Battle for the Planet of the Apes (1973) สงครามพิภพวานร

Battle for the Planet of the Apes (1973) สงครามพิภพวานร

รีวิว

10000TIP

(6/10)

ตอนสุดท้ายของตำนานพิภพวานร (ในโรงนะครับ เพราะหลังจากจบชุดนี้แล้ว ยังมีการสร้างมาเป็นซีรี่ส์อีก 2 ชุด นั่นคือ Planet of the Apes ในปี 1974 ความยาว 14 ตอน ตอนละ 60 นาที และในปี 1975 ก็มีอออกมาอีกชุดนึง ในชื่อว่า Return to the Planet of the Apes ความยาว 13 ตอน ตอนละ 30 นาที)

สำหรับภาค 5 นี้ก็จะเป็นการเล่าถึง ซีซ่าร์ (Roddy McDowall)  Battle for the Planet of the Apes (1973) หลังจากได้ก่อตั้งอาณาจักรวานรขึ้นมาสำเร็จแล้ว เขาก็ต้องเผชิญกับ เหล่ามนุษย์ที่ยังเหลืออยู่ รวมไปถึงการกบฎที่เกิดขึ้นเป็นการภายในของเมืองวานรอีกด้วย เรื่อง ราวในตอนนี้ก็ไม่ค่อยสนุกครับ อันนี้ว่ากันตรงๆ เลยนะ อ่อนที่สุดในหนังชุดนี้ ไม่น่าติดตามหรือตื่นเต้นอีกแล้ว ส่วนประเด็นเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์การวิพากษ์วิจารณ์เสียดสีแบบตอนก่อนๆ

ก็ไม่แรงหรือชวนให้คิดเท่าตอนแรกๆ อีกแล้วครับ แม้หนังจะได้ J. Lee Thompson จากภาค 4 มากำกับแต่ก็ไม่ได้ทำให้หนังน่าสนใจเท่าไหร่ ยังสนุกไม่เท่าภาค 4 เลยด้วยซ้ำนะครับ (ตอนแรกได้ข่าวว่า พี่ J. Lee Thompson คนนี้นี่แหละจะได้มากำกับหนังในภาคแรก ซึ่งก็น่าคิดนะว่าถ้าพี่แกมากำกับจริงๆ หนังจะเป็นอย่างไร) ส่วนการ แสดงก็ไม่ได้มีอะไรมาก McDowall ยังแสดงได้ดีครับ และ Natalie Trundy ก็ยังกลับมารับบทลิซ่าเช่นเดิม ซึ่งนอกนั้นก็ไม่มีใครเด่นครับ

Sandcooler

⭐ 6/10

ภาคสุดท้ายของซีรีส์นี้อาจจะซ้ำซากไปบ้าง แต่แน่นอนว่ามันจะทำให้เราได้มีการกระทำบางอย่าง มนุษย์และลิงทำสงครามกันอีกครั้ง และผลที่ตามมาคือมีสิ่งของมากมายระเบิด นั่นถือเป็นบทสรุป คำพูดเชิงปรัชญาตามปกติถูกโยนเข้ามา แต่พวกเขาก็ทำงานได้ดีกับการต่อสู้ตามชื่อที่สัญญาไว้ ฉากแอ็คชั่นค่อนข้างวุ่นวายแต่ก็ยังดูดี

โดยเฉพาะฉากต้นเรื่องที่เข้าเขตต้องห้าม/ลานจอดรถใต้ดินทำได้ดี Battle for the Planet of the Apes (1973)  มาถึงตอนนี้ นักแสดงก็รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่และดูเหมือนจะรักมัน โคล้ด เอกินส์ก็ควบคุมมันไว้อย่างบ้าคลั่ง การแสดงภาพนายพลอัลโดผู้เกลียดชังมนุษย์ของเขามีมิติเดียว และมิตินั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้คงอยู่ตลอดไป เราพบกับอัลโดแล้วเขาก็โกรธ เราเห็นเขาอีกในภายหลังและเขาก็โกรธ และสุดท้ายเขาก็สบายดี คุณรู้อะไรไหม โกรธ ฉากที่ดีที่สุดของเขาใกล้จะถึงตอนจบแล้ว คุณจะรู้เองเมื่อได้ดู คุณสามารถพูดแง่ลบเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ได้มากมาย แต่ก็ไม่น่าเบื่อ

