ระยะใกล้ในการสื่อสาร

ผู้กำกับ

ไมเคิล แมนน์

บริษัท ค่ายหนัง

Legendary Pictures
Forward Pass

นักแสดง

คริส เฮมส์เวิร์ธ
ถังเหว่ย
วิโอลา เดวิส
ริตชี่ คอสเตอร์
โฮลท์ แม็กคัลลานี
ยอริค ฟาน วาเก็นนิงเก้น
หวัง ลีฮอม

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