Spring Breakers (2012) กิน เที่ยว เปรี้ยว ปล้น

ดูหนัง Spring Breakers (2012) กิน เที่ยว เปรี้ยว ปล้น

รีวิว

Kanin The Movie

Spring Breakers (2012) กิน เที่ยว เปรี้ยว ปล้น (Harmony Korine, 2012)

( 7 / 10 )
.
1) จริงๆอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกจริตกับภาพยนตร์แรงๆของ Harmony Korine (มือบทเรื่อง Kids) ที่นำเสนอเรื่องราวของสี่สาวมัธยมปลายที่ทริปไป Spring Break (สุปดาห์หยุดยาวช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ) ที่นำพาพวกเธอไปพัวพันกับอาชญากรรมผ่านตัวละครพ่อค้ายาและอาวุธ ซึ่งถูกนำเสนออย่างตรงไปตรงมา รุนแรง หนักหน่วง และทวีคูณไปจนถึงการฆ่าแกงกันตอนท้าย แต่ตัวหนังไม่ได้นำเสนอความทุกข์ทรมานของตัวละครหญิงในเรื่อง หากแต่เลือกจะแสดงให้เห็นหลายๆช่วงเหตุการณ์ในหนัง พวกเธอเลือกที่จะกระทำสิ่งเหล่านั้นเอง ทั้งๆที่มีโอกาสที่จะแยกตัวและกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ แต่พวกเธอหลายๆคนเลือกเองทั้งหมดทั้งมวล
.
2) หนังอุดมไปด้วยฉากอบายมุขอย่างที่คุ้นเคย: เซ็กส์, ยาเสพติด, ปาร์ตี้ ซึ่งนำพาตัวละครในเรื่องให้ไปติดคุกและเจอกับตัวละคร James Franco ที่พาเธอเข้าสู่โลกอาชญากรรม หนึ่งในนั้นคือการเป็นโจร / รูปแบบที่ Spring Breakers (2012) กิน เที่ยว เปรี้ยว ปล้น ร้ายกาจคือใช้ภาพลักษณ์ตัวละครหญิงมาใส่ความรุนแรงในแบบผู้ชาย ผ่านความฮิปของคอสตูมหรือการถ่ายภาพที่เรารู้สึกเหมือนดู music video แนวๆซักเพลง เพราะหนังก็อุดมไปด้วยเพลงแนวๆอยู่แล้ว อาจจะไม่ใช่ภาพจำมากแต่รู้สึกว่ามโอเคเลย
.
3) หนังมีซีนดีๆเต็มไปหมดเลย เป็น the best moment ในชีวิตการดูหนัง หนึ่งในนั้นคือฉากเพลง Everytime ของ Britney Spears ที่ตัวละครในเรื่องร้อง เป็นซีนที่ดีที่สุดแล้ว ชอบมาก เพลงเพราะ และจัด insert รุนแรงเข้าไปแทน ทั้งโรแมนติกและหดหู่ แต่ยังดีที่หนังไม่ได้เลือกจะเล่าความเป็น coming of age ของตัวละครมาก มันเหมือนกับสถานการณ์ตกสู่หลุมดำของพวก ผญ ในเรื่องมากกว่า มันมีทางจะออกมาได้หลายๆโอกาส แต่ถ้าไม่รีบคว้าไว้ มันก็เริ่มจะยากขึ้นทุกๆที
.
4) ดาราในเรื่องแซ่บทุกคน สี่สาว Vanessa Hudgens, Selena Gomez, Ashley Benson และ Rachel Korine จัดเต็มความถ่อย ความเซ็กซี่ เป็นตัวละครที่ต่างมีทัศนคติของตัวเอง ตอนแรกคิดว่าจะแบนราบ แต่หนังให้พื้นที่ตัวละครแต่ละคนได้พูดถึงสิ่งที่ตัวรู้สึกและกระทำลงไปด้วย แต่ต้องชมการทรานส์ฟอร์มของ James Franco ในบทเอเลี่ยน (ชื่อนะไม่ใช่เป็นเอเลี่ยน) ความระยำตำบอนแต่ดูจริงใจของเค้าทำให้ตัวละครหญิงสาวทั้ง 4 มีชีวิตที่เปลี่ยนไป บางคนก็ชอบเค้า บางคนก็รู้สึกกลัว ซึ่งตัวละครนี้เป็นกรณีที่น่าสนใจของการโน้มน้าวคนเข้าสู่อาชญากรรมแบบเต็มใจ เป็นอะไรที่ดูรุนแรงและเรียลดี