veryape-887-913905

⭐ 6/10

ในความคิดของฉัน หนังเรื่องนี้ถูกประเมินต่ำเกินไป ไม่ใช่หนังที่ยอดเยี่ยมแต่อย่างใด แต่ดีกว่า และ Conquest Of The Planet Of The Apes นี่เป็นบทที่ห้าซึ่งเป็นบทสุดท้ายของเทพนิยายเรื่อง Ape และในความคิดของฉัน มันไม่ทำให้ผิดหวังเลยที่ดาวเคราะห์เป็นสถานที่รกร้าง Ceasar ต้องการให้ลิงและมนุษย์อยู่ร่วมกัน

แต่ลิงก็มีความได้เปรียบเหนือมนุษย์ในฐานะผู้นำและมนุษย์ต่อสู้กลับ .. ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย  Battle for the Planet of the Apes (1973) Roddy McDowell, Claude Akins และ Natalie Trundy ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย J.Lee Thompson ฉันขอแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้แม้ว่าจะมีเรตติ้งต่ำใน IMDb แต่ก็เป็นภาพยนตร์ที่สนุกสนาน ดังนั้นโปรดรับชมและเพลิดเพลินไปกับ THE FINAL CONFRONTATION

Bogmeister

⭐ 6/10

ประเด็นที่ศัตรูของซีซาร์หยิบยกขึ้นมาคือ โคลป์ (ดาร์เดนในหนวดหมุนวนอย่างสง่างามและตัวร้ายที่คลั่งไคล้) ในภาพยนตร์ Apes เรื่องที่ 5 และเรื่องสุดท้ายนี้ แต่กษัตริย์มักจะมีศัตรูมากกว่าหนึ่งคน ดังที่ซีซาร์พบ ซึ่งทำให้พระองค์ต้องโศกเศร้า การติดตามผลของ “Conquest of the Planet of the Apes” ที่คาดเดาได้และส่วนใหญ่เป็นตรรกะ อย่างเช่น “Beneath the Planet of the Apes”

เน้นย้ำถึงแอ็คชั่นไซไฟมากกว่าธีมเชิงลึกใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับทาสหรือความตื่นตระหนกทางวัฒนธรรม . หลายปีหลังสงครามนิวเคลียร์ เราพบหมู่บ้านที่เงียบสงบอย่างน่าประหลาดใจแต่ดั้งเดิม ซึ่งถูกครอบครองโดยทั้งลิงและมนุษย์ ซึ่งปกครองโดยชิมแปนซี ซีซาร์ (แมคโดวอลล์) ผู้เริ่มการปฏิวัติในภาพยนตร์ภาคก่อนในฐานะเด็กหัวรุนแรง ตอนนี้แก่กว่ามาก – ไม่ว่าจะแก่กว่าประมาณ 10 หรือ 30 ปี ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาต่าง ๆ – เขาแสดงบุคลิกความเป็นพ่อที่ใจดี

มันไม่ใช่สวรรค์เลย แม้ว่าจะไม่ใช่ทาสเหมือนอย่างลิงเมื่อก่อน

แต่มนุษย์ก็เปลี่ยนมาเป็นพลเมืองชั้น 2  Battle for the Planet of the Apes (1973) แม้ว่าจะมีภาพลักษณ์ของความเท่าเทียมกัน และความตึงเครียดก็ทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องจากกอริลลาอันธพาลในท้องถิ่น อัลโด (เอคินส์ – ‘โทรหาฉันด้วยตำแหน่งที่เหมาะสมของฉัน นายพล) ฮะ!’) ดูหนังออนไลน์  จากนั้นซีซาร์เองก็เปิดประตูสู่ปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยการเยี่ยมชมเมืองที่มีอาวุธนิวเคลียร์ใกล้เคียง (เห็นได้ชัดว่าเป็นเมืองเดียวกันจากภาพยนตร์เรื่องที่แล้ว) ที่นั่น

ผู้ว่าราชการที่เป็นมนุษย์จาก “Conquest…” ถูกแทนที่โดยหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของเขา Kolp ซึ่งแย่พอที่จะเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 2 – ตอนนี้เขาเบื่อหน่ายกับการที่ต้องร่อนเร่ไปตามซากปรักหักพังพร้อมกับผู้ติดตามที่กลายพันธุ์เพียงไม่กี่คน – ถึงเวลาจัดการกับปัญหา ซบเซาและสอนลิงฉลาดให้แสดงความเคารพ

โดยทั่วไปรายการนี้ถือเป็นภาพยนตร์ที่แย่ที่สุดใน 5 เรื่อง หากแฟน ๆ ส่วนใหญ่ต้องเลือกสักเรื่อง แต่ก็ไม่ได้เสียเปล่าเลยเมื่อเปรียบเทียบ มีการต่อสู้ในตอนจบจริงๆ เป็นสงครามเล็กๆ ระหว่างมนุษย์กลายพันธุ์ที่บุกรุกและหมู่บ้าน แต่การเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายระหว่าง Caesar และ Aldo ก็ดำเนินไปอย่างช้าๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้เกือบจะเหมือนกับเป็นต้นกำเนิดของผลงานไซไฟหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยุค 80

ผู้กำกับ

• J. Lee Thompson

บริษัท ค่ายหนัง

• Apjac International

นักแสดง

• Roddy McDowall
• Claude Akins
• Natalie Trundy
• Severn Darden
• Lew Ayres
• John Huston

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ยังคงมีสงครามต่อสู้กันระหว่างวานรและมนุษย์ที่หลงเหลืออีกต่อไป รวมทั้งมนุษย์รบกับมนุษย์กันเอง ลงเอยด้วยการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งทำให้มนุษย์ที่ถูกรังสีกลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์หน้าตาผิวหนังผิดเพี้ยน เกิดเป็นสงครามระหว่างวานรและมนุษย์กลายพันธุ์ขึ้นอีกหลายครั้ง ทั้งฝ่ายวานรเองก็ยังมีความขัดแย้ง-การหักหลังด้วยกันเอง แต่ลงท้ายที่สุดแล้ว วานรนำโดย ซีซาร์ ก็เป็นฝ่ายชนะมนุษย์ แต่ก็เต็มไปด้วยความสูญเสีย ซีซาร์สลดใจจึงประกาศเลิกทาส สร้างสันติภาพใหม่โดยมุ่งหมายให้วานรและมนุษย์เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขให้ได้

บทสุดท้ายของเทพนิยาย Apes อันน่าทึ่ง  Battle for the Planet of the Apes (1973) การเผชิญหน้าที่น่าระทึกใจที่สุดเท่าที่เคยมีมาเมื่ออารยธรรมทั้งสองต่อสู้กันเพื่อสิทธิในการสืบทอดสิ่งที่เหลืออยู่ในโลก! ตอนสุดท้ายของตำนานพิภพวานร (ในโรงนะครับ เพราะหลังจากจบชุดนี้แล้ว ยังมีการสร้างมาเป็นซีรี่ส์อีก 2 ชุด นั่นคือ Planet of the Apes ในปี 1974 ความยาว 14 ตอน ตอนละ 60 นาที และในปี 1975 ก็มีอออกมาอีกชุดนึง ในชื่อว่า Return to the Planet of the Apes ความยาว 13 ตอน ตอนละ 30 นาที ซึ่งเรื่องราวมันจะเกี่ยวกับ เหล่านักบินอวกาศไปเจอพิภพวานร แล้วก็ผจญภัยกันไปนั่นแหละ)

การถ่ายทำหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อ 14 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ในแวนคูเวอร์

บริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ออกฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 ที่นิวยอร์ค และออกฉายทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 จัดจำหน่ายโดยทเวนตี้เซนจูรี่ฟ็อกซ์ ทำรายได้รวมทั้งหมด 490 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ โดยเฉพาะในด้านผลงานการแสดง เทคนิกภาพพิเศษ เนื้อเรื่อง การกำกับภาพยนตร์ และดนตรีประกอบ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบริติชอะคาเดมีฟิล์มครั้งที่ 71 สาขาเทคนิกภาพพิเศษยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 90 สาขาเทคนิกภาพพิเศษยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแซเทิร์นอวอร์ดสี่สาขา รวมถึงสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม (รีฟส์) และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (เซอร์กิส)

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Beneath the Planet of the Apes (1970) ผจญภัยพิภพวานร

Escape from the Planet of the Apes (1971) หนีนรกพิภพวานร

Conquest of the Planet of the Apes (1972) มนุษย์วานรตลุยพิภพ

Logan (2017) โลแกน เดอะ วูล์ฟเวอรีน