The Nun (2018) เดอะนัน

The Nun (2018) เดอะนัน

รีวิว

ก็แค่คนชอบดูหนัง

รีวิว The Nun II – เดอะนัน 2
สนุก! บันเทิงกว่าภาคแรก ได้ฟิลเข้าบ้านผีสิง
[**No Spoil ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ] ชอบเฉยเลย! สนุกกกกกกก จากใจคนที่ไม่ชอบภาคที่แล้ว และไม่ค่อยอินกับจักรวาล The Conjuring สักเท่าไหร่ ส่วนตัวรู้สึกโอเคกับภาคนี้กว่าที่คิด แอบรำคาญตัวละครในสถานการณ์ต่างๆ พอสมควร แต่โดยรวมคือเอนจอยมาก ผีแม่ชีมีความกวนตีนกว่าเดิม เหมือนไม่ได้มาหลอกให้กลัว แต่กะหลอกเอาสนุกอะ ซีนผีโผล่คือมีทั้งหลอนนิดๆ และหลุดขำไม่หยุด กลายเป็นหนังผีตลกแบบไม่ได้ตั้งใจไปแล้ว 😂 (เอ๊ะ หรือว่าตั้งใจวะ 😅)

#หนังเกี่ยวกับอะไร…เรื่องราวต่อจากภาคแรก The Nun (2018) เดอะนัน  นางเอกยังคงเป็นแม่ชีคนสวยคนดีคนเดิม ที่อุตส่าห์หลุดพ้นจากอิผีห่านี่แล้ว ดันเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าตัวต้องกลับไปพัวพันกับผีแม่ชีอีก คราวนี้ย้ายสถานที่ไปยังโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง แม่ชีก็เลยหลอกสนุกเลย เพราะมีเด็กเปรคพร้อมทำอะไรโง่ๆ ตามแบบฉบับหนังผีทั่วไปให้คนดูด่าได้ตลอดเวลา

#ความรู้สึกโดยรวมหลังสดับรับชม
..แน่นอนว่าการเตรียมตัวก่อนมาดูเรื่องนี้ เราถอดต่อมตรรกะ ถอดสมองส่วนรับรู้ความสมเหตุสมผลไว้ตั้งแต่แรก เพราะส่วนใหญ่ก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า อย่าถามหาความเมคเซนส์จากหนังแนวนี้ มันเลยทำให้เราสนุกไปกับมันได้ดี เท่าที่หนังตั้งใจจะเสิร์ฟให้เรา หนังแทบจะไม่ใช่หนังผี หรือหนังสยองขวัญแล้ว คือไม่เน้นขายความหลอน ความน่ากลัวติดหัว แบบที่ไม่เปิดโอกาสให้ใครต้องกลับไปอ้อนผัวว่า “ตะเอง เค้ากลัวไม่กล้าอาบน้ำคนเดียว”

เพราะมันไม่น่ากลัวเลยยยยยยย มันให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังฮีโร่รวมพลังปราบผี มี Action มันส์ๆ เน้นทำลายข้าวของมากกว่า โดยที่กลิ่นความเป็นหนังผีสยองขวัญที่หลงเหลืออยู่นั้น มีเพียงความสะดุ้งตุ้งแช่และเนื้อเรื่องที่บอกว่ามันเป็นผีเท่านั้น ซึ่งต้องขอชมเลยว่า หนังออกแบบ Jump Scare ได้ดีมากกกกก เราไม่ได้จะบอกว่ามันเดายาก ไม่รู้จะสะดุ้งตอนไหนนะ เราเชื่อว่าส่วนใหญ่เดาออกหมด แต่เราชื่มชนในแง่ของการเล่นกับแสง และจังหวะการเคลื่อนกล้อง ที่ทำให้เราลุ้นกลั้นหายใจจนหน้าเขียวนี่แหละ ชอบจนกล่าวชมในใจว่าไอเดียดีได้หลายซีนเลย (ซีนบ้งก็เยอะอยู่)

ข้อดีอีกอย่างของภาคนี้คือ ด้วยความที่เหตุการณ์ส่วนใหญ่ไม่ได้กระจุกอยู่ในที่เดียวแบบภาคที่แล้ว ทำให้ตัวละครมันเยอะ มีอะไรให้เล่นได้มากกว่า และหนังก็จุดนี้มาใช้ได้ดีไม่น้อยเลย แม้ว่าการตัดสินใจอะไรต่างๆ มันจะน่าด่าก็เถอะ แต่ถือว่าพล็อตหลักดี เราก็โอเคให้ผ่านแบบชิวๆ #สรุป.. ชอบครับ ทั้งๆ ที่เลิกคาดหวังกับหนังจักรวาลนี้ไปแล้ว (แต่ก็ตามดูตลอด) กลับทำให้เราบันเทิงใจได้ขนาดนี้ ถือว่าถูกใจและมีความสุขในการรับชมมากเพียงพอแล้ว ส่วนตัวดูโรง IMAX คือดีมากกกกก เสียงแน่นตั๊บ! จัดเต็มทั้งภาพ ทั้งเสียง ทำสั่นสะเทือนวิญญาณไปทั่วร่างกันเลยทีเดียว นี่อาจเป็นอีกเหตุผลที่เรารู้สึกสนุกกับหนังมากกว่าโรงปกติทั่วไปเลเวลนึงล่ะมั้ง ^^’

anders-n-aa-larsson

⭐ 5/10

ดูเหมือนว่าใน The Conjuring 2 ผู้เขียนแค่คิดว่า: “สัตว์ประหลาดในชุดแม่ชี มันดูเท่จริงๆ!” จากนั้นเมื่อพวกเขาพยายามสร้างเรื่องราวรอบๆ มัน พวกเขาไม่สามารถเอาหมุดสี่เหลี่ยมมาใส่ในรูกลมได้ เป็นวัดแม่ชีในโรมาเนีย และปีศาจชื่อวาลัค แต่ทำไมเขาถึงวิ่งไปรอบๆ The Nun (2018) เดอะนัน  ในชุดแม่ชีล่ะ? เรื่องราวนั้นยังไม่ได้รับการพัฒนาเพียงพอ เรื่องผีที่ดีมักจะมีความลึกลับและประวัติศาสตร์อยู่เสมอ แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้นำเสนอในแง่นั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพึ่งการกระโดดกลัวและความตื่นเต้นราคาถูกแทน

robinalers

⭐ 6/10

เรามาเริ่มกันที่การบอกว่าหนังเรื่องนี้ยังคงคุ้มค่าแก่เวลาดูอย่างแน่นอน เนื่องจากมีบางช่วงที่ The Nun ถูกนำเสนอในลักษณะที่คุณรู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่และทรงพลังแค่ไหน และดนตรีในฉากเหล่านี้ (เชื่อฉันเถอะ คุณจะจำพวกเขาได้เมื่อเห็นพวกเขา) ก็น่าทึ่งมาก คุณจะรู้สึกสิ้นหวังเหมือนกับตัวละครในตอนนั้น แต่น่าเสียดายที่ช่วงเวลาเหล่านี้มีอยู่ไม่มากนัก

ในฐานะมนุษย์ เราพบว่าความมืดน่ากลัว เราเกลียดมันเพราะเราไม่สามารถมองเห็นได้อย่างเหมาะสม จึงพบว่าตัวเองอยู่ในสิ่งที่ไม่รู้จัก นี่คือสิ่งที่ขับเคลื่อนหนังสยองขวัญดีๆ และนี่คือเหตุผลว่าทำไม Paranormal Activity ภาคแรกจึงประสบความสำเร็จเช่นนี้ ความสยดสยองของสิ่งต่างๆ

เกิดขึ้น แต่ไม่รู้ว่าคืออะไรหรืออยู่ที่ไหน แม่ชีล้มเหลวในการถ่ายทอดความสยองขวัญที่ไม่มีใครรู้จักนี้ เช่นเดียวกับเราในเกือบทุกฉาก มาดูกันว่าอะไรคือสิ่งที่น่าหวาดหวั่นในรายละเอียดอันยิ่งใหญ่และนองเลือด และในขณะที่ฉันชอบหมวกแนวสยองขวัญแบบเก่าๆ (มีเลือดสาดและความรู้สึกที่น่ากลัวมากกว่า) ฉันไม่ชอบวิธีที่นำเสนอ

จำนวนครั้งที่เราเห็นใบหน้าของแม่ชีในระยะใกล้นั้นช่างบ้าไปแล้ว และขจัดความกลัวที่ตัวละครตัวนี้ทิ้งเราไประหว่างในภาพยนตร์ Conjuring การไม่มีเวลาฉายภาพยนตร์และความมืดมิดรอบๆ ตัวละครตัวนี้ทำให้เธอน่ากลัวและน่าสนใจมากในภาพยนตร์เหล่านั้น

มันทำให้ฉันนึกถึงใบหน้าของปีศาจในภาพยนตร์ Exorcist ดั้งเดิม The Nun (2018) เดอะนัน  เราไม่เห็นมันบ่อยนัก แต่เมื่อเราเห็นมันทำให้เราหวาดกลัว เพราะเราไม่สามารถบอกลักษณะใบหน้าของมันได้ทั้งหมด และมันถูกล้อมรอบด้วยความมืดอยู่เสมอ แม่ชีเห็นได้ชัดเจน และเสียงกรีดร้องของเธอในกล้องทำให้รู้สึกเหมือนว่าคุณกำลังดู The Mummy มากกว่า

tonyjcole94

⭐ 6/10

เห็นได้ชัดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ขาดสัมผัสของ James Wan ที่เราชอบในภาพยนตร์จักรวาลแห่งการเสกสรร แม้ว่า Wan จะใช้ Jump Scare แต่มันก็ได้ผลเพราะบรรยากาศตึงเครียดและน่าขนลุก ใน พวกเขาถูกวางไว้ทุกที่ในภาพยนตร์มากเกินไปเพื่อชดเชยความจริงที่ว่าผู้กำกับไม่สามารถทำให้ผู้ชมหลงใหลด้วยวิธีอื่นได้

เนื้อเรื่องก็ดูเรียบง่าย เกือบจะเหมือนกับว่าพวกเขารวมมันเข้าด้วยกันภายใน 5 นาทีเพื่อสร้างเรื่องราวเบื้องหลังของ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีศักยภาพมากในการทำให้ผู้ชมได้ทราบเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าขนลุกที่น่าสนใจของหนึ่งในตัวร้ายที่โด่งดังของนักเวทย์มนตร์ แต่เรากลับเต็มไปด้วยสารตัวเติมสำหรับองก์ที่ 1 และ 2 และในที่สุดก็มีบางอย่างเกิดขึ้นในองก์สุดท้าย จนถึงตอนนั้นก็ไม่มีอะไรนอกจาก Jump Scare City ดังนั้นหากคุณชอบดูหนังสยองขวัญ คุณจะต้องชอบสิ่งนี้ โดยส่วนตัวแล้วฉันคิดว่าระยะเวลาสั้นๆ ที่ The Nun อยู่ใน Conjuring 2 นั้นดีกว่าหนังเต็มเรื่องนี้ถึง 100,000 เท่า

พวกเขายังพยายามที่จะทำตามเทรนด์ใหม่ในการเพิ่มเรื่องตลกเข้าไปในหนังสยองขวัญ และมันก็วางตัวได้ไม่ดีและอึดอัด การแสดงก็โอเค Taissa Farmiga และ Demien Bichir เป็นตัวละครหลักและมีการแสดงที่ค่อนข้างดี

อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจตรงไปที่ DVD หรือ Netflix อย่าคิดว่ามันสมควรที่จะออกฉายบนจอภาพยนตร์ หากว่านไม่ได้กำกับ มีช่วงเวลาที่สนุกสนานน่าขนลุก/น่ากลัวอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วมันก็น่าเบื่อและน่าเบื่อมากในบางครั้ง รับชมเมื่อคุณอยู่ที่บ้านในวันที่ฝนตกโดยไม่ได้ทำอะไรเลย อย่าเสียเงินของคุณเหมือนที่ฉันทำ

CoffinVideo1983

⭐ 6/10

ฉันไม่ใช่แฟนตัวยงของซีรีส์ Conjuring โดยรวม โดยรวมแล้ว  เป็นหนังที่ค่อนข้างดี ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำได้ยอดเยี่ยม สถานที่สวยงาม สีสันสมบูรณ์แบบ และ FX ก็ตรงจุด อย่างที่บอกไปแล้ว… สำหรับหนังสยองขวัญสไตล์ปีศาจ ฉันชอบพื้นหลังมากกว่านั้นนิดหน่อย ด้วยภาพยนตร์ที่ออกฉายอย่าง Hereditary ซึ่งมีพื้นฐานมาจากตำนานที่แท้จริงตามประวัติศาสตร์ จึงมีการกำหนดมาตรฐานให้สูงขึ้นในประเภทนั้น The Nun (2018) เดอะนัน  พล็อตเรื่องของแม่ชีดูเหมือนจะถูกโยนเข้ากันสำหรับฉัน

ด้านบวก… ไทซา ฟาร์มิกาเป็นนักแสดงที่น่าทึ่งและยอดเยี่ยมมาก ฉันเกือบจะให้เครดิตเธอเต็มที่สำหรับฉันชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มากเท่ากับที่ฉันทำ ฉันเชื่อจริงๆ ว่าเธอคือวัตถุดิบหลักของแนวสยองขวัญ Bonnie Aarons ก็น่าทึ่งมากในฐานะแม่ชีเช่นกัน ฉันหวังว่าพวกเขาจะใช้อวัยวะเทียมเล็กๆ น้อยๆ กับเธอเพื่อป้องกันไม่ให้แม่ชีดูเหมือนเธอมากขนาดนี้ หลังจากบทบาทของเธอในภาพยนตร์เหล่านี้ ฉันไม่รู้ว่าจะได้เห็นเธอเป็นเพียงแม่ชีปีศาจที่ชั่วร้ายหรือไม่ โดยรวม…ผมให้ 6 เต็ม 10

ผู้กำกับ

• Corin Hardy

บริษัท ค่ายหนัง

• Atomic Monster

นักแสดง

• Demián Bichir
• Taissa Farmiga
• Jonas Bloquet
• Bonnie Aarons
• Ingrid Bisu
• Patrick Wilson
• Vera Farmiga

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

นักบวชที่มีอดีตที่ถูกหลอกหลอนและเป็นสามเณรที่กำลังจะสาบานครั้งสุดท้ายจะถูกส่งโดยวาติกัน ดูหนังออนไลน์ เพื่อสอบสวนการตายของแม่ชีสาวในโรมาเนีย และเผชิญหน้ากับพลังอันมุ่งร้ายในรูปของแม่ชีปีศาจ เรื่องราวของแม่ชีคนหนึ่งในศาสนจักรแห่งโรมาเนีย นักบวช ผู้รับรู้อดีตสุดสยองขวัญและคำสัตย์สาบานสุดท้ายของเธอ เขาได้ถูกส่งไปยังวาติกัน เพื่อสืบหาสาเหตุทั้งหมด ที่นั่นพวกเขาได้ค้นพบกับคำสั่งอันดำมืด ที่เกี่ยวพันกันไม่ใช่แค่โชคชะตาของพวกเขา แต่เป็นโชคชะตาของวิญญาณทุกดวง ที่ต้องเผชิญหน้ากับแรงอาฆาตสุดร้ายแรง จากปีศาจแม่ชีที่เราได้พบกันครั้งแรกใน The Conjuring 2 และนี่จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นท่ามกลางสมรภูมิระหว่างชีวิตและคำสาปแช่ง

เดอะ นัน มีกลิ่นอายความเป็นภาพยนตร์สืบสวนเล็กน้อย ผสมกับความสยองขวัญในแบบฉบับของ The Conjuring ที่เน้นไปที่บรรยากาศ และเสียงประกอบ หนังในความน่ากลัวของปราสาทโบราณ The Nun (2018) เดอะนัน  สถานที่จริงที่ถูกทิ้งร้างในประเทศโรมาเนีย มารังสรรค์ความหลอนสะพรึงได้อย่างน่าสนใจ พร้อมทั้งใช้วัตถุดิบต่าง ๆ ภายในโบสถ์ เพื่อตั้งคำถามแสดงให้เห็นถึงการต่อรองระหว่างความศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า กับพลังดำมืดอันร้ายกาจของปีศาจจากขุมนรก

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

The Collector (2009) คืนสยองต้องเชือด

The Collection (2012) จับคนมาเชือด

Resurrected (2023)

Dark Tide (2012) ล่านรกใต้สมุทร

Beneath the Darkness (2011) เกมหวีดจิตวิปริต