Spring Breakers (2012) กิน เที่ยว เปรี้ยว ปล้น เป็นหนังที่อาจจะไม่ได้ดีงามมาก ตัวละครในเรื่องไม่ได้ถูกชี้นำและแนะแนวทางคำสอนให้รู้จักเติมโตหรือก้าวพ้นเรื่องแย่ไป หากแต่ปล่อยให้ตัวละครรวมถึงคนดูเผชิญกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำไปและกำลังจะเกิดขึ้น เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างซื่อสัตย์กับคนดูได้ และท้ายสุดแม้ว่าหนังจะเลือกจบแบบปลายเปิดแต่เราก็พอจะเข้าใจหลายๆอย่างที่เกิดกับตัวละครทุกคนในเรื่องได้ดีพอสมควรเลย

Kanin The Movie

Spring Breakers (2012) กิน เที่ยว เปรี้ยว ปล้น – ★★★★

กำกับโดย: Harmony Korine

ประเภท: แอ็คชั่น-อาชญากรรม-ดราม่า

ความยาว: 94 นาที

เรต: R

“เพราะชีวิตนี้ฉันเลือกทางที่จะเดินเอง..”

จะว่ากันตามตรง เป็นหนังที่เฉยๆในทีแรกมาก แต่ที่ทำให้อยากดูคือการเปิดเจอซีนเพลง Everytime ของ บริทนีย์ สเปียร์ ในหนังเข้า เลยรู้สึกอยากดูเลย และทันใดนั้นก็เจอแผ่นเรื่องนี้ในร้านหนังในราคา 59 บาท ผมจึงไม่รอช้าจะเสพผลงานสุดเซอร์เรื่องนี้โดยพลัน
หนังมันไม่มีสตอรี่อะไรเลย ผญ สี่คน: ในนั้นมีสองคนสนิทมาก อีกคนออกแนวแรดๆ อีกคนเคร่งศาสนาแต่อยากจะออกไปโลกข้างนอกเพราะเบื่อบ้าน ทั้งสี่ได้มีส่วนร่วมในการปล้นร้านเอาเงินไปเที่ยว Spring Breakers แต่แล้วก็ต้องเข้าไปพัวพันกับเจ้าพ่อค้ายาแห่งถิ่นนั้น หลังจากเขาประกันตัวพวกเธอมาหลังจากถูกจับ

คือหนังมีวัตถุความเป็นหนัง หลายๆประเภท ทั้งการมีท่าทีจะเป็น coming of age ในหลายๆห้วง , การเป็นหนังอาชญากรรม gangster ด้วยการปูสตอรี่ปัญหาทางอาชญากรรม , การเป็นหนังสะท้อนสังคมอเมริกันที่นำเสนอความคิด อุดมคติของสาวๆที่มีต่อการเที่ยว หรือ ต่อสังคม
แต่ให้ถามว่าหนังมีประเด็นที่สามารถแตกได้ครบ สมบูรณ์ไหม

ต้องบอกว่ามิใช่อย่างแน่นอน เรียกได้ว่า Spring Breakers (2012) กิน เที่ยว เปรี้ยว ปล้น มีลักษณะเป็นหนังทดลองมากกว่า (ในด้านการถ่ายทำ และ ลำดับเนื้อเรื่อง) แต่เนื้อเรื่องของหนังก็ยังนำเสนอออกมาได้จัดจ้าน แม้เส้นเรื่องจะสามารถพูดได้ว่าเดาทางได้ หรือถ้าเดาไม่ได้ก็ไม่ได้นำไปพาไปสู่จุดที่ ‘แตกต่างอย่างน่าสนใจ’ เช่น การที่ตัวละครต้องประสบพบเจอกับเรื่องราว หรือ จุดเปลี่ยนชีวิต , ความอยากรู้อย่างลองของวัยรุ่น , ตัวละครที่ถูกกิเลสครอบงำ ล้วนแต่มีหนังเรื่องอื่นๆทำมากันแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องโดดเด่นคือ การนำเสนอผ่าน voice over

หนังถ่ายทอดเรื่องราวตัวละครในหลายๆช่วงผ่านเสียงของตัวละคร โดยหนังไม่ได้เลือกจะยัด voice over ตัวละครทุกตัวมั่วๆ แต่เลือกจะโฟกัสไปยังตะวลครที่หนังต้องจะปลอกเปลือกหัวใจ ไม่ว่า voice over นั้นจะทำหน้าที่อะไร แต่เสียงตัวละครได้ตอบโจทย์สตอรี่ และ ปมในใจตัวละครต่างๆมากมายในหนัง เพื่อเวลาให้หนังอยู่ในระดับสั้น ซึ่งค่อนข้างได้ผล รวมถึงเส้นเรื่องหลักที่เหมาะสำหรับการเล่าแบบนี้ มันเลยดูจริงจัง และ หนักแน่นพอตัว

แม้หนังจะนำเสนอลักษณะ montage รวมภาพที่ทั้งมีความหมาย และไม่มีควาหมาย แต่มิติตัวละครก็ถือว่าไม่ได้ fantasy เกินไป ตัวละครหลายๆตัวดูมีเลือดเนื้อจิตใจ โดยเฉพาะ faith (เซเลน่า โกเมซ) ซึ่งเป็นตัวละครที่เด็กสุดในหนัง ทั้งในด้านจิตใจและรูปร่าง และยังเป็นตัวละครที่คลายปมหนังให้อยู่ในระดับตึงเครียดได้ในกลางเรื่อง คือถ้าไม่มีตัวละครนี้จะรู้สึกว่าแม่งจะสนุกกันเกินไปละ

Spring Breakers (2012) กิน เที่ยว เปรี้ยว ปล้น หนังเลยเปลี่ยนโทนเลย เมื่อจุดสำคัญของชีวิตเธอ / คือตัวละครอื่นก็มีจุดพลิกผันตัวเองนะ แม้แต่พี เอเลี่ยน (เจมส์ ฟรังโก้) ชายนักค้ายา ที่พูดว่า ‘คนอื่นเขาอยากเกิดมาเป็นคนดี แต่กูอยากเกิดมาเป็นคนเลวว่ะ’ ก็เป็นตัวละครที่มีมิติในระดับหนึ่ง เราพอจะรู้เรื่องความสัมพันธ์อะไรหลายๆอย่างได้จาก voice over และการพูดคุยกับตัวละครสาวๆ เรียกได้ว่าไม่ใช่หนังวัยรุ่นดาดๆที่จะมาทำห่ามๆกันแบบหนังไล่เชือดแน่นอน สี่ตัวละครสาวและชายหนึ่งคน มีอารมณ์ ความรู้สึกและ ชีวิตที่แตกต่างกันจริงๆ

พูดถึงในแง่ของอารมณ์หนัง หนังมีโทนเนื้อเรื่องที่สนุก หรรษา มีจุดให้เครียดๆ ไมไ่ด้แปลกไรมาก มันแปลกตรงการนำเสนอ และความสุดโต่งในหลายๆช่วงมากกว่า ส่วนตัวดูหนังชีวิตวัยรุ่นชิบหายมาเยอะ ที่มีทั้ง เนื้อ นม ไข่ ทั้งนั้น แต่เรื่องนี้ ผกก.จัดเต็มนมเป็นพิเศษเลย คือมันมาเยอะจนเกินไปอะนะ โทนหนังมันเลยเป็น mv จริงๆนั่นแหละ มีเพลงแดนซ์ๆเปิดเกือบทั้งเรื่อง และก็มี footage คนมาแดนซ์ๆ จนแทบจะลืมว่าตัวละคร 4 คนก็อยู่ในนั้นนะ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่ามันน่าสนใจได้ คือมันจะมีในหนังก็แค่นิดๆหน่อยๆไง นี่แม่งล่อเกือบ 40 % ของหนังเลย / แต่มิใช่ว่ามันจะเป็นหนังปาร์ตี้ห่ามๆแบบ project x หรืออะไรก็ตามแต่ หนังจัดว่าอยู่ในอารมณ์ตึงเครียด กดดัน ในแง่ศีลธรรม

เราสามารถมองตัวละครพวกนี้ในระดับแค่ว่า ‘เด็กเกรียน’ แต่เมื่อมันไปสู่โลก ‘อาชญากรรม’ ไอ้คนที่มันถอยมาก่อนก็ยังดี แต่คนที่เลือกจะอยู่และเกิดการกู่ไม่กลับนี่ ค่อนข้างหดหู่นะ เสียดายที่หนังมีช็อตใน รร น้อยไปหน่อย มันน่าจะทำให้เราเห็น contrast มากกว่านี้ อันนี้ตัวละครในหนังมันมีดีๆน้อยไง เราเลยไม่ได้หดหู่อะไรมาก แค่ดูชีวิตของัตวละครแค่นั้นแหละ จะมีหว่งก็แค่ตัวละคร เซเลน่า นั่นแหละ เพราะเธอ อินโนเซนต์ มากมาย

มาพูดถึงโปรดักชั่น จะบอกว่าหนังอินดี้ก็ใชนั่นแหละ แต่ด้านการออกแบบซีนนี่ไม่อินดี้เลย การมีฉากปาร์ตี้ spring break ถือว่าไม่ธรรมดาเลย (ไม่รู้ว่าของจริงไหม แต่คิดว่าน่าจะจริงนะ คือมันเยอะมาก ตรงชายหาดอะ) เออมันรู้สึกว่าเป็น เทศกาลที่ใหญ่โตของเขา แม้หนังจะนำเสนอให้เห็นความเสื่อม แต่สุดท้ายหนังก็ทำให้เห็นว่า วัยรุ่นเลือกจะมาสนุกกันได้ที่นี่ โดยไม่ได้ทำผิดกฏหมาย ดั่งการเป็นปาร์ตี้ครั้งยิ่งใหญ่ของวัยมัธยมของเขา ซึ่งผมก็มองอย่างงั้น ไม่ได้มองว่ามันเป็นความชิบหายอะไร เพราะเราเลือกจะไปหรือไม่ไปก็ได้ (แต่หนังก็เหน็บตัวละครให้ปล้นเพราะ เพื่อนๆไปกันหมดแล้ว)

นอกจากนั้น หนังยังมาการงานภาพสุดเฟี้ยวฟ้าว เราจะได้เห็นเทคนิคด้านภาพ การจัด compostion แปลกๆตลอดภาพยนตร์ คือมันเมหือน mv วัยรุ่นเกรียนๆมาก อย่างที่บอก คือไม่มีมิติ หรือการจัดวางเป็นลำดับเลย ลักษณะเหมือน ถ่ายเล่นๆ มันเลยเซอร์ๆดี แต่ในความเซอร์ก็มีความหมาย ในหลายๆฉากมีมุมภาพที่ดีมากๆ ผกก. เลือกจะใส่ช็อตนู้นนี่แบบเข้าถึงเนื้อหา ใน insert เยอะมากๆ ในระดับสัสๆ ถ้าตัด insert ไปคงเลือก ชั่วโมงเดียว ตัวละครจะทำเหตุการณ์แต่ละอย่างนานมาก คือเนื้อเรื่องไม่มีไรอย่างที่บอกอะ แต่หนังก็ทำให้ดูมีอะไรนะ อย่างฉากปาร์ตี้ก็จัดเต็มมาก เหมือนตัวละครไปเมายาด้วยจริงๆ

ที่ชอบสุดคือการตัดต่อและการเกรดสี ไอ้การตัดต่อเนี่ยคงเป็นความเก๋าของทีมโดยเฉพาะ คือหนังมันตัดตามใจกูนั่นแหละ มีการนำภาพซีนต่อไปมาซ้อนกับซีนนี้และใส่ voice over ทับ คนดูเลยสับสนว่ามันเกิดยังวะ หรือยังไม่เกิด หรือมันทำก่อนเกิดหรือทำหลังเกิดว่ะ อันนี้แม่งสนุกแม่งสร้างให้หนังมีมิติอย่างชัดเจนเลย ไม่ใช่แบบเล่าๆไปตรงๆเรื่อยๆ พอมันสลับ random footage แล้วสนุกจัดเลยแจ้ / เกรดสีดีงามมาก แม้จะเป็นสีไฟจริงๆก็เยอะ แต่เกรดสีก็ทำให้หนังอยู่ในระดับดีงาม เริ่มจากสีโทนร้อนในที่ๆดูเหมือนจะหนาว และการเกรดสี ไฟชมพูจัดๆไปเลย ฟ้าจัดๆไปเลย รวมถึงคอสตูมที่มาแบบเต็มจริงๆ สีสะท้อนแสง หน้ากากไอ้โม่ง ชุดบิกินี่ คือแม่งงาน fashion week อีกรอบ สวยงาม เซ็กซี่ และมีศิลปะ โดยเฉพาะไอ้โม่งสีชมพูกับชุดว่ายน้ำ มันก็ปกติอยู่หรอกถ้าไม่ได้ใส่ไปปล้นอะ / สรุปคือชอบตรงนี้ที่สุด

ดนตรีในหนังทำออกมาดีนะ เพลงคือ copy เขามาหมดนั่นแหละ ชอบสุดคือ Everytime เข้ามาถูกจังหวะมาก แม้ เจมส์ ฟรังโก้ จะร้องเชี่ยมาก แต่ทีมงานก็ใส่เสียงบริทนีย์เข้ามา (ถูกจังหวะมาก) เลยเป็น moment สำคัญที่จะไม่ลืมไปตลอดกาลเลย / เสียงเอฟเฟ็คคือไม่มีอะไรนอกจากไอ้เสียงที่มัน เสียงชักปืน หรือ เสียงกดเปิดเครื่องเก็บงานในร้านนี่แหละ เดาไม่ออกแต่มาตลอดการ cut ซีน หรือไม่ cut ก็ดันใส่ คือตัวละครไม่ได้ทำห่าไรหรอก แต่ใส่มา แม่งแปลกดี เออชอบ

สุดท้ายการแสดง ทุกคนสี่คนสี่สาว ไม่ได้เล่นดีไรหรอก แม่งเหมือนเป็นตัวตนจริงๆมั้ง (ฮา) คือแรดจริงๆ โหดสัสจริงๆ คำหยาบมาตลอดแหละ โดยเฉพาะ Vanessa Hudgens และ Rachel Korine นี่จัดเต็มสัสๆ / Ashley Benson น่ารักงะ ชอบมากมาย / Selena Gomez เล่นดีสุดละมั้ง มีบทดราม่าเยอะสุดละ และเป็นตัวละครที่คนดูเข้าอกเข้าใจสุดๆจริงๆ / สุดท้าย James Franco , แม่งเล่นกูอีกแล้ว พี่แก transform ตัวเองตลอด มาคราวนี้หัวยันตีนเลย สำเนียง การพูด ปมตัวละครพี่แกตีแตกจริงๆ คืออยากให้พี่แกเล่นแบบนี้บ่อยๆ (คือ the interview ก็ฮาสัสๆ)

Spring Breakers (2012) กิน เที่ยว เปรี้ยว ปล้น คือหนังที่สนุก ได้ข้อคิด และความบ้าบิ่น แน่นอนว่ามันไม่เหมาะสำหรับคนหลายๆกลุ่มแน่นอน หนังยังคงจัดจ้านด้านภาพ ภาษา และเนื้อหา แต่สำหรับผม ถือว่าเป็นหนัง solf สุดๆเมื่อเทียบกับผลงานหนังเสียดสีวัยรุ่นเรื่องอื่นๆ แต่ที่ไม่น้อยหน้าคือการนำเสนอด้านภาพ การตัดต่อ และ โปรดักชั่น ที่ทำให้หนังเกิดคำว่า ‘มีสไตล์’ จนส่งให้ได้คะแนนถึง 4 ดาวนั่นเองครับ 😃

ผู้กำกับ

Harmony Korine

บริษัท ค่ายหนัง

• Muse Productions
• Annapurna Pictures
• Division Films
• Radar Productions

นักแสดง

• James Franco
• Selena Gomez
• Vanessa Hudgens
• Ashley Benson
• Rachel Korine
• Gucci Mane

โปสเตอร์หนัง

เรื่องย่อ

ดูหนังออนไลน์ Spring Breakers (2012) กิน เที่ยว เปรี้ยว ปล้น นักศึกษาสาวสี่คนเปิดร้านอาหารเพื่อหาทุนในช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิ ขณะกำลังปาร์ตี้ ดื่มเหล้า และเสพยา พวกเธอถูกจับกุม แต่กลับได้รับการประกันตัวจากพ่อค้ายาและอาวุธ

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Baby Driver (2017) จี้ เบบี้ ปล้น

The Town (2010) เดอะ ทาวน์ ปล้นสะท้านเมือง

30 Minutes or Less (2011) 30 นาทีพี่ขอปล้น

Oceans Eleven (2001) คนเหนือเมฆปล้นลอกคราบเมือง

Public Enemies (2009) วีรบุรุษปล้นสะท้านเมือง